วาระแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในกระเป๋าจะอับเฉาไปบ้าง แต่การให้ของขวัญแก่คนที่รักและนับถือ ก็มิอาจละเลย.... “ปริทรรศน์” จะพาไปชมไอเดียของขวัญปีใหม่ที่หลากหลาย และยังได้ประโยชน์ทั้งสุขภาพใจ กาย และสบายกระเป๋าผู้ให้และถูกใจผู้รับ
ของขวัญทางเลือก “สินค้าไทย”
ถูกตังค์ผู้ให้-ถูกใจผู้รับ
ประเพณีนิยมอย่างหนึ่งของคนไทยที่ได้รับการสืบสานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ในแต่ละปีก็คือ การมอบของขวัญ หรือบัตรอวยพรให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ผู้บังคับบัญชา และผู้ที่เคารพนับถือ เพื่อแสดงถึงน้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรระหว่างผู้ให้กับผู้รับ
แต่ด้วยสภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน การจับจ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยราคาแพงเป็นของขวัญ อาจไม่เข้ากับสถานการณ์เท่าใดนัก การใช้ของที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ร่วมกันส่งเสริมสินค้าไทยย่อมจะช่วยให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม มากกว่าการให้สินค้าต่างประเทศหรือของขวัญปีใหม่ราคาแพง
บัตรอวยพร ผ้าไทย ผลไม้ไทย ขนมไทย อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน แบบไทยจาก กลุ่มแม่บ้าน เกษตรกร สหกรณ์ฯลฯ จึงเป็นของขวัญทางเลือกหนึ่งที่มีราคาไม่แพงมากนัก แล้วยังเป็นการส่งเสริม สินค้าไทยให้มีตลาดกว้างขวาง เงินทองไม่ไหลเวียนออกนอกประเทศ เป็นการกระจายรายได้ และเสริมทุนให้ สินค้าไทย สามารถพัฒนาศักยภาพไปสู่ความเป็นสินค้าสากล ส่งไปจำหน่ายได้มากขึ้นในอนาคต
สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการดูแลแนะนำ ส่งเสริมกิจการสหกรณ์ กลุ่มอาชีพ กลุ่มเกษตรกร และยังได้ส่งเสริมให้มีการแปรรูปสินค้าสหกรณ์ให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปแบบที่สวยงามเพื่อให้สอดคล้อง เหมาะสมกับความต้องการของตลาด โดยปัจจุบันมีกลุ่มที่ผลิตสินค้าและอยู่ในการกำกับดูแลของสหกรณ์ประมาณ 6,300 กลุ่ม แต่ปัญหาหนึ่งที่กลุ่มยังประสบปัญหาอยู่ คือ การขาดช่องทางการจำหน่ายสินค้า
ทางสำนักพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงได้จัดโครงการจำหน่ายกระเช้าสินค้าสหกรณ์เนื่องในเทศกาลปีใหม่ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์สินค้าของสหกรณ์ กลุ่มอาชีพ กลุ่มเกษตรกรให้เป็นที่รู้จักและยอมรับจากผู้บริโภค โดยช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2552 นี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 แต่ละครั้งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้เป็นอย่างดี สามารถช่วยเหลือสมาชิกผู้ผลิตได้มากพอสมควร
โดยในปีที่ผ่านๆมามียอดจำหน่ายเกือบ 1 ล้านบาท เมื่อเฉลี่ยเป็นรายกลุ่มแล้วจะได้ประมาณกลุ่มละ 5-6 หมื่นบาท ซึ่งสร้างความพอใจให้แก่สมาชิกได้ ในส่วนของผู้บริโภคเองก็สามารถเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพเป็นของขวัญได้ สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่ายได้ผ่านการคัดเลือกคัดสรรจากกรมส่งเสริมสหกรณ์แล้ว อีกทั้งราคาก็เหมาะสมกับคุณภาพด้วย
“ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นเทศกาลที่คนทั่วไปนิยมซื้อของฝากไปมอบให้กับคนที่รักและเคารพ ซึ่งกำลังการซื้อก็จะมีสูงมากกว่าปกติ ฉะนั้นการจัดโครงการจำหน่ายกระเช้าสินค้าของสหกรณ์เนื่องในเทศกาลปีใหม่ จึงน่าจะเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับสหกรณ์และเกษตรกรอีกทางหนึ่ง” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
เปลี่ยนจากกระเช้า เป็นกล่องมหาสมบัติ
ผลสำรวจต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “กระเช้าของขวัญ” ยังคงเป็นของขวัญปีใหม่ที่คนกรุงเทพฯ นิยมมอบให้ลูกค้า หรือหน่วยงานที่ติดต่อมากที่สุด รองลงมาเป็นผลไม้ รวมถึงขนมนมเนย เค้ก คุกกี้ ผลไม้ และดอกไม้หรือต้นไม้ ตามลำดับ แต่สภาพเศรษฐกิจปีนี้ ทำให้บางคนลดการซื้อหาของขวัญลงเหลือเพียงแค่บัตรอวยพรเท่านั้น ถึงแม้ว่าการส่งบัตรอวยพรปีใหม่ดังกล่าวจะเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ไทยเราได้รับแบบอย่างมาจากต่างชาติก็ตาม
แต่การจะไปซื้อหากระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่วางขายตามห้างสรรพสินค้า อาจดูธรรมดาไป...โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ ที่มีประกาศห้ามไม่ให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในกระเช้าของขวัญปีใหม่ หลายคนบ่นอุบเพราะไม่รู้ว่าจะหาอะไรไปจัดกระเช้าแทนเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดี ไอเดียอีกแบบที่ไม่ใช่แค่กระเช้าของขวัญแบบเดิมๆ ทั้งยังสร้างความสนุกตื่นเต้นให้แก่ผู้รับ นั่นคือ การมอบของขวัญแบบใหม่ในรูปแบบ “กล่องมหาสมบัติ”
กล่องของขวัญ หรือหีบสมบัติพร้อมสินค้าราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 400 บาท คือ ไอเดียที่กรมส่งเสริมสหกรณ์คิดค้นขึ้น เพื่อจูงใจผู้ซื้อและสร้างความแตกต่างจากนอกเหนือจากกระเช้าของขวัญทั่วไป ภายในหีบสามารถระบุได้ว่าจะให้บรรจุผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกรชนิดใด โดยประชาชนที่สนใจสามารถเดินทางมาเลือกซื้อเพื่อจัดลงกระเช้าได้ด้วยตนเอง หรือจะซื้อเฉพาะกระเช้าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดสินค้าสำเร็จรูปไว้แล้วก็ได้
สินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นของขวัญปีใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแปรรูป จะมีประเภทศิลปประดิษฐ์และหัตถกรรมบ้าง โดยสินค้าที่ขายดีได้แก่ ลำไยอบแห้งจากจังหวัดลำพูน เม็ดมะม่วงหิมพานต์จากจังหวัดตราด ท็อฟฟี่ผลไม้ เช่น มังคุด สละ ทุเรียนจากจังหวัดจันทบุรี น้ำพริกหลากรสจากจังหวัดนครปฐม นอกจากนั้นยังมีน้ำเสาวรสซึ่งรสชาติอร่อยมาก หวานหอม จากจังหวัดสิงห์บุรี
“ทุ่งกุลาฟาร์ม” ขวัญข้าวขวัญถุง
สำหรับสินค้าไทยที่นำมาจำหน่ายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ นอกจากอาหารแปรรูป ผลไม้แปรรูป ผลิตภัณฑ์หัตถกรรม ผ้าฝ้าย ผ้าไหม เครื่องจักสาน ฯลฯ ที่โดดเด่นและไอเดียแปลกเก๋ไม่ซ้ำใคร คือ ชุดของขวัญกิ๊ฟเซ็ท ข้าวหอมมะลิ ตรา “ทุ่งกุลาฟาร์ม” ขนาด 1 กก. จำนวน 2 ถุง บรรจุลงถุงผ้าลดโลกร้อน ราคา 125 บาท ซึ่งนับว่าการให้ข้าวสารเป็นของขวัญปีใหม่นี้ เป็นของขวัญที่เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง และมั่นใจว่าผู้รับจะนำของขวัญที่ได้รับไปใช้ประโยชน์อย่างแน่นอน
“ข้าวหอมมะลิที่ผลิตในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ จะมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ใน 5 จังหวัดในภาคอีสาน ภายใต้แบรนด์ “ทุ่งกุลาฟาร์ม” ซึ่งเป็นข้าวสารที่ผ่านการคัดสรรเมล็ดพันธุ์อย่างดี ผลิตโดยโรงสีที่ได้มาตรฐาน GMP ซึ่งเมล็ดข้าวสารมีลักษณะเรียวยาว ขาวใส และหอมนุ่ม ที่กล่าวว่าภูมิใจนำเสนอ เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดจ้างให้มีการวิจัยและสร้างแบรนด์ข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ และจะเป็นสัญลักษณ์ข้าวสารของสหกรณ์ต่อไป ซึ่งมีราคาไม่แพงที่จะให้เป็นของขวัญของที่ระลึกในเทศกาลต่างๆ” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงจุดเด่นของข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฟาร์ม ที่เหมาะจะซื้อหาเป็นของขวัญปีใหม่
กระเช้าสมุนไพร ดีทอกซ์แบบไทยๆ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มักมีผู้นิยมซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ที่มีผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปประเภทเครื่องกระป๋อง นม ชา กาแฟ ขนมคุกกี้ต่างๆ จัดรวมไว้ในกระเช้าของขวัญ ซึ่งอาจมีผู้จำหน่ายบางรายนำผลิตภัณฑ์อาหารที่ใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วมาจัดรวมกันในกระเช้าของขวัญเพื่อจำหน่าย ทำให้ผู้ที่ได้รับกระเช้าได้บริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัย
ทั้งนี้ อีกทางเลือกหนึ่งเพื่อเป็นการสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทยและส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้ สมุนไพรไทย นั่นคือการซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่ เป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดตัวเปิดตัว “กระเช้าสุขภาพ” ของขวัญปีใหม่จากสมุนไพรภูมิปัญญาไทย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนไทยใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผลิตจากหน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก องค์การเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้น
โดยในปีนี้ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์เด่นมาจัดเป็นชุดของขวัญ ในรูปแบบกระเช้าสุขภาพสำเร็จรูป เพื่อให้ประชาชนใช้มอบแก่ญาติมิตร ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ หรือโอกาสสำคัญอื่น ๆ มีทั้งหมด 6 ชุด จำหน่ายในราคาต้นทุนตั้งแต่ราคา 400-2,300 บาท ซึ่งได้มีการนำสมุนไพรไทยยอดนิยม เช่น ขมิ้นชัน มะขามป้อม ใบบัวบก และภูมิปัญญาไทยต่าง ๆ มาผลิตและแปรรูปให้ทันสมัย สะดวกต่อการใช้ ทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เครื่องหอม สปา ที่ได้มาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากกระเช้าสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือสินค้า OTOP ซึ่งสามารถนำมาจัดเป็นกระเช้าของขวัญ เพื่ออวยพรให้ผู้รับมีสุขภาพดีเริ่มต้นปีใหม่ 2552 ได้อีกทางเลือกหนึ่ง
ปากกาตรวจแบงค์ปลอม ของขวัญปีใหม่อินเทรนด์
จากกระแสเหตุการณ์ตื่นธนบัตรปลอมระบาด ส่งท้ายปีเก่า 2551 พ่อค้าแม่ค้าต่างผวาถึงขั้นติดป้ายไม่ยอมรับธนบัตร 1000 บาท ทำให้ประชาชนทั่วไปต่างหวั่นเกรงที่จะใช้จ่ายหรือรับแบงค์พัน แม้จากตู้เอทีเอ็ม
การตรวจสอบโดย "ปากกาตรวจแบงค์ปลอม" เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตรวจสอบธนบัตรปลอมที่มีราคาไม่แพง และสามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว โดยอาศัยการขีดปากกาลงบนธนบัตร โดยคุณสมบัติการตรวจสอบนั้น ถ้าหากเป็นแบงก์จริงเมื่อขีดลงไปบนแบงก์ จะไม่มีสีขึ้นมา แต่ถ้าเป็นแบงก์ปลอมจะเห็นขีดเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ทำให้หลายคนคิดจะซื้อหาปากกาดังกล่าวให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ญาติมิตรและคนรู้จัก
ปัจจุบันร้านสะดวกซื้อ อย่างเซเว่นฯ มีปากกาตรวจสอบธนบัตรปลอมขาย แต่เนื่องจากความต้องการในท้องตลาดมีมาก ทำให้สินค้าขายตลาดในช่วงนี้ แม้แต่ตามร้านจำหน่ายเครื่องเขียนทั่วไป เช่น ซีเอ็ด ก็ขาดตลาดเช่นกัน ผู้ที่ต้องการซื้อปากกาตรวจธนบัตรปลอมเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่จึงต้องรอไปอีก 2-3 สัปดาห์ คาดว่าถึงขณะนั้นน่าจะมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการจำหน่ายแล้ว
อิ่มบุญอิ่มใจ ให้วัตถุมงคล
สุขภาพกายแข็งแรงดีแล้ว สิ่งที่ละเลยไม่ได้คือ สุขภาพใจ การมอบวัตถุมงคลเป็นของขวัญปีใหม่จึงเป็นอีกหนึ่งในของขวัญที่มีผู้นิยมบูชาไปฝากผู้ที่รักใคร่ชอบพอ
กุลจิรา ชำนิบรรณการ เจ้าของร้าน การะเกด Flowers&gift จากร้านเล็กๆ ที่รับออกแบบและผลิตงานฝีมือเป็นของที่ระลึกในทุกเทศกาล เป็นอีกผู้หนึ่งที่ริเริ่มไอเดียนำวัตถุมงคลมาจัดทำเป็นของขวัญปีใหม่ โดยเริ่มต้นจากการทำเป็นของขวัญให้เพื่อนฝูงคนสนิทก่อน จนกระทั่งกลายเป็นของขวัญที่ให้ความสุขทางใจแก่ลูกค้า
“มีความรู้สึกว่าในช่วงที่ผ่านมา เรามีความสุขน้อยมาก สิ่งที่ยึดเหนี่ยวได้มีเพียงศาสนา ซึ่งตัวแทนคือ พระพุทธองค์ รวมถึงเทพต่างๆ จุดเริ่มต้นจากความที่เป็นคนชอบเข้าวัดเข้าวาอยู่แล้ว และเป็นคนชอบประดิษฐ์สิ่งสวยงาม ทำให้จุดประกายนำวัตถุมงคลต่างๆ มาจัดทำเป็นของขวัญปีใหม่เชิงพุทธพาณิชย์”
พระผงสุพรรณ “สมเด็จสามตะกรุด”, พระผง “พ่อแก่-พิฆเนศวร” สองด้าน รูปลักษณ์งามจับตา หรือพระพิฆเนศวร เนื้อโลหะ องค์เล็กครึ่งเซ็นติเมตร เลี่ยมทองไมคอน ฯลฯ ในกล่องขนาด 1 นิ้วครึ่ง บรรจุในถุงผ้าโปร่ง หรือผ้าลูกไม้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นได้ทั้งของขวัญ ของชำร่วย ในโอกาสสำคัญ รวมทั้งเทศกาลปีใหม่เพื่อความเป็นศิริมงคล
หากลูกค้าอยากได้พระพุทธรูปแทนวัตถุมงคลเช่นพระเครื่อง ทางร้านของกุลจิราก็มี “พุทธพระประจำวัน” จัดทั้งบนโตกขนาด 5 นิ้ว และขนาดใหญ่ โตก 10 นิ้ว ล้อมรอบด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ ฝีมือประณีตสวยงาม หรือจะสั่งจัดไว้บนโตกใบใหญ่ สำหรับเป็นของขวัญให้เจ้านาย หรือ ผู้ใหญ่ที่เคารพก็ได้
นอกจากนั้น กุลจิราได้ออกแบบพุทธพระประจำวันไว้ในโถแก้วทรงกลม ตกแต่งดอกไม้ประดิษฐ์ ห่อหุ้มเชิงฐานด้วยกระดาษสาสีสวยตามวัน และสามารถปกป้องฝุ่นละอองได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่นับถือพระพิฆเนศ ทางร้านได้จัดทำ “สวนทิพย์ พิฆเนศวร” สวนสวยในโถแก้วกลมขนาดเล็ก เส้นรอบวงเพียง 3 นิ้วครึ่ง จัดวางพระพิฆเนศวร เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ องค์เล็กจิ๋ว มีทั้งประทับนั่ง และประทับยืน หรือ พระแก้วมรกต ล้อมรอบดอกไม้สีสวย แล้วห่อหุ้มฐานไว้ด้วยกระดาษสา ที่ตั้งใจจัดทำไว้สำหรับให้บูชาเป็นของขวัญวันปีใหม่
“สิ่งที่เราทำเป็นพุทธพาณิชย์ ต้องดูทั้งความสวยงามและความเหมาะสม ปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ ความต้องการ เจตนา และงบประมาณของลูกค้า สำหรับของขวัญปีใหม่นั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องนึกถึงผู้ให้และนึกถึงตัวเราเอง ผู้รับปลื้มเปรม สิ่งนั้นมีคุณค่า แต่ต้องเหมาะสมกับกระเป๋าของเราด้วย ไม่ใช่หนักอกหนักใจตัวเอง ให้ความสุขเขาแต่เราทุกข์ ดังนั้น ของขวัญสำคัญไม่ใช่อยู่ที่มูลค่า แต่อยู่ที่ความตั้งใจของผู้ที่มอบให้มากกว่า” กุลจิราสรุปทิ้งท้าย
*ผู้ที่สนใจกระเช้าปีใหม่ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เทเวศร์ กรุงเทพฯ โทร. 02-628-5536 ส่วนผู้ที่สนใจกระเช้าสมุนไพรสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข สามารถโทรศัพท์สั่งซื้อผ่านศูนย์ call center องค์การเภสัชกรรม หมายเลข 1648 บริการจัดส่งฟรี รอไม่เกิน 7 วัน
