ร้อนระอุ ตลอดช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าไม่พูดถึงไม่ได้เสียแล้วสำหรับการเมืองบ้านเราในตอนนี้ ในยุคที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร วิดีโอลิ้งก์ กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กระจัดกระจายยึดถนนหลายเส้นทางในช่วงหยุดสงกรานต์ และเผาทำลายของสาธารณะมากมาย
ในยุคที่ภาวะการเมืองเกิดสี แตกต่างทางความคิด แวดวงบันเทิงนอกจากได้รับผลกระทบจากงานอีเวนต์ โชว์ตัว คอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งธุรกิจ เศรษฐกิจ การเมืองคลุมเครือและตกต่ำควบคู่ ในมุมของดาราวัยรุ่น ศิลปินชื่อดัง เขาคิดต่อเรื่องนี้อย่างไร เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “เชน ธนา ลิมปยารยะ” หรือ “เชน ไนซ์ทูมีทยู” นักร้องขวัญใจวัยรุ่นจากค่ายอาร์เอสฯ
ดารา ศิลปิน นักร้อง (ส่วนใหญ่) ที่ไม่ต้องขึ้นเวทีหรือแสดงออกไม่ได้ว่าฝักใฝ่ฝ่ายใด อาจด้วยเหตุผลจากต้นสังกัด ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จึงทำให้ศิลปินดาราบางคนแสดงออกสีเสื้อของตัวเองชัดเจนมากไม่ได้ จะมีเพียงดารารุ่นใหญ่ๆ อย่างตั้ว ศรัณยู ,จอย ศิริลักษณ์,หรั่ง ร็อกเครสตร้า,สุกัญญา มิเกล มาลีฮวนน่า และอีกหลายวง เลือกอยู่ข้างพันธมิตรฯ เสื้อเหลือง ส่วนฝ่ายเสื้อแดงก็มีโด่ง อรรถชัย,เจ๊ดา ดารุณี กฤตบุญญาลัย,ไพจิตร อักษรณรงค์,วิสา คัญทัพ ที่ออกตัวชัดเจนว่ารักเสื้อแดง
“เชน” นอกจากเป็นหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ขวัญใจวัยรุ่นภายใต้ชื่อวง “ไนซ์ทูมีทยู” วัยรุ่นคงคุ้นหูกับพวกเขาดี ด้วยท่าเต้นและแนวเพลงที่ออกมาแล้วกว่า 3 อัลบั้ม และเพิ่งจะเปิดตัวอัลบั้มใหม่ ให้บรรดาแฟนเพลงได้ติดตามผลงาน เห็นหน้าใสๆ ร้องเพลงสไตล์วัยรุ่น แต่พอจับเข่าคุยเรื่องการเมือง หนุ่มเชนก็ตอบแบบจริงจังกับเราทันทีว่า “คุยการเมืองได้ครับ” แม้จะยอมรับกลายๆว่า การเป็นศิลปินนักร้องเขาเขา บางครั้งก็ต้องเลือกที่จะอยู่แต่กลาง (ในทางคำพูด) แต่โดยเนื้อแท้เชื่อบ้านเมืองวุ่นวาย คิดต่างแต่สามารถอยู่ร่วมกันได้
เหตุเกิดจากการเมือง
“เรื่องบันเทิงตอนนี้เหมือนการทำให้ประชาชนคลายเครียดมากกว่า แต่ถามว่ามันกระทบมากมั้ยก็มีบ้างครับ ส่วนตัวผมเนี่ยกระทบอยู่แล้ว เพราะว่าทำร้านเสื้อผ้าอยู่ที่สยาม มีข่าวม็อบมาก็เปิดบิลไม่ได้ขายไม่ได้ ก็กระทบนะครับ เพื่อนๆที่ขายของในสยามด้วยกันก็แย่มาในเดือนนี้ คืนสัญญาไปหลายร้านมาก ตรงสยาม ลิโด้ ครึ่งส่วนหลังนี่ไปเกือบหมดแล้วเพราะว่ามันขายไม่ได้เลย พอมีข่าวการเมืองทั้งเหลืองทั้งแดง ไม่ฟื้นแล้ว”
“เชนถือว่าสนใจเรื่องการเมืองนะครับ เชนเรียนธรรมศาสตร์ด้วยก็เป็นเรื่องที่ติดตามตลอด เห็นอะไรในหลายๆๆอย่างในบ้านเมือง ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนก็ทำอะไรไม่สมควรเยอะ”
เป็นกลางและแอบเอียง
“เชนยอมรับครับว่าบางครั้งเวลามีสื่อมาถามผมก็มีเอนเอียงบ้างครับ..” นักร้องดังตอบหลังโดนคำถามเรื่องการชุมนุมที่ผ่านมา.. “แหมหลักฐานมันก็มีเห็นชัดๆกันอยู่ แล้วผลกระทบก็มีตัวเลขที่ตกลงมาในเรื่องของตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่กันทั้งโลก นอกบ้านก็แย่ ในบ้านก็แย่ครับ”
“จะให้พูดตามตรงเลยก็คือการเมืองสำหรับดาราเนี่ยแสดงออกแทบไม่ได้ เราต้องเป็นกลาง เราเป็นคนของประชนชน อาจจะเลือกฝั่งไม่ได้ แต่มันคงต้องไปแก้ที่ว่าเราเองต้องไปทำอะไรเพื่อส่วนรวมไปก็แล้วกัน”
“เวลาเลือกตั้งเชนเลือกจากนโยบายเป็นหลัก ประวัติของเขา ความเป็นธรรมศาสตร์เข้มข้นนะครับ ผมเชื่อแบบนั้น ผมเคยเข้าไปดูสถานการณ์มาแล้วด้วย เคยไปของสีเหลือง แดงยังไม่เคย ผมไปฟังก็มีเนื้อความที่คนที่รักชาติมารวมตัวกัน แต่ถ้าถามผมว่าบางอย่างสมควรมั้ย มันก็ไม่สมควรก็มีครับ มันมีประโยชน์และมีมุมที่เราต้องเข้ามาฟัง เข้ามาศึกษาว่าเอ๊ะถ้าเกิดเรามาอยู่ข้างนอก เราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ก็ลองเข้าไปดู ต้องลงสนามครับถึงรู้ว่ามันคืออะไร แล้วมาชั่งน้ำหนักเอาเองว่าเรื่องนี้มันมีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน”
การเมืองใหม่
“จริงๆการเมืองใหม่ (ที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย4นาทีในคูหา) ดีนะครับ แต่บนพื้นฐานของการยอมกันบ้างเพราะถ้ามีขึ้นมาแล้วมีกลุ่มหนึ่งไม่ยอมมันก็ไม่จบน่ะครับ แค่สองขั้วอาจไม่พอ ควรมีใครเข้ามาจัดการ ทุกวันนี้ไม่รู้อะไรต่ำ อะไรสูงแล้วครับ แย่มาก มันต้องมีจุดที่พวกเราตกลงกันได้นะครับ ก่อนที่เราจะไปพึ่งพระบารมีของพระองค์ท่าน ทางออกจริงๆผมมองไม่เห็นทางเพราะผมก็ติดตามพอสมควร แต่ถ้าไม่จบก็แย่ครับ บางคนก็ทำเพื่อส่วนรวม บางคนก็ทำเพื่อตัวบุคล แล้วต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน มันเลยมองไม่เห็นตอนจบ”
แตกต่างแต่ไม่แตกแยก
“เวลาโชว์ก็ส่วนโชว์ครับ มีการคุยกันบ้างแต่เราจะไม่เอาเรื่องการเมืองมาจริงจังครับแตกต่างแต่อยู่ร่วมกันได้ อย่างอเมริกา ผิวเหลืองก็อยู่ได้แล้ว ของเราสีผิวก็เดียวกัน พ่อก็คนเดียวกันทำไมเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้” หนุ่มหน้าใสเล่าถึงเรื่องราวของตนเวลาออกทัวร์คอนเสิร์ตและมีการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง
เสียงจากคนบันเทิง
ทั้งในฐานะนักร้อง และคนทำมาหากินคนหนึ่ง เชนคาดหวังว่าให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน และให้นึกถึงประชาชนตาดำๆไว้เสมอ
“อยากให้หันเรื่องการเข้าหากัน ตอนนี้มันมีตัวละครไม่กี่ตัว แต่ตัวละครที่ว่านี้ทำให้คนทั้งประเทศลำบาก ไม่มีจะกินแล้วคนที่เป็นหนี้สินแล้ว พวกคุณเงินแค่แสน แค่ล้านอาจดูน้อย แต่คนบางคนฆ่าตัวตายเพราะ 1 พันบาท 2 พันบาทก็มี”
ก่อนจะทิ้งท้ายฝากถึงบรรดาแฟนคลับวัยรุ่นทั้งหลาย “เชน”บอกกับเราว่าการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่ต้องศึกษามองข้ามไม่ได้ เพราะประชาชนคือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
