หนุ่มผมยาว ที่มากับรอยยิ้มเก๋ๆ สไตล์หนุ่มอารมณ์ติสต์ “เอ” สุภัสสร รัตตกุล หลานชายของอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ อย่าง ดร.พิจิตต รัตตกุล ที่ผันตัวเองจากสถาปนิก มาทำธุรกิจนำเข้าจัดจำหน่ายเครื่องครัวจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าระดับพรีเมียม โดยสินค้าที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้ ได้แก่ Green Pan ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วันนี้ M-open จึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปพูดคุย ทำความรู้จักนักธุรกิจหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ คนนี้
กว่าจะเป็น Green Pan
กระแสตื่นตัวเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในแวดวงคนรักสุขภาพทั้งหลาย แต่หารู้ไม่ว่าอุปกรณ์ทำอาหารอย่างกระทะ ก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เช่นกัน ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารคนหนี่ง อีกทั้งยังเคยไปร่ำเรียนอย่างจริงจัง คุณเอ สุภัสสร รัตตกุล จึงเล็งเห็นความสำคัญของกระทะทำอาหาร จนกระทั่งหันมาจับธุรกิจตัวนี้ขึ้น
“หลังจากผมไปเรียนทำอาหารมา ผมก็กลับมาเมืองไทย แล้วไม่เห็นว่ามีเครื่องครัวแบบที่ผมเคยเห็นที่เมืองนอก ผมก็เลยเริ่มเอามาขาย ตอนเริ่มใหม่ๆ ผมคิดว่าเราจะเอาแบรนด์ที่ดังๆจากทั่วโลก ที่ไม่เห็นในเมืองไทยมาก่อน แบรนด์ทุกตัวที่ผมเอามา เป็นแบรนด์ที่มีชื่ออยู่แล้วในต่างประเทศ เรียกว่าเป็นอันดับหนึ่งในด้านต่างๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายมากในการที่จะเอาของดีอยู่แล้วมาขาย
กรีนแพนผมก็เพิ่งรู้จักเมื่อปีที่แล้ว เพราะอายุเขาก็เพิ่ง 1 ปีเท่านั้น แต่ผมแปลกใจนะว่า แต่ละแบรนด์ที่ผมเอามา อายุเกือบร้อยห้าสิบปี เกือบร้อยปี สี่สิบปี มันนานนะ แล้วผมก็ลองมานั่งดูแแต่ละแบรนด์ ว่า ณ จุดกำเนิดเขาคิดค้นอะไรใหม่ๆ ได้ เขาถึงได้เป็นแบรนด์ใหม่ มันคือเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดแบรนด์ใหม่ๆขึ้นมา จนถึงจุดหนึ่งช่วง 40 ปีหลังแทบไม่มีแบรนด์ใหม่เกิดขึ้นในระดับโลก พอไม่มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น จนกรีนแพนที่เป็นอะไรใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ เอามาทำเป็นแบรนด์ใหม่ นี่แหละที่ผมสนใจ
ความเป็นกรีนมันก็คือกระแส สำหรับคนหลายคนในกรุงเทพฯ กรีนมันคือแกรนด์ของธุรกิจของเขา มันไม่ใช่ว่า อยู่ดีๆ เรามาทำเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งแล้ววันนี้บอกว่าว่าเราทำที่มันกรีนออกมา แต่สักพักก็ทำเครื่องดื่มรสอื่นออกมาแล้ว แต่กรีนแพน ยังไงมันก็คือกรีนตลอด เพราะรากฐานทำให้ผมชอบมาก แบรนด์ใหม่ผมไม่ได้เจอมานานแล้ว ผมเลยรีบคว้าไว้ แล้วเทคโนโลยีมันใหม่จริงๆ มันตอบปัญหาที่คนเถียงกันมานาน แล้วมันไม่มีทางออกได้”
เสียงบอกเล่าที่มาของกระทะสีเขียวจากปากของ คุณเอ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ของบริษัท จีวา คอร์ปอเรชั่น จำกัด
กระแสตอบรับ
“ตอนนี้ผมเพิ่งจะลองขาย เริ่มขายจริงๆ ก็วันนี้ครับ(วันเปิดตัวสินค้า) ผมเน้นจุดขายตามห้างสรรพสินค้า มีที่เซ็นทรัลเกือบทุกสาขา เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม พารากอน ตั้งฮั่วเส็ง นี่คือที่หลักๆ
ทุกคนที่ใช้ชอบหมด แม้แต่พนักงานของผมเองที่ทำหน้าที่ขาย แนะนำสินค้า มันเป็นสินค้าที่พนักงานของผมเก็ตได้ในแวบแรก ได้ลองใช้ครั้งแรกก็รู้สึกเลยว่า นี่มันคือ Something แล้ว(ยิ้ม) มันทำให้ผมมั่นใจมาก คนที่ใช้มาก็โอเค ใช้แล้วไม่มีปัญหาอะไรเลย กระทะร้อนแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา ไม่มีคราบกระทะไหม้”
คุณเอเล่าถึงคุณสมบัติของ “Green Pan” พลางอมยิ้มเมื่อพูดถึงสินค้าของตัวเอง
จุดหักเห
เมื่อถามถึงประวัติการศึกษาของคุณเอก็ต้องเกิดความสงสัย ว่าหลังจบปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว เหตุใดจึงเบนเข็มไปเรียนด้านการทำอาหารงถึง 2 ปี ที่ชิคาโก คุณเอ เลยอธิบายให้เราฟังว่า
“ผมจบมาในรุ่นที่เศรษฐกิจมันพังปีนั้น แทบไม่เหลือแล้ว ตอนนั้นมีแต่ตกงาน ก็เลยเอาความชอบมาเรียนต่อ ตอนนั้นงานมันยังไม่มี ก็เลยมาเรียนต่อดีกว่า ซึ่งด้านการทำอาหารเป็นส่วนที่ชอบอยู่แล้ว”
นอกเหนือจาก Green Pan
บริษัท จีวา คอปอเรชั่น จำกัด นอกจากจะนำเข้าและจัดจำหน่าย กระทะเพื่อสุขภาพแล้ว ยังมีสินค้าระดับพรีเมียมอื่นๆ อีกหลายตัว หนึ่งในนั้นเป็นมีดหลากหลายชนิด ใช้สำหรับงานแต่ละประเภทที่ต้องการคุณภาพและการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกัน
“ผมเอามีดเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้ามาขาย มองอะไรที่ใหม่ๆ เรามองถึงสินค้าที่มันดีจริงๆ แล้วพอมันไปได้ เราก็จะหยิบมา” คุณเอ พูดถึงสินค้าอีกตัวที่อยากนำเสนอให้ฟัง
งานกับชีวิต
เมื่อเราถามถึงการทำงานของคุณเอในสัปดาห์หนึ่งๆ ก็ได้รับคำตอบว่า
“มันก็พูดยากนะ เพราะบริษัทก็อยู่หน้าบ้านผม จะว่าทำงาน 24 ชม. หรือจะว่าไม่ทำงานเลยมันก็ไม่ต่างกัน งานมันอยู่ในหัวตลอดเวลา แต่พอไม่มีอะไรมันก็ไม่ต้องทำงาน มันก็ระบุไม่ได้ว่าจะทำงานในช่วงไหน แต่ความรับผิดชอบก็ต้องมี จริงๆ แล้วงานมันยุ่งเป็นบางช่วง แต่บางช่วงก็ไม่มีอะไรมาก ผมว่าผมอยากทำสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีมากขึ้น เพราะชอบสิ่งที่ทำอยู่ อยากให้เจริญไปตามลำดับ ผมยังไม่คิดจะเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น”
ดนตรี...อีกหนึ่งความชอบส่วนตัว
พูดเรื่องธุรกิจไปแล้ว ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาคุยในอีกด้านของชีวิตคุณเอกันบ้าง นอกจากเขาจะชอบงานออกแบบ ทำอาหารแล้ว ยังชอบเล่นดนตรีอีกด้วย
“ผมเล่นกีตาร์อยู่ครับ พอดีพ่อผมเล่นกับเพื่อนๆ ในวงอาทิตย์ละ 3 วัน แนวที่เล่นก็เป็น ยุค 60 70 ต้น 80 ประมาณนี้ ส่วนผมก็ออกเป็นแจ๊ซหน่อย เล่นในเวลาว่างๆ เป็นงานอดิเรก”
เมื่อได้พูดถึงอีกเรื่องที่ชอบ สีหน้าจริงจังจากการคุยธุรกิจเมื่อครู่ก็เริ่มผ่อนคลายลง แววตาดูอ่อนโยนราวกับหนุ่มช่างฝัน เราจึงแปลกใจว่าทำไมคุณเอไม่เรียนด้านดนตรีอย่างที่ชอบ คุณเอจึงอธิบายให้เราฟังอีกเรื่อง
“ตอนเรียนต่อ ก่อนจะมาเรียนทำอาหารผมก็ว่าจะเรียนต่อด้านดนตรี แต่ผมไม่อยากทำเป็นอาชีพ แค่ขอเป็นมือสมัครเล่นก็พอ ขอไปเรียนทำอาหารดีกว่า ดนตรีผมก็เคยเรียนมาบ้าง สมัยเรียนมัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย แต่ผมไม่อยากเรียนต่อ เพราะมันอิ่มตัว เคยเล่นตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคยประกวดตามจุฬาฯ ด้วย ก็เหมือนกับวัยรุ่นทั่วๆ ไปนั่นแหละ ผมเล่นเป็นแบรนด์ ตามงานมหาวิทยาลัย มีงานทุกครั้ง ก็เล่นทุกครั้ง ปีหนึ่งๆ ก็เล่นหลายครั้ง เหมือนกัน” คุณเอเล่าถึงประสบการณ์สนุกๆ สมัยเรียนให้เราฟัง
ของสะสม...กีตาร์ตัวโปรด
“จริงๆ แล้วมีกีตาร์อยู่ 20 กว่าตัว (เยอะมาก) ก็อยากขายนะ เราก็เล่นไม่ไหว เรารักทุกตัว แล้วก็ซื้อใหม่อยู่เรื่อยๆ ด้วย ก็พยายามเล่นให้ทั่วๆ ตอนนี้ตัวโปรดเป็นกีตาร์ที่สั่งทำ เป็นช่างที่ทำกีตาร์ด้วยมือ คุยกันด้วยอีเมล เพราะผมรู้จักชื่อเสียงเขา เขาทำอย่างที่ผมต้องการได้”
คุณเอพูดไป พลางอธิบายถึงที่มาของกีตาร์ตัวโปรดให้เราฟัง
หนุ่มผมยาว
เห็นคุณเอ ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง ก็เลยอยากรู้ว่าเพราะเป็นนักดนตรีหรือเปล่า คุณเอยิ้ม ก่อนจะบอกว่า
“ไม่นะ ผมจำได้ว่าตอนเรียน รด. ผมก็ให้เขาตัดตลอด แต่มันตัดสั้นมากผมก็เลยไม่ชอบ หลังจากผมเข้ามหาวิทยาลัย ผมก็ไม่ได้ตัดอีกเลย เพราะผมเกลียด ผมไม่ชอบให้คนถือมีดมาตัดผม พอยาวผมก็ให้ช่างเขาตัดทีหนึ่ง แค่นั้นแหละ”
หนุ่มติสต์ อารมณ์ดี
อารมณ์ที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นของคุณเอ ทำให้เราถามกลับไปว่า เล่นดนตรีอย่างนี้ แสดงว่าคุณเอเป็นคนอารมณ์ดีหรือเปล่า?
“ก็นิดหน่อย”(หัวเราะตายิบหยี)
แล้วอารมณ์ดีอย่างนี้มีสาวๆ ดูแลหรือยัง? คุณเอตอบด้วยความเต็มใจว่า
“มีแฟนแล้วครับ คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจุฬาฯ ก็ 10 กว่าปีแล้ว การเลือกว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ผมเป็นคนไม่มีสเปก การคบกันมา10 กว่าปี มีผลที่ทำให้เรามาเป็นคนแบบนี้ได้ถึงทุกวันนี้ ผมว่าไม่ใช่เพราะว่าผมเลือกคน แต่กลายเป็นเพราะว่าเป็นคนคน นี้ที่เราอยู่ด้วย มันสอดคล้องกับชีวิต กลายเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขไปโดยปริยาย”
ก่อนจะจากกันเราเลยให้คุณเอฝากอะไรถึงธุรกิจ Green Pan กระทะเพื่อสุขภาพเสียหน่อย
“ก็ควรจะเริ่มทำในสิ่งที่เราถนัดก่อน ไม่ตามกระแส เพราะทำในสิ่งที่เราทำได้ดี แล้วสักวันกระแสก็จะตามมาทางเราเอง ” คุณเอ สุภัสสร รัตตกุล ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดทีเดียว