"ต่อบุญ พ่วงมหา" แม่ทัพสนุกออนไลน์เจ้าของ Shopping.co.th พูดถึงวงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ในเมืองไทยบ้านเรา ยอมรับว่าตื่นเต้นกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพการเมืองที่ไม่สงบและเศรษฐกิจที่ผันผวนจนทำให้ตลาดไม่หยุดนิ่งในแต่ละวัน แม้จะบอกว่าภาวะเศรษฐกิจซบมีส่วนทำให้การซื้อขายสินค้าออนไลน์มีจุดแข็งมากขึ้น ทั้งเรื่องน้ำมันแพงที่ทำให้ผู้บริโภคไม่อยากเดินทางไปซื้อสินค้าเอง และเศรษฐกิจที่ส่อแววทรุดทำให้คนอยากหารายได้พิเศษโดยไม่ต้องลงทุนสูง
"ช่วงนี้ผมตื่นเต้นทุกวัน ทุกอย่างไม่นิ่งจริงๆ ตลาดหุ้นผมก็ไม่คิดว่าดาวน์โจนส์จะร่วงลงขนาดนี้ ความเปลี่ยนแปลงนี้กระทบหลายส่วน แต่แปลกที่จำนวนคนใช้งานอินเทอร์เน็ตก็ยังเพิ่มอยู่ การซื้อขายออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นไม่ได้ลดลง ผมเชื่อว่าคนต้องการประหยัดแต่ก็ยังต้องซื้อสินค้า ซึ่งการซื้อสินค้าบนอินเทอร์เน็ตจะได้ในราคาที่ถูกกว่า เป็นไปได้ที่พิษเศรษฐกิจจะช่วยเสริมจุดขายเรื่องราคาถูกให้เรา"
ต่อบุญนั้นมีตำแหน่งเป็นประธานบริหาร บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ Shopping.co.th ซึ่งสนุกพัฒนาร่วมกับอีเบย์ เว็บไซต์ประมูลสินค้าออนไลน์ชื่อดังของโลก เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย ความตื่นเต้นไม่ได้ทำให้ต่อบุญหนักใจว่าตลาดซื้อขายสินค้าในไทยจะเงียบเหงา เพราะต่อบุญบอกว่าผู้ค้าอิสระรายย่อยกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วยการเอาสินค้ามือสองที่ตัวเองมีอยู่ ออกมาขายบนโลกออนไลน์เพื่อสร้างรายได้เสริมกันมากขึ้น ซึ่งน่าสนใจมากที่ "พระเครื่อง" กลายเป็นสินค้าออนไลน์ยอดนิยมอันดับ 3
"อย่างเพื่อนผมคนหนึ่ง เปิดลิ้นชักแล้วเจอโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าวางไว้ไม่ได้ใช้ ก็คิดว่าทำไมต้องวางทิ้งไว้แบบเปล่าประโยชน์ เมื่อลองลุกขึ้นมาขายออนไลน์ก็ปรากฏว่าขายได้ ผมคิดว่านี่คือการเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดขายสินค้าออนไลน์ แนวโน้มอีกอย่างคือคนไทยชอบประมูลสินค้ามากขึ้น เห็นได้จากการประมูลพระเครื่องที่เป็นสินค้ายอดนิยมอันดับที่สามรองจากเครื่องแต่งกายและสินค้าสำหรับผู้หญิง สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นการขยายตัวของกลุ่มคนที่สนใจสินค้าออนไลน์ในประเทศไทย"
ต่อบุญยอมรับว่า ตลาดขายสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยยังไม่เติบโตเท่าที่ควร สาเหตุเพราะคนไทยยังขาดความเชื่อถือระบบ ซึ่งจากการเปิดเว็บไซต์ Shopping.co.th มาตลอด 6-7 เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจึงจะเห็นการเติบโตในประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด
"ไอดีซีประมาณว่าอีคอมเมิร์ชจะเติบโตราว 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งผมเชื่อว่าวงการอีคอมเมิร์ชไทยต้องมีฟีเจอร์เพิ่มเติม แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องสร้างความน่าเชื่อถือ ทำอย่างไรให้ผู้ซื้อมั่นใจในการซื้อ และผู้ขายมั่นใจว่าจะได้รับเงินจริงเมื่อขายสินค้า อย่างของสนุกเอง เรามีระบบฟีดแบค เป็นระบบที่ผู้ซื้อสามารถให้คะแนนความน่าเชื่อถือผู้ขายที่ประทับใจ ขณะที่ผู้ขายก็สามารถขึ้นบัญชีดำลูกค้าที่ไม่ซื่อสัตย์ได้ เชื่อว่าตรงนี้จะทำให้เกิดสังคมที่น่าเชื่อถือ"
ความท้าทายหลักของต่อบุญ จึงเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ชุมชนค้าขายออนไลน์ที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
"ทำเว็บนั้นไม่ยากแต่ทำอย่างไรให้คนซื้อและคนขายมาเจอกันแล้วเกิดการซื้อขาย เรื่องนี้คือเรื่องหลัก เรื่องเทคโนโลยีจะเป็นส่วนประกอบ จะต้องมีฟีเจอร์ที่ใช้ง่าย เช่น ฟีเจอร์ค้นหาสินค้า เป็นต้น และสามคือเราจะสร้างการรับรู้อย่างไรให้ผู้บริโภคเริ่มอยากมาลองเล่นในตลาดขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเมื่อลองแล้วจะรู้ว่าอะไรคือเทคนิคในการขายหรือประมูลสินค้าออนไลน์"
ต่อบุญยกตัวอย่างเทคนิคในการประมูลสินค้าออนไลน์ว่า ผู้เปิดประมูลโทรศัพท์มือถือควรต้องตั้งราคาเพดานการประมูลให้ต่ำกว่าราคาขายในท้องตลาด ผู้เปิดประมูลสินค้าค้างสต็อกที่ยึดคติ “กำขี้ดีกว่ากำตด” จะสามารถขายสินค้าในราคาเกินทุนเล็กน้อยเพื่อนำเงินไปหมุนเวียน ขณะที่สินค้าประเภทงานแกะสลักหรือวัตถุโบราณ สามารถตั้งราคาเริ่มต้นที่ต่ำมาก เพื่อท้าทายนักประมูลรายอื่นที่มองว่าสินค้าล้ำค่านี้ราคาถูกเหลือเชื่อ
"สำหรับการแข่งขันในตลาดผมมองว่า เค้กมันก้อนโตแต่คนยังกินกันน้อยอยู่"
ขณะนี้เว็บไซต์สนุกมี UIP ราว 5.3-5.4 แสนไอพี โดยต่อบุญปฏิเสธไม่เปิดเผยตัวเลขรายได้ที่ผ่านมา ให้ข้อมูลเพียงว่าสัดส่วนรายได้หลักมาจากการโฆษณาบนเว็บไซต์ราว 70 เปอร์เซ็นต์ รายได้ที่เหลือ 30 เปอร์เซ็นต์มาจากผู้บริโภคซึ่งเป็นค่าบริการคอนเทนท์ อัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเป็นเลข 2 หลักต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว
"จริงอยู่ที่เศรษฐกิจลงธุรกิจโฆษณาก็จะลดลงเป็นอันดับแรก บริษัทจะพิจารณาตัดงบโฆษณาลงก่อนงานด้านอื่นๆ แต่ผมคิดว่ายังไงๆเรื่องมาร์เก็ตติงยังต้องมี บริษัทรู้ว่าถ้าลงงบการตลาดไป 100 แต่ได้กลับคืนมา 300 ยังไงซะก็ต้องลงทุน จุดนี้ผมเชื่อว่าธุรกิจโฆษณายังมีโอกาส บริษัทบางรายที่ประกาศลดงบประมาณทุกอย่างไม่ใช่เฉพาะงบโฆษณาออนไลน์ ก็ยังเปลี่ยนใจเมื่อเราแสดงให้เห็นว่า การลงโฆษณาออนไลน์มันวัดผลได้จริง โดยรวมแล้วผมคิดว่าเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แย่อย่างที่หลายคนมอง"
ต่อบุญยืนยันว่าตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงจริงแต่ไม่กลัว และมั่นใจว่าปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองทุกอย่างจะคลี่คลายในที่สุด
"แม้สถานการณ์ตอนนี้จะไม่นิ่ง แต่เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะต้องถูกแก้ไข แต่จะใช้เวลายาวแค่ไหนนั้นอีกเรื่องหนึ่ง คงต้องรอดูกันต่อไป สำหรับเรื่องเศรษฐกิจการเมืองมีผลกับเราบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่มีผลให้เรากลัว"
กว่าจะเป็นต่อบุญ
sanook.com นั้นเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับหนึ่งที่มีผู้เข้าชมสูงที่สุดในประเทศไทย เบื้องหลังความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากประธานบริหาร บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ที่ชื่อว่า ต่อบุญ พ่วงมหา คนนี้
ต่อบุญมีประสบการณ์อยู่ในวงการไอที - อี-บิสสิเนส มามากกว่า 10 ปี เริ่มจากการดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิจิตอล แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ มร.โฮม1575, อินเทอร์เน็ต และไดเร็คเมล์ จากนั้นก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการของไทยแลนด์ดอทคอม เว็บท่าผู้ให้บริการข้อมูลด้านธุรกิจส่งออก ท่องเที่ยว และซื้อขายสินค้า ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่มเนชั่นมัลติมีเดีย โดยเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทฯ
ต่อบุญเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท มีท เวิร์ล เทรด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของไทยแลนด์ดอทคอมและมีท เวิร์ล เทรด ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทำธุรกิจบีทูบีและอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยและทั่วโลก จากนั้นจึงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดิจิตอล เวฟ จำกัด ซึ่งให้บริการแอพพลิเคชั่นธุรกิจ เช่น ERP, CRM และ E-Business ต่างๆ
จากนั้นต่อบุญเข้าร่วมงานกับบริษัท เค เอส ซี คอมเมอร์เชียล อินเตอร์เนต จำกัด ในตำแหน่งรองประธานฝ่ายบรอดแบนด์ และได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งเป็นรองประธานฝ่าย Home & Leisure บริษัท เอ็มเว็บ (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลรับผิดชอบด้านการปฏิบัติการและการบริหารเว็บไซต์สนุกดอทคอม (www.sanook.com) ก่อนจะรับตำแหน่งประธานบริหาร บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด ในที่สุด
ต่อบุญนั้นจบการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา และปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเข้ารับการอบรมในหลักสูตรอี-บิสิเนสและซัพพลาย เชน แมนเนจเมนท์ จากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา