ยังไม่มีสำนักสถิติ หรือสำนักวิจัยใดๆ ออกมาระบุตัวเลขอย่างเป็นทางการแน่ชัด ว่ามีชายหนุ่มกี่ล้านคนทั่วโลกเกิดอาการอกเดาะ ชอกช้ำระกำทรวง หลังจากทีนควีนแห่งฮอลลีวูด น้องนางผู้สุดแสนจะเอ็กซ์-เซ็กซ์-บอมบ์! อย่าง ลินด์เซย์ โลฮาน โบกมือลาผู้ชายอกสามศอก แล้วหันไปเล่นดนตรีไทยกับดีเจสาวหล่อสุดฮอตนาม ซาแมนธา รอนสัน และมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ขำๆ เพราะทั้งคู่แสดงความจริงใจโดยการจูงมือกันและกันไปแนะนำตัวต่อหน้าบุพการีของทั้งสองฝ่ายมาแล้ว...
นับจากวันแรกที่เธอทั้งสองควงกันอวดความสวีทหวานต่อหน้าสาธารณชน ตราบจนกระทั่งบัดนี้ ความรักของทั้งคู่ยังคงอยู่ดีมีสุข ท่ามกลางหยาดน้ำตาของเหล่าชายหนุ่มที่เคยมีสาวทีนควีนนั่งอยู่กลางหัวใจ...
"ผมรักคุณ... ผมรักคุณ..." น้ำเสียงครวญคร่ำของ แดเนียล แพทริค โคมบ์ หนุ่มใหญ่ที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะครุบตัวไว้ได้ หลังจากที่เขาเฝ้าตามประชิดตัว และพร่ำสารภาพรักกับดาราสาวมากเสน่ห์คนนี้ด้วยท่าทีไม่น่าไว้วางใจ หลังเธอเยื้องกรายออกมาจากภัตตาคาร Jackrabbit Lounge ในเวลาดึกดื่นค่อนคืน แน่ล่ะ, เขาอาจเป็นภัยคุกคามต่อตัวเธอ แต่ถ้าลองมองอีกมุมหนึ่ง อาจได้ความรู้สึกที่สะเทือนใจกว่า เพราะว่าหนุ่มโคมบ์คนนี้ ได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนหนึ่งกระบอกเสียง ถามไถ่แทนชายชาตรีอีกนับล้านคนว่า น้องนางเจ้าเอย เบื่อผู้ชายแล้วหรือไร ไยเจ้าจึงหันมารักกัน !
แซมกับลินเซย์อาจอยู่ไกลเกินเอาเครื่องบันทึกเทปไปจ่อปากสวยๆ ของเธอทั้งสอง และเราก็ไม่ต้องการทำถึงขนาดนั้น ตราบเท่าที่ 'ความรัก' ยังเป็นสากล ไม่ว่าความรักจะเกิดขึ้น ณ แห่งหนตำบลใดของโลกใบนี้ รักนั้นย่อมมีคุณค่าและน่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน...
ตัดภาพมาที่ประเทศไทย -- ถ้าใครทำเป็นไร้เดียงสา มาทำเป็นแอ๊บแบ๊วบอกว่าไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นผู้หญิงรักกัน มันก็น่าหยิกเกินไป ใช่ไหม, เพราะทุกวันนี้ ผู้หญิงควงผู้หญิงมีให้เห็นกันดาษดื่น เป็นทัศนียภาพที่แสนจะคุ้นตา และไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป โลกเปิด สังคมเปลี่ยน ผู้คนเข้าใจ หญิงรักหญิงเปิดเผยกันได้มากขึ้น มากจนบางทีแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าคู่ไหนรักแท้ คู่ไหนเป็นแค่แฟชั่น หลายคนทำเป็นทอมไปอย่างนั้น เพราะมันเป็นเทรนด์ แต่เรื่องแบบนี้ วันเวลาจะกลั่นกรองให้เองว่าคนไหนแท้ และคนไหนเป็นแค่ของปลอมและลอกเลียนแบบ แต่พูดเรื่องความรัก คนจะรักกันมันห้ามได้ที่ไหน หมดสมัยที่จะมาบังคับจิตใจกันแล้ว ไม่ว่าจะมีเพศสรีระ (Sex) เพศสภาพ (Gender) และเพศวิถี (Sexuality) แบบไหน ก็ว่ากันไป มันไม่ใช่เรื่องผิด ไม่รู้ว่าหมูหมากาไก่มีความรักไหม พวกมันมีวันวาเลนไทน์หรือเปล่า อันนี้ไม่รู้, รู้แต่เพียงว่าสำหรับคนเหมือนกัน รักกันให้มากๆ ไว้นั่นแหละดี - และในนามของความรักที่กำลังเพิ่มพูนและทบทวีขึ้นนี้ เราก็อยากถามไถ่แทนชายไทยอีกหลายล้านคนเหมือนกันว่า น้องนางเจ้าเอย เบื่อผู้ชายแล้วหรือไร ไยสูเจ้าจึงหันมารักกัน...
"เย็นวันหนึ่ง ผมนั่งอยู่ในสวนสันติชัยปราการ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่นานก็มีสาวสวยสองคนเดินกุมมือกันมานั่งอยู่ตรงหน้า ทั้งสองสบตา แล้วค่อยๆ โอบกอด แล้วพวกเธอก็ 'จูบ' กัน จูบเอาๆ เลยพี่ เขาไม่แคร์สายตาของผมที่กำลังนั่งอยู่ตรงนั้นเลย และดูเหมือนว่ายิ่งมอง ทั้งสองยิ่งจูบกันดูดดื่มมากขึ้น ผมหันมองไปทางอื่น บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไร ไม่ได้อิจฉา แต่คล้ายกับว่ารู้สึกเกรงใจ รีบจูบกันให้เสร็จเร็วๆ หน่อยได้ไหม รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ที่มานั่งอยู่ตรงนี้ อึดอัดชอบกล (ก็คนมันไม่ทันตั้งตัว) จะลุกเดินหนีก็ไม่กล้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร และในขณะที่ผมมองเหม่อไปแบบไม่มีจุดหมาย บางคำถามก็ผุดขึ้นมาในใจ - ทำไมผู้หญิงเขารักกัน ?"
เอก - ช่างภาพนิตยสารฉบับหนึ่ง บอกเล่าเหตุการณ์อันสุดแสนจะวาบหวามบาดใจให้เราฟัง คำถามนั้นคล้ายเป็นปมที่เกิดขึ้นในใจ หลังจากวันนั้น เอกเอาคำถามนั้นไปถามเพื่อนหลายคน เพื่อนๆ ให้ความเห็นว่า ทุกวันนี้ที่เห็นผู้หญิงรักผู้หญิงมากขึ้นก็เพราะว่าผู้หญิงมีความอ่อนโยนกว่าผู้ชาย อบอุ่นกว่า เอาใจเก่งกว่า และดูสะอาดสะอ้านกว่า เอกรู้สึกว่ายังไม่พอ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น และเขาอยากฟังคำตอบจากปากคำของผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกันจริงๆ มากกว่า "ฝากถามให้หน่อยนะพี่" เอกว่า...
และต่อไปนี้คือหลากหลายทัศนะและเรื่องราวของหญิงสาวผู้ยอมบอกเล่าว่า เพราะเหตุใด เธอกับเธอ จึงไม่เหลือพื้นที่ของหัวใจไว้ให้ผู้ชายเลยสักคน!
เพราะว่าผู้ชายมันเลว!
"ก็ผู้ชายมันเลวน่ะพี่" น้องมิว นักศึกษาปี 1 (เธอขอไม่บอกชื่อสถาบัน) เธอบอกว่าที่เธอชอบผู้หญิงก็เพราะผู้ชายเอาแต่ใจ ชอบใช้กำลัง สกปรก โสโครก เยี่ยวไม่เป็นที่ เจ้าชู้ ไม่จริงใจ เอาแต่ได้...
"หนูว่าสันดานผู้ชาย เหมือนกันหมดทุกคน" เจอคำตอบแบบนี้ เราถึงกับสะอึกอยู่ในอก
"จริงๆ นะคะพี่ โทษทีนะคะที่พี่เป็นผู้ชาย หนูก็มีเพื่อนผู้ชาย คบหาเป็นเพื่อนได้ แต่พอเป็นแฟนกัน หนูเห็นมันเหมือนกันหมดทุกคน พี่คงมองว่าหนูอคติ ใช่ไหม, มันก็อาจจะใช่ อคติ, แต่เท่าที่หนูเห็นมา ผู้ชายก็เป็นเหมือนกันหมดทุกคน ชอบใช้อำนาจ รังแกผู้หญิง อย่างเพื่อนหนูคนหนึ่ง เป็นสาวแล้ว กลับบ้านดึกหน่อย พ่อยังเอาไม้ตีอยู่เลย"
พอจะเข้าใจ มิวคงเจอแต่มุมที่ไม่เข้าท่าหลายอย่างของผู้ชาย แต่ ไม่เป็นไร เธอเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 อายุยังน้อย ยังมีเวลาให้เรียนรู้โลกและชีวิตอีกเยอะ...
คุยกับนักศึกษาปีหนึ่งแล้ว เราลองมาคุยกับนักศึกษาปี 3 ดูบ้างว่าความคิดเห็นของเธอทั้งสองจะแตกต่างกันขนาดไหน...
ฝ้าย - นักศึกษาปี 3 จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เธอบอกว่าไม่ได้เกลียดผู้ชาย คุยกับผู้ชายได้ทุกคน แต่...
"หนูไม่ชอบผู้ชายที่ชอบแสดงความแมน ข่มผู้หญิง คิดว่าตัวเองทำได้คนเดียว ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ทำ หนูว่าผู้ชายดีๆ มันก็มีบ้าง เพียงแต่หายาก และหนูคงไม่เจอด้วย... แล้วหนูเหมือนมีความเชื่ออยู่ลึกๆ ว่า ผู้หญิงมั่นคงในความรักมากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงคุยกันเข้าใจง่ายกว่า คุยได้ทุกเรื่อง ละเอียดอ่อนเหมือนกัน และส่วนมากเอาใจเก่งด้วย"
ฝ้ายบอกว่าผู้ชายไม่ค่อยเอาใจ หรือจะเอาใจก็เฉพาะช่วงจีบใหม่ๆ และผู้หญิงจะสะอาดกว่า ผู้ชายสะอาดก็มี แต่จะได้ผู้ชายแบบนั้นมาเป็นแฟนยาก!
"แล้วหนูคิดว่า ยุคนี้ การแต่งงาน มีลูก มีครอบครัว ไม่ใช่ที่สุดของชีวิต ผู้หญิงหลายคนก็อาจคิดเหมือนหนู เลยคบผู้หญิงด้วยกัน แล้วมันก็ไม่เสียหายอะไร " ฝ้ายว่าอย่างนั้น
รักแท้มีอยู่จริง
จากนักศึกษา, เราลองมาฟังเสียงหวานๆ ของสาวทำงานดูบ้างว่าพวกเธอจะมีความคิดเห็นเป็นประการใดกับเรื่องนี้...
"คบกับผู้หญิงอบอุ่นกว่าค่ะ อ่อนโยนกว่า และเอาใจเก่งกว่าด้วย" จีจี้ - อดีตพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งให้ความเห็น
"ตอนแรกเขามาชอบเราก่อน ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเขามาเอาอกเอาใจ ก็เลยรู้สึกบางอย่าง ตอนนี้เราคบกันมา 3 ปีแล้ว เราชอบที่เขาเอาใจ"
จีจี้มองว่า หญิงรักหญิง ไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นความชอบและถูกใจมากกว่า และเธอเชื่อว่ามีรักแท้ เธอเชื่อเรื่องนี้...
ส่วนอารยา - ประชาสัมพันธ์สาวสวยบอกว่าเธอชอบผู้หญิงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...
"รู้แต่ว่าคบกับแฟนมา 3-4 ปีแล้ว เพราะเราสวย นิสัยดี เขาก็เลยมาชอบเรา (หัวเราะ) ส่วนเราชอบเขาเพราะว่าเขาเอาใจ ดูแลดีมาก แถมไม่ท้องด้วย"
อารยาบอกว่ารักแท้มีอยู่จริง เธอกับแฟนวางแผนชีวิตคู่กันไว้ว่าในอนาคตจะซื้อบ้าน ซื้อรถ ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข และไม่ต้องการมีลูก
มีเซ็กซ์กับผู้ชายมันทรมาน
สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนสตรี เมโลดี้ แอบชอบนักกีฬา (หญิง) ในโรงเรียนคนหนึ่ง แล้วในที่สุดวันหนึ่ง เธอก็ได้เป็นแฟนกับเธอ...
"ต่อมาเลิกกัน ไปคบผู้ชาย แต่รู้สึกไม่ชอบ ก็เลยกลับมาคบผู้หญิงอีก ก็เลยรู้ตัวมาตั้งแต่ตอนนั้นว่าตัวเองชอบหญิงแน่ๆ"
ปัจจุบันเมโลดี้ทำงานเป็นรีไรเตอร์ประจำนิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่ง ทุกวันนี้เธอบอกว่าเกลียดสรีระผู้ชายมาก ไม่ชอบกล้าม รู้สึกว่าสกปรก มีกลิ่นเหม็น และเธอไม่มีวันจะกลับไปรักผู้ชาย ไม่เคยคิด และไม่สนใจ...
"เราเคยโดนผู้ชายที่เคยคบตบมา และการมีเซ็กซ์กับผู้ชายมันทรมาน เราไม่ชอบมีเซ็กซ์กับผู้ชาย แต่คบกับผู้หญิงเรารู้สึกว่าปลอดภัยกว่า ไม่เสี่ยงที่จะท้อง กับแฟนคนปัจจุบันเราคบกันมา 4 เดือนแล้ว คุยกันถูกคอ เขาเอาใจเก่ง มีความมั่นใจในตัวเอง แล้วเขาก็ทำตัวง่ายๆ สบายๆ"
เมโลดี้บอกว่าเธอไม่รังเกียจที่จะตั้งท้อง แต่เธอขอไม่มีอะไรกับผู้ชาย อยากมีลูกมาก แต่ก็กลัวเด็กจะมีปัญหาในอนาคต ฉะนั้น เธอขอไม่มีดีกว่า
ไม่ว่าใครจะมองหญิงรักหญิงด้วยทัศนคติและเหตุผลกลใดก็ตาม แต่สำหรับ R-Ti (Pa'ko) (ชื่อที่เธอใช้ในกระทู้บ่อยๆ เธอบอกว่าถ้าใช้ชื่อจริง แม่รู้ก็ตายน่ะสิ) เว็บมาสเตอร์สาวตี๋สุดหล่อบอกว่า 'ฉันเป็นฉัน' คือเหตุผลเดียวที่ถูกต้องที่สุด...
"ตั้งแต่เกิดมาก็ชอบผู้หญิง จีบผู้หญิง แล้วก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด บางคนเขาอาจเป็นเพราะสังคม กลุ่มเพื่อน เทรนด์ หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ ความจริงเราก็อยากมีชีวิตที่เหมือนคนทั่วไป เพียงแต่วันนี้ฉันยังเป็นแบบนี้ มีความสุข และรักที่จะเป็นหญิงรักหญิง"
R-Ti (Pa'ko) คบกับแฟนสาวมาได้ 5 เดือนแล้ว และก่อนหน้านี้แฟนของเธอก็คบผู้ชายมา...
"เรามีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน เพราะเราเป็นผู้หญิงเหมือนกัน (มั้ง) เขาหงุดหงิดเพราะอะไร ใกล้ถึงเวลารอบเดือนมา อะไรประมาณนี้"
R-Ti (Pa'ko) ให้ความเห็นว่าความรักไม่มีเพศ หญิงควงหญิง ชายควงชาย เป็นเรื่องธรรมดา คนยอมรับมากขึ้น ก็เลยมีคนกล้าแสดงออกมากขึ้น
"เราเคยโดนผู้ชายหลอกมาเป็นปีๆ!" นี่คือเสียงสะท้อนของแยม - นักข่าวสาวสายเศรษฐกิจจากสำนักข่าววิทยุแห่งหนึ่ง มันก็น่าเจ็บใจ หลอกกันอยู่ได้เป็นปีๆ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะบทเรียนจากการถูกหลอกมาเป็นปีๆ นี้หรือเปล่าที่ทำให้เธอมีทัศนคติที่ว่า...
"ผู้ชายค่อนข้างแข็งกระด้าง เอาแต่ใจ ไม่อ่อนโยน ชอบเอาชนะ อวดรู้ อวดดี บางทีไม่รู้แล้วทำเหมือนรู้ (โง่แล้วอวดฉลาด) ชอบทำตัวเป็นผู้นำไม่ว่าจะสถานการณ์แบบไหน แต่แฟนคนนี้ (เป็นผู้หญิง) เราคบกันมา 5 เดือนแล้ว เป็นห่วงเป็นใย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เล่าปัญหา ปรึกษากันได้ เรารักเหมือนเพื่อน ดูแลเหมือนแฟน จะได้อยู่กันยาวๆ และคอนเฟิร์มว่าผู้หญิงอ่อนโยน ทะนุถนอม และไม่ใช้ความรุนแรง"
แยมบอกว่าในหมู่ผู้หญิงรักผู้หญิงด้วยกัน เธอมีความเห็นว่า ความจริงใจ และรักแท้มีอยู่มาก เธอบอกว่าบางทีอาจมากกว่าหญิงรักชายด้วยซ้ำไป...
สังคมเปิด... จนไม่มีทางปิดลงได้แล้ว
"บีว่าผู้หญิงสมัยนี้ความคิดเปลี่ยน บีเคยถามผู้หญิงหลายคนว่าทำไมชอบผู้หญิง ส่วนมากจะได้คำตอบว่า คุยกันรู้เรื่อง รู้ว่าต้องการอะไร บีรู้สึกว่าผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันมันต้องมีเชื้อ หมายถึงไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อนก็ต้องเคยมีแฟนเป็นทอมมาก่อน..."
นี่คือบี - เออี (Senior Marketing Rep.) สาวจากบริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง เธอบอกว่าอยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนี้จะมาชอบผู้หญิงด้วยกันมันเป็นไปไม่ได้
"โอเค, คนที่ชอบผู้หญิงด้วยกันอาจแค่ปลื้มกับความเป็นเลสฯ แต่ว่าอันนี้คือชอบ แล้วมันต้องมีเชื้อบางอย่างมา และมันก็มีหลายอย่าง ทั้งความรู้สึก เซ็กซ์ และอื่นๆ อีกมากมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย"
และการที่ผู้หญิงคบกันมากขึ้นทุกวันนี้ บีให้ความเห็นว่าผู้ชายสมัยนี้นิสัยแย่กว่าเมื่อก่อน เกย์ก็เยอะ คบผู้ชายแล้วมาเป็นเกย์ทีหลัง บีบอกว่าคบทอมดีกว่า...
"พูดตรงๆ คือมีอะไรกับทอมมันไม่เสียหาย อันนี้คือในความคิดนะ แต่จริงๆ แล้วมันก็เสียหาย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร หญิงรักหญิงที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้มันก็มีรักกันจริงๆ มีรักแท้ แต่มันก็เป็นแฟชั่นมากเหมือนกัน"
บีมองว่าสังคมสมัยนี้เปิดเยอะ เปิดเยอะมากจนไม่มีทางจะปิดได้แล้ว หญิงรักหญิงไม่ลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น อยู่ที่ว่าประชากรทอมหรือดี้ที่จะเพิ่มขึ้น...
และคนสุดท้ายคือ ป๊อป - นักข่าวสาวมาดเท่จากหนังสือพิมพ์ชื่อดังฉบับหนึ่ง ป๊อปวางมือจากคีย์บอร์ดตรงหน้า แล้วหันมาตอบคำถามเรา - ทำไมเธอรักผู้หญิง ?
"เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงรักผู้หญิงด้วยกันมากขึ้นทุกวันนี้ เราว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้ชายเป็นเกย์ เจ้าชู้ คบดูแล้วไม่เวิร์ก และในบริบทที่แคบลงคือ ผู้ชายรักแล้วอยากฟัน ฟันแล้วท้อง ท้องแล้วไปทำแท้ง แต่ถ้าไปฟันกับผู้หญิงด้วยกันมันจะไม่ท้อง
"และอีกอย่างที่สำคัญคือ ปัจจุบันนี้ปัญหาชีวิตคู่เยอะมาก คนในวัยพ่อวัยแม่เลิกร้างกันมาก และลูกก็ได้เห็นภาพการแยกทางกันของพ่อกับแม่ ไปดูเถอะ คนเป็นทอมเป็นดี้ ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ที่บ้านมีปัญหาทั้งนั้น ส่วนหนึ่งมันเป็นวิกฤตศรัทธาจากสถาบันครอบครัวในเมืองใหญ่ ส่วนหนึ่งอาจจะโตมาจากโรงเรียนประจำ ส่วนหนึ่งพ่อแม่ไม่ให้พบเพื่อนผู้ชายเลย เอาลูกเข้าโรงเรียนหญิงล้วน เพื่อนเราเยอะมากที่เป็นแบบนี้ และอาจด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ด้วยวัฒนธรรมต่างชาติ สื่อจากเมืองนอกที่เข้ามา..."
เขาบอกว่าผู้หญิงทุกคนมีความเป็นเลสเบี้ยนอยู่ในตัว ?
"เราก็ไม่แน่ใจว่ามันจริงแค่ไหน แต่โดยประสบการณ์ที่เรามีแฟนเป็นผู้หญิง แฟนเราครึ่งต่อครึ่งเลยที่เคยมีอะไรกับผู้หญิงปกติด้วยกัน และเคยมีแฟนเป็นผู้ชายมา เราว่าบางครั้งเรื่องของความรักเป็นเรื่องที่เราไป identify (แยกแยะ) ไม่ได้ คนที่รักกันบางครั้งเขาอาจมองข้ามช็อตว่ามันไม่ใช่การรักระหว่างเพศ แต่มันเป็นความรักในมนุษย์อีกคนหนึ่งที่เติมเต็มเขาได้ในโลกที่มันกำลังแย่ลงๆ แบบนี้"
โดยพื้นฐานของทอมกับดี้ ทั้งหมดคือเลสเบี้ยน ต่อให้แต่งตัวห้าวขนาดไหน ป๊อปบอกว่าความจริงก็คือผู้หญิงรักผู้หญิง
"บนเตียงยังถอดผ้า พวกนี้เป็นผู้หญิง" ป๊อปบอก "เขาอาจต้องการรสชาติของชีวิต ไลฟ์สไตล์คนมันไม่เหมือนกัน ส่วนที่เป็นแฟชั่น, ส่วนหนึ่งเป็นแฟชั่นในเด็กที่อยู่ในโรงเรียนชายล้วน หรือหญิงล้วน ที่เป็นเกย์ เป็นทอม เป็นดี้ อีกส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาเกิดอุบัติเหตุในชีวิต แล้วเป็นจังหวะที่คนที่เข้าไปดูแลเขาเป็นเพศเดียวกัน และอีกอย่าง, บางครั้งพ่อแม่สมัยใหม่บางคนเขามองว่าน่ารักดี ลูกคบผู้หญิงด้วยกัน เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวลูกก็เลิก"
ไม่ต้องอะไรหรอก ขนาดผู้ชายบางคนยังบอกว่าผู้หญิงจูบผู้หญิงดูน่ารักดี และที่สำคัญคือเราไม่สามารถฟันธงได้ว่าผู้หญิงกับผู้หญิงที่เดินควงกันมา กอดคอ และจูบกัน เธอทั้งสองนั้นเป็นเลสเบี้ยน!
"เพื่อนผู้หญิงบางคนเขาก็จูบกันเป็นปกติ เป็นแฟชั่นในกลุ่มของเขา อย่างคนที่เขาจบนอกมา สาวแก๊งนี้คุณไม่สามารถจะ identify ได้ว่าเขาเป็นเลสเบี้ยนจนกว่าคุณจะตามเขาไปถึงห้องนอน เพราะบางครั้งผู้หญิงเดินควงกันมา บางคู่อาจจะใช่ บางคู่อาจจะไม่ใช่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจก อย่างที่บอก ถ้าเกิดไม่เข้าไปในห้องนอน และเห็นเขาขึ้นเตียงด้วยกัน เราไม่มีวันรู้ บางคนสวยด้วยกันทั้งคู่ เดินควงกันมา เป็นแฟนกันมีอะไรกัน แต่บางคนสวยทั้งคู่ เดินควงกันมาเหมือนกัน แต่เขาก็แค่จูบ เล่นลิ้น ด้วยความน่ารักคิกขุ ก็ผู้หญิงน่ะ เขาก็จะมีการสนิทติดเพื่อน ผู้หญิงบางคนยังแก้ผ้าอาบน้ำกับเพื่อนด้วยซ้ำไป"
ป๊อปเคยไปทำข่าวงานเควียร์เอเชีย (Queer Asia - งานประชุมนานาชาติเรื่องเพศวิถี) เธอได้เจอตั้งแต่เลสเบี้ยน ทอม ดี้ ทรานส์เจนเดอร์ (ข้ามเพศ, หรือแปลงเพศแล้ว) และเกย์ บางคนทำตัวแมนมาก บางคนเป็นผู้หญิงผมยาวสวยกันมาทั้งคู่ ประมาณดาวจุฬาฯ กับดาวธรรมศาสตร์ควงกันมา อะไรทำนองนั้น
"ถ้าเรายอมรับว่าสิ่งนี้คือความหลากหลายที่อยู่ในสังคม และมองว่าการมีเพศสัมพันธ์ในวัยอันควรเป็นเรื่องของการเลือกที่จะเสพเหมือนเสพอาหารในรสชาติต่างๆ น่าจะเป็นคำอธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุดว่า มันเป็นความชอบในเชิงปัจเจกบุคคล"
นี่คือสุ้มเสียงส่วนหนึ่งของบรรดา 'หญิงรักหญิง' แห่งยุคสมัย ที่สังคมต้องรับฟัง ไถ่ถาม และพูดคุยกันอย่างจริงใจ และอาจตอบคำถามคาใจให้กับผองพันธุ์ท่านชายทั้งหลายได้บ้างว่า น้องนางเจ้าเอย เบื่อผู้ชายแล้วหรือไร ไยเจ้าจึงหันมารักกัน...
*****************************
หมายเหตุ : เพศสรีระ (Sex) หมายถึง เพศตามโครโมโซม และร่างกาย
เพศสภาพ (Gender) หมายถึง การรับรู้ตัวเองว่าเป็นเพศไหน ซึ่งอาจจะไม่ตรงตามเพศของร่างกายก็ได้
เพศวิถี (Sexuality) หมายถึง การแสดงออกทางเพศ ความปรารถนาทางเพศ และพฤติกรรมทางเพศ
เรื่อง : สุรชัย พิงชัยภูมิ
ภาพ : อดิศร ฉาบสูงเนิน
