xs
xsm
sm
md
lg

จังหวะดิสโก้ โซโลชีวิต... บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ชายคนนี้ได้ชื่อว่าทำให้ สาวๆกรี๊ดที่สุด...

ผู้ชายคนนี้ เป็นศิลปินที่แต่งตัวเท่ห์ที่สุด...เต้นมันส์ที่สุด...เร้าใจที่สุดในสไตล์ Disco Funk

ใช่,ผู้ชายที่กำลังกล่าวถึงนี้ ในวงการเพลงรู้จักเขาดีในนาม บุรินทร์ กรู๊ฟ ไรเดอร์ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาคือผู้บริหารหนุ่มไฟแรงทายาทรุ่นที่ 3 ของ บริษัท โตโยต้ามหานคร นั่งทำงานในตำแหน่ง Executive Director กำกับงานด้านประชาสัมพันธ์และทรัพยากรบุคคล

ชีวิตสองบทบาทของเขา ทั้ง ร้อง เต้น และบริหารงานในองค์กร เป็นสิ่งที่ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ เลือกที่จะเป็น และกลายเป็นเรื่องที่เขาภูมิใจอย่างมาก ยิ่งวันเวลาผ่านไปเขาก็ค้นพบว่า สองบทบาทนี้เกื้อหนุนและก่อตัวเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเขา


บุรินทร์ เล่าถึงความทรงจำ ชีวิตในวัยเด็ก ว่า เขาเติบโตมากับครอบครัวที่ทำธุรกิจรถยนต์เรียกได้ว่าวิ่งเล่นอยู่ในโชว์รูมตั้งแต่เด็ก จำได้ว่าตอนสมัยรุ่นคุณปู่ขายรถช่วงแรกๆ มีลูกค้าซื้อรถแบบผ่อน แล้วจากนั้นไม่นานเขาไม่มีเงินผ่อนต่อ จึงเอารถมาคืนคุณปู่ แต่ทางคุณปู่บอกว่าไม่เป็นไรเอาไปใช้ก่อนมีเงินค่อยเอามาผ่อนต่อ ทำให้ลูกค้าคนนั้นประทับใจมาก จนกระทั่งทุกวันนี้เขาเป็นเจ้าของกิจการขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในแถบอีสานเขายังมาซื้อรถกับคุณปู่แม้ว่าจะเปลี่ยนแบรนด์ไปแล้วก็ตามที

เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้บุรินทร์เข้าใจว่าสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือ “ความจริงใจ” เป็นจุดที่สร้างองค์กรโตโยต้ามหานคร ตลอดมาว่า เราไม่ได้ขายแค่รถแต่เราขายความจริงใจด้วย

“ปรัชญาที่ใช้มากว่า 60 ปีคือ เราต้องซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้าทุกคนเหมือนญาติของเรา เหมือนเพื่อนสนิทของเรา รักในหน้าที่การงานของเราเหมือนกับการร้องเพลง ถ้ารักในการร้องเพลงก็ต้องรักในแฟนเพลงของเราด้วย ผมวางแผนไว้ว่าต้องทำให้ดีกว่ารุ่นคุณปู่และรุ่นคุณพ่อผมพยายามพัฒนาด้านบริการหลังการขายซึ่งเป็นจุดเด่นของบริษัทเราให้ลูกค้าประทับใจรวมถึงคุณภาพของสินค้าเพราะแค่การขายรถนั้นมันไม่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้เพียงพอ ผมคิดว่ายังต้องมีการปรับศักยภาพของบุคลากรให้มากกว่านี้เพื่อให้เราเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ดีที่สุดครับ”

สำหรับการทำงานในฐานะผู้บริหารรุ่น 3 ของบริษัทโตโยต้า มหานคร บุรินทร์บอกว่าเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งความสามารถและความจริงใจในการบริหารเพื่อให้เข้าถึงจิตใจของลูกน้องและลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งในอนาคตผู้บริหารหนุ่มคนนี้วางแผนที่จะให้โชว์รูมขายรถกลายเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายครบวงจรมากยิ่งขึ้น

นอกจากหลักการบริหารงานที่บุรินทร์กล่าวถึง ในเรื่องของความผูกพันของเขากับรถนั้นถือได้ว่า เขาเป็นคนที่หลงใหลในความเร็วมากคนหนึ่ง บุรินทร์หัดขับรถโกคาร์ทมาตั้งแต่อายุได้ 9 ขวบขับ เก่งจนสามารถลงแข่งขันในรายการสำหรับเยาวชนคว้าแชมป์รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี มาครองได้สำเร็จ

ทว่าเมื่อต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทำให้เขาต้องหยุดขับรถแข่งไปโดยปริยาย ถึงกระนั้นความชื่นชอบในความเร็วก็ไม่ได้จางหายไป อีกทั้งตอนเรียนอยู่ต่างประเทศบุรินทร์ได้ศึกษาเรื่องรถยนต์อยู่ตลอดเวลาจนค้นพบรถคู่ใจเป็นเจ้าเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 300 ด้วยเหตุผลว่าไม่อยากขับรถแพงๆขอเน้นที่การใช้งานได้ดี คุ้มค่า สมรรถนะไม่ได้แตกต่างไปจากรถแบรนด์ดังอื่นๆเลย

“เรื่องรถไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต เพียงแต่ผมรู้สึกว่าการขับรถคือความสุขอย่างหนึ่ง ผมชอบขับรถเองดีกว่าให้คนอื่นมาขับให้ ถึงแม้ว่าถนนเมืองไทยจะไม่ใช่ถนนที่สมบูรณ์นัก เมื่อเข้าไปอยู่ในรถแล้วเหมือนกับเป็นอีกโลกหนึ่งเลยครับ”

นอกจากเรื่องของรถยนต์สิ่งที่บุรินทร์รักมากที่สุดนั่นคือการร้องเพลง เขาเริ่มต้นทำงานเพลงกับเพื่อนอีก 3 คน ในนามของ Groove Rider เมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยมีผลงานชุดแรกคือ "DiscoVery" แล้วจากนั้น 6 ปีผ่านไปพวกเขาก็กลับมาทวงบัลลังก์ในฐานะก๊อดฟาเธอร์ ออฟ ดิสโก้ ของเมืองไทย ในอัลบัมล่าสุดอย่าง "The Life" ที่คว้ารางวัลมาหลายเวที ล่าสุดบุรินทร์บอกว่ากำลังจะมีคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ของเขาที่เหมือนการทำความฝันให้เป็นจริง

สำหรับคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีขึ้นในปลายเดือนสิงหาคม จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายกับรูปแบบที่ยิ่งใหญ่รวมความเป็น Groove Rider จริงๆ ในชื่อว่า “Last Call For GR007” เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนถึงวาระของพวกเขาทั้ง 4 คนที่ต้องเตรียมรับงานใหม่ในวันข้างหน้า ที่สำคัญพวกเขายังไม่ได้แยกวงเพียงแต่ไม่มีเวลาหรือโอกาสทำงานชุด 3 เนื่องจากทุกคนมีความฝันแตกต่างกันไปมีเส้นทางชีวิตของแต่ละคน ส่วนบุรินทร์เองก็ต้องกลับมาทำงานในหน้าที่ของผู้บริหารอย่างเต็มตัวครับ

"เวลาอยู่บนเวทีผมจะสนุกไปกับเพลงของผม แล้วปล่อยความรู้สึกค่อนข้างเต็มที่ แต่โดยตัวตนของผมเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ครับ ถ้าถามว่าแล้วจะทำให้ชีวิตมีความสุขได้อย่างไร ผมเชื่อว่าคนเราต้องมีแรงบันดาลใจมาจากความรัก ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือการบริหารงาน เมื่อมีความรักเป็นพื้นฐานแล้วเราจะทำมันด้วยความจริงใจซึ่งทำให้ทุกๆอย่างที่ออกมาสมบูรณ์แบบครับ"

ในอีกมุมหนึ่งของบุรินทร์เขาคือนักสะสมตัวยงทีเดียว เขาเล่าให้ฟังว่าของสะสมในชีวิตจริงๆ แล้วมี 2 อย่าง คือ ของเล่นและซีดีเพลง

“ยังไม่เคยรื้อออกมานับเป็นจริงเป็นจังสักที แต่ไปไหนมาแล้วของที่ต้องติดมือคือซีดีเพลง สะสมมาตั้งแต่วัยรุ่นทั้งเก่า-ใหม่ รวมแล้วเข้าหลักหมื่นแล้วมั้งครับ ผมชอบทั้งงานเพลงและการดีไซน์ปกของศิลปินที่ผมประทับใจ ส่วนของเล่นคือโมเดลรถไฟเคยคิดเล่นๆว่าถ้าไม่มีรถเราจะไปไหนมาไหนด้วยรถไฟ เราจะได้ซึมซับความงดงามของธรรมชาติได้มากการเดินทางแบบอื่นเนื่องจากเส้นทางรถไฟส่วนมากตัดผ่านป่าเขา แม่น้ำ ทุ่งหญ้าแล้วยังเป็นระบบขนส่งที่มานานเป็นร้อยปี อีกอย่างผมมองว่าของสะสมเป็นการบอกเราอย่างหนึ่งว่าต้องทำด้วยใจ นิยามยังไงก็ไม่หมด คนที่มีของรักของหวงทุกคนคงมีคำตอบ”

...เรื่องราวชีวิต “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” ถือว่าไม่ธรรมดา ความรักในสิ่งที่เขาทำ ทั้งงานเพลง และงานด้านบริหาร น่าจะเป็นแรงบันดาลใจบางอย่างให้ใครหลายคน นำไปใช้กับชิวิตจริงได้


กำลังโหลดความคิดเห็น