xs
xsm
sm
md
lg

‘กรองทิพย์ ธนถาวรลาภ’ เลือดใหม่ในวงการค้าข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ว่ากันว่าการค้าข้าวนั้นเป็นธุรกิจที่มีความสลับซับซ้อน ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และมีคอนเน็กชันกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนเรียกได้ว่าผู้ที่จะยืนหยัดและเติบโตในธุรกิจนี้ได้ต้อง‘เขี้ยว’จริงๆเท่านั้น ดังนั้นการที่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะฝ่าฟันเข้ามาหาที่ยืนในธุรกิจค้าข้าวจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่สาวหน้าใสคนนี้ก็หาได้ยี่หระต่ออุปสรรคนานัปการ และวันนี้เธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอคือนักธุรกิจสาวเลือดใหม่แห่งวงการค้าข้าว 'กรองทิพย์' ธนถาวรลาภ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด

ก้าวที่กล้า

ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนโตซึ่งได้เห็นความเหนื่อยยากในการทำงานของคุณพ่อมาโดยตลอด กรองทิพย์จึงวางเป้าหมายว่าอยากจะเข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว เธอเลือกเรียนปริญญาตรีด้านบริหารการต่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยเอแบค และไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) ในสาขา Enterprise and Business Growth ซึ่งเกี่ยวกับการบริหารและพัฒนาธุรกิจของตนเอง แต่ความรู้ในตำราอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ดังนั้นหลังเรียนจบเธอจึงไขว่คว้าหาประสบการณ์ด้วยการเข้าทำงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารอย่างบริษัท ซี.พี. และก็โชคดีที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจเธอจึงได้เรียนรู้งานทั้งภายในและต่างประเทศ โดยนอกจากได้ทำงานกับบริษัท ซี.พี.ที่ประเทศไทยแล้วกรองทิพย์ยังได้ไปร่วมงานกับ C.P. OVERSEA ที่ประเทศอังกฤษอีกด้วย

เมื่อเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์จนมั่นใจเธอก็ไม่รอช้าที่จะกลับมาช่วยบริหารกิจการค้าข้าวของตระกูล กรองทิพย์ได้รับมอบหมายจากคุณพ่อ (บุรินทร์ ธนถาวรลาภ) ให้นั่งในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแม้จะเห็นการค้าขายข้าวอันเป็นธุรกิจของครอบครัวมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อได้มาลงมือบริหารงานด้วยตัวเองแล้วทำให้พบว่าข้าวเมล็ดเล็กๆนี้มีเรื่องราวให้ศึกษามากมายและไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“ตอนเริ่มจับธุรกิจนี้ใหม่ๆก็ต้องเรียนรู้เรื่องข้าวทั้งระบบ เรียกว่าเข้าไปลุยถึงโรงสีเลย ไปคุยกับเจ้าของโรงสีเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับเขา ซึ่งทำให้เรารู้ว่าย่านนั้นข้าวพันธุ์อะไรดี ถ้าจะหาข้าวพันธุ์นั้นพันธุ์นี้ของที่คุณภาพดีต้องที่โรงสีไหน ใครเป็นพันธมิตรกับเขาบ้าง ต้องรู้ว่าข้าวพันธุ์ไหนมีลักษณะเด่นเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้ไม่ถูกหลอก ทิพย์ไปดูตั้งแต่การขึ้นข้าว สีข้าว การผลิตในโรงงานของเรา การตรวจสอบคุณภาพในห้องแล็บ ซึ่งหลายอย่างเราก็เรียนรู้จากพี่ๆที่เป็นพนักงาน

ต้องบอกว่าการเรียนรู้เรื่องตัวสินค้าว่ายากแล้ว การบริหารจัดการองค์กรยิ่งยากกว่า คือพอเริ่มจับทิศจับทางได้สิ่งแรกที่ทิพย์ตัดสินใจทำก็คือการจัดระบบบัญชีใหม่ เพราะการที่เราจะวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆนั้นถ้าข้อมูลไม่ละเอียดพอหรือมีความคลาดเคลื่อนทีมงานการตลาดก็วิเคราะห์ไม่ได้ เพราะผลที่ออกมาก็จะคลาดเคลื่อนตามไปด้วย นอกจากนั้นก็เริ่มพัฒนาองค์กรจากระบบครอบครัวมาเป็นระบบบริษัท เพราะทิพย์มีเป้าหมายว่าจะพัฒนาธุรกิจข้าวแสนดีจากบริษัทขนาดเล็กให้เป็นบริษัทขนาดกลาง และกำลังมุ่งไปสู่การส่งออก แต่การต่อสู้กับวัฒนธรรมองค์กรเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะคนเก่าคนแก่เขาทำงานกันมา 20-30 ปี แล้วเราเป็นใครจะมาเปลี่ยนความคิดเขา ถึงจะเป็นลูกเจ้าของบริษัทก็เถอะ เขาไม่รู้สึกว่าเขาซูฮกหรอก โห...เหนื่อยมากเลย เข้าไปถึงนี่ถูกลองของตลอด ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย เข้าไปถึงโรงงานก็เป่าปากกันวี้ดวิ้วเลย บางคนก็มองหน้าประมาณว่า อ๋อ..ลูกเสี่ยนี่ ตัวขาวจั๊วเลย ไม่เคยทำงานหนักล่ะสิ จะไหวเหรอ... อะไรประมาณนี้ (หัวเราะ)”กรองทิพย์ เล่าถึงประสบการณ์เมื่อครั้งที่เข้าไปบริหารกิจการในช่วงแรกๆ

พิสูจน์ฝีมือ

ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกทำให้หลายคนมองว่าเธอเป็นเพียงหญิงสาวร่างบางที่น่าทะนุถนอม มากกว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจค้าข้าวซึ่งจัดเป็นธุรกิจปราบเซียน ทำให้ในช่วง 2 ปีที่เธอเข้ามาช่วยคุณพ่อบริหารกิจการ มีบ่อยครั้งที่เธอถูกปรามาสและ‘ลองของ’ จนหลายครั้งที่รู้สึกท้อแต่ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมถอย ตรงข้ามเธอกลับพยายามเรียนรู้และฝ่าฟันกับปัญหานานัปการ

“ คือพอทำงานไปเรื่อยๆเนี่ย เวลามันจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง บางครั้งก็เคยท้อเหมือนกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งก็คุยกัยคุณพ่อว่า ป๊า...ทิพย์เหนื่อยจังเลย ทำยังไงดี ป๊าก็บอกว่าจะพิสูจน์ว่าม้าดีหรือไม่ดี ต้องพิสูจน์ด้วยระยะทางที่วิ่ง ถ้าม้าแข็งแรง ถึงเหนื่อยมันก็จะอดทนวิ่งไปจนถึงจุดหมาย ทิพย์ก็เลยมีแรงฮึดขึ้นมาอีก ความที่เราไม่ได้เข้าไปแบบถือตัวว่าฉันเป็นลูกเจ้าของบริษัท ให้ความเป็นกันเองกับทุกคน แล้วก็มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ เขาก็เริ่มฟังเรา อันไหนที่เหตุผลเราดีกว่า เป็นประโยชน์ต่อบริษัทมากกว่า เขาก็เลยยินดีทำตาม ถึงตอนนี้ทิพย์เข้ามาช่วยคุณพ่อบริหารงานได้ 2 ปีแล้ว ทุกอย่างก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอย

ที่ผ่านมาทิพย์ต้องพยายามสร้างการยอมรับทั้งจากคนในบริษัทและในวงการค้าข้าว ต้องบอกว่าในวงการค้าข้าวเนี่ยในรุ่นของทิพย์ซึ่งจัดเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ มีทิพย์เป็น'ผู้หญิง'แค่คนเดียว นอกนั้นเป็นผู้ชายหมด และด้วยความที่เราหน้าเด็กเนี่ย ตอนแรกๆเขาก็ไม่ให้ความเชื่อถือ (หัวเราะ) จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งไปประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์ข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ คือไปแทนคุณพ่อ นักธุรกิจรุ่นพี่ๆที่เขานั่งอยู่ด้านหลังเขาก็แซวว่า หนู...เป็นนักข่าวหรือเปล่าเนี่ย มาได้ยังไงเนี่ย หรือว่าเป็นเลขาฯ ทิพย์ก็บอกเขาอ๋อมาจากข้าวแสนดีค่ะ แล้วก็ยื่นนามบัตรให้เขาดู เขาก็ยังแซวโน่นแซวนี่ แต่เราก็คิดในแง่ดีว่าเขาแซวก็ยังดีกว่าเขาไม่คุยกับเราเลย เพราะแต่ละคนก็เป็นผู้ค้าข้าวรายใหญ่ทั้งนั้น จนตอนหลังได้เจอกันหลายๆงาน ได้เดินทางไปดูตลาดข้าวในต่างประเทศด้วยกัน เขาเห็นเราตั้งใจทำงาน แล้วก็ลุยได้ทุกที่ เขาก็เลยยอมรับ มีอะไรก็แนะนำตลอด” กรองทิพย์ พูดถึงอุปสรรคที่เคยพบเจอมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

พลิกจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง

จากความพยายามและตั้งใจทำให้ทุกวันนี้สาวหน้าใสที่ชื่อ ‘กรองทิพย์ ธนถาวรลาภ’ กลายเป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงธุรกิจค้าข้าว เพราะเธอไม่ได้เป็นเพียงทายาทที่เข้ามาสืบทอดธุรกิจ‘ข้าวแสนดี’ เท่านั้น แต่เธอยังพยายามผลักดันให้ข้าวแสนดีเป็นที่รู้จักในตลาดโลกด้วย

“ ก็วางเป้าหมายไว้ว่าจากเดิมที่ตอนนี้เราเป็นที่ยอมรับของตลาดในประเทศ คือถ้าพูดถึงข้าวแสนดี คนก็จะนึกถึงข้าวเสาไห้ 100% ชั้น 1 ต่อจากนี้ก็จะเริ่มขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยวางแผนว่า 3 ปี นับจากนี้จะทำตลาดในแถบเอเชียก่อน เริ่มจากส่งออกไปยัง ฮ่องกง ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และประเทศอาหรับ จากนั้นก็ค่อยขยายไปยังแถบยุโรป”

กรองทิพย์ ยังกล่าวตบท้ายถึงกลยุทธ์ในการทำงานของเธอว่า เธอเลือกที่จะพลิกจุดอ่อนของความเป็นผู้หญิงให้กลายเป็นจุดแข็งชนิดที่หนุ่มห้าวหลายคนนึกไม่ถึง

“ทิพย์คิดว่าจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีความสามารถเหมือนกันนะ แต่ข้อสำคัญอย่าคิดว่าเราจบมาจากเมืองนอกแล้วเราจะเก่งกว่าคนอื่น อย่าคิดว่าเรารู้ทุกเรื่อง เรารู้ก็แค่ในตำรา ยังต้องหาประสบการณ์อีกเยอะ ทิพย์เองเลือกที่จะใช้ความอ่อนน้อมในแบบของผู้หญิงให้เป็นประโยชน์ คือเราอ่อนเข้าหา ทุกคนก็พร้อมจะให้ความรู้และมีไมตรีกับเรา ไม่อวดฉลาด ไม่รู้เราก็ถาม ต้องบอกว่าอย่างเจ้าของโรงสีเนี่ยเขาเขี้ยวมากนะ แต่เขาจะพูดตรงๆ ชอบไม่ชอบ เอาไม่เอา ถ้าเราซื้อใจเขาได้เนี่ยการเจรจาธุรกิจต่างๆก็ง่ายขึ้น บางคนถึงขนาดยกตำราดูลักษณะข้าวซึ่งเขาเก็บมานมนานให้ทิพย์เลยนะ โห...ประทับใจมาก ”

* * * * * * * * * * *

เรื่อง - จินดาวรรณ สิ่งคงสิน
ภาพ - วารี น้อยใหญ่

กรองทิพย์ ธนถาวรลาภ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ข้าวแสนดี จำกัด

ข้าวแสนดี ซึ่งได้รับการยอมรับในตลาดว่าเป็นข้าวเสาไห้ 100% ชั้น 1
กำลังโหลดความคิดเห็น