ขอโอกาสสักครั้ง... สนองงานใต้เบื้องพระยุคลบาท

ในวงการอสังหาริมทรัพย์น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก “อธิป พีชานนท์” กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย หนึ่งในหัวหอกสำคัญที่ทำให้ศุภาลัยก้าวขึ้นสู่แถวหน้าในวงการอสังหาริมทรัพย์กับยอดขายที่คาดว่าจะทำได้แตะระดับ 10,000 ล้านบาทในปีนี้

เรามารู้จักประวัติและตัวตนที่แท้จริง กับความฝันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ"อธิป"
เขาเล่าว่า ในบางมุมแล้วเหมือนเป็นคนคร่ำเคร่งกับงาน แต่บางมุมกลับขี้เล่นสนุกสนาน แต่เหนืออื่นใด ความฝันอันสูงสุดของชีวิตแล้ว

การที่เราได้ทำงานหนักมาตลอดชีวิตและใกล้ที่จะเกษียณอายุเต็มที บั้นปลายของชีวิตต้องการที่จะทำงานอะไรก็ได้ในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่โอกาสคงมีน้อยมาก เพราะไม่ได้อยู่ในสายงานราชการและงานที่ทำอยู่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานของพระองค์ท่าน เป็นเพียงความฝันอันสูงสุดในชีวิต

" ทุกวันนี้ แม้ไม่ได้ช่วยงานของพระองค์ท่านตามที่ใฝ่ฝัน แต่ได้พยายามช่วยงานสังคม ด้านเศรษฐกิจตามที่ถนัด ไม่ว่าจะเป็นวิทยากรเพื่อให้ความรู้ตามงานต่างๆ การนั่งในตำแหน่งนายกสมาคมอาคารชุดไทยเป็นสมัยที่ 3 และช่วยงานสมาคมหอการค้าไทย ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ช่วยงานสังคมด้วยการเป็นอาจารย์สอนพิเศษให้แก่นักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัย รวมไปถึงวิทยากรรับเชิญเพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้และพัฒนาบุคลากรของประเทศให้มีความรู้ความสามารถ "

ในด้านประวัติส่วนตัว จบการศึกษาจาก คณะบัญชีบัณฑิต (บ.ช.บ.) การเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2522 และสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ M.B.A.(Finance) Mercer University, USA จบในปี 2524 และ M.B.A (International Business) Georgia State University , USA ในปี 2526

โดยได้เริ่มงานที่แรกที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ช่วงปี 2526-2527 ตำแหน่งวิเคราะห์สินเชื่อ หลังจากนั้นเข้าทำงานที่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด (IBM) เป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการเงิน ขณะนั้นถือเป็นการทำตลาดลีสซิ่งเป็นครั้งแรกของ IBM เพราะช่วงแรกIBM ขายเงินสดแต่เมื่อมีการแข่งขันสูงๆ จึงหันมาทำลีสซิ่ง ช่วงนั้นมีเจ้าหน้าที่ในสายงานเพียง 4-5 คน แต่ยอดขายลีสซิ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของยอดขายทั้งหมด

แม้ว่าจะจบการศึกษาระดับปริญญาโทจาก จอร์เจียสเตท สหรัฐอเมริกา แต่การเรียนที่ IBM marketing School เป็นสถาบันการศึกษาที่อธิปบอกว่า "ที่นี่สอนให้ผมเป็นคนเก่ง เพราะเขาสอนในสิ่งที่ใช้ได้จริงในชีวิตการทำงาน" IBM marketing เป็นสถานฝึกอบรมให้แก่พนักงานของ IBM ทั่วโลก ซึ่งในย่านเอเชีย มีอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ การอบรมหรือเรียนการสอนจะเป็นคอร์สระยะสั้น 3-6 เดือนหรือ 1 ปี

หลังจากทำงานที่ IBM ได้ 8 ปี อัจฉรา ตั้งมติธรรม (ภรรยา ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานศุภาลัย) เดิมทำงานที่ IBM เช่นเดียวกัน แต่ได้ลาออกและมาช่วยงานสามีที่ศุภาลัย ได้เห็นฝีไม้ลายมือจึงชักชวนมาช่วยงานที่ศุภาลัย ใช้เวลาคิดนานนับปีจึงตอบตกลงเข้าร่วมงานกับศุภาลัยในปี 2535 จนถึงปัจจุบัน

หลายคนเคยถามว่า ไม่คิดทำธุรกิจส่วนตัวหรือ " ตอนนี้เลยช่วงเวลาที่จะทำธุรกิจส่วนตัวไปแล้ว เพราะการทำธุรกิจส่วนตัวต้องอาศัยระยะเวลาในการเติบโต แต่ไปเสียจังหวะตอนปี 2540 เกิดวิกฤต ศุภาลัยประสบกับปัญหาเช่นเดียวกับหลายๆบริษัท ในเมื่อได้ช่วยงานมาแล้วเมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหาก็ต้องช่วยกันต่อไปจนถึงฝั่ง ไม่ใช่กระโดดเรือหนี" อธิปสะท้อนบางมุมของโอกาสทางชีวิต

"คนทำงานให้คนอื่น บางคนอาจเข้าใจผิด ออกแล้วก็ออกเลย ตอนนี้ผมอยู่มานานจนเกิดความผูกพันมากกว่า แต่ผมจะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต ไม่ได้ยึดติดหรือหวงตำแหน่ง ผมแยกออกระหว่างงานส่วนรวมกับงานส่วนตัว ถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำ บางคนมีความรู้ความสามารถแต่ไม่ยอมมาช่วยแก้ปัญหา ต้องมีคนเสียสละบ้าง ผมเป็นนายกสมาคมอาคารชุดไทย มา 3 สมัยแล้ว หมดวาระปี 2553 ไม่เป็นอีกแล้วเหนื่อยแล้ว ให้คนอื่นมาทำบ้าง "

อธิป เล่าถึงจุดหมายของ"ชีวิต"ว่า อยากจะพักแล้ว ตั้งแต่เรียนจบมาผมทำงานหนักมาตลอดเหมือนกับทำงานเป็น 2 เท่าของคนปกติ ไม่เคยกลับบ้านเร็ว อยู่จนกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างหมดจึงกลับบ้าน สมัยอยู่ IBM ตำแหน่งสุดท้ายเป็น Top planer เป็นผู้เสนอแผนงานแต่ละฝ่ายของไทยให้แก่บริษัทแม่

สมัยนั้น IBM เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตแต่เป็นอินเทอร์เน็ตภายในองค์กรลิงก์กันทั่วโลก Top planer ต้องส่งงานไปยังต่างประเทศซึ่งเวลาจะไม่ตรงกัน หากต่างประเทศมีข้อสงสัยจะต้องอธิบายให้เขาฟัง ตำแหน่งนี้ไม่สามารถทำแทนกันได้ เพราะเป็นคนที่รับฟังแผนงานของทุกฝ่ายและนำไปเสนอต่างประเทศ คนที่มาช่วยก็จะให้รายละเอียดแก่ต่างประเทศไม่ได้

"การทำงานถือคติที่ว่าทำเต็มที่ เหมือนการขึ้นบันได ถ้าต้องการโตก็ต้องทำงานหนัก ก้าวเร็วกว่าคนอื่น เราก็จะไปเร็วกว่าคนอื่น ผมไม่มีทางลัด โตจากการทำงานจริงๆ" ** อธิปกล่าวถึงความสำเร็จที่มาจากความสุจริต! จาก IBM และในบริษัทศุภาลัย

นับเป็นชีวิตการทำงานที่น่าสนใจและที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ ควรนำไปเป็นแบบอย่าง แทนที่จะใช้เส้นทางลัดบวกความรู้ความสามารถเพียงเล็กน้อยและเงินของบิดาและมารดามาละเลง เพราะการทำธุรกิจจะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตการทำงาน มีโจทย์ใหม่ ๆ ให้แก้อยู่เสมอ