xs
xsm
sm
md
lg

‘ไพลิน คำศิริ’ พันธมิตรอเมริกา ได้เวลาแทนคุณแผ่นดิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ความจำเป็นทางเศรษฐกิจจะทำให้พวกเขาต้องออกไปทำมาหากินและปักหลักใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน แต่พวกเขาก็ไม่เคยลืมผืนแผ่นดินไทย แผ่นดินที่ให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงชีวิตจนเติบใหญ่ วันหนึ่งเมื่อประเทศชาติมีภัย ถูกสั่นคลอนจากกลไกการทุจริตที่แทรกซึมหยั่งรากไปทุกย่อมหญ้า คนไทยในสหรัฐอเมริกาเหล่านี้จึงพร้อมใจกันลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อต้านการโกงกินของรัฐบาลผู้หิวโหย โดยมีการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นในหลายเมืองของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น วอชิงตันดีซี นิวยอร์ก แอลเอ ชิคาโก ซานฟรานซิสโก หรือลาสเวกัส

‘ไพลิน คำศิริ’ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นิวยอร์ก เป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯไทยในแดนพญาอินทรีย์ ผู้หญิงคนนี้กล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาแสดงความรักชาติด้วยการรวบรวมเพื่อนพ้องคนไทยในนิวยอร์กออกมาเคลื่อนไหวป่าวประกาศแฉพฤติกรรมการคอร์รัปชั่นของรัฐบาล ‘ทักษิณ’ ให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ เพราะเธอมองว่าการแสดงปฏิกิริยาต่อต้านนักการเมืองเหล่านี้เป็นอีกแรงหนึ่งซึ่งจะช่วยขับโค่นคนโกงกินของออกไปจากแผ่นดินไทย

จุดเริ่มพันธมิตรฯไทยในต่างแดน

ไพลิน ย้อนความให้ฟังถึงจุดเริ่มของการก่อตั้งพันธมิตรฯนิวยอร์ก ว่า เกิดจากการที่ ‘วสันต์ สิทธิเขต’ หนึ่งในศิลปินที่ขึ้นเวทีพันธมิตรได้เดินทางไปพบเธอซึ่งปักหลักใช้ชีวิตและทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ที่นิวยอร์กเพื่อปรึกษาถึงแนวทางที่จะช่วยกันยับยั้งกระบวนการทุจริตคอร์รัปชั่นและการครอบงำแทรกแซงองค์กรต่าง ๆ ของรัฐบาลไทยในขณะนั้น ด้วยความที่เธอมีจิตวิญญาณของความรักชาติและได้ทราบข้อมูลดังกล่าวอยู่ก่อนแล้วทำให้คุณไพลินตัดสินใจชักชวนเพื่อน ๆ คนไทยในนิวยอร์กจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรฯ นิวยอร์กขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเมืองไทยไปยังคนไทยในนิวยอร์กและรัฐใกล้เคียง รวมทั้งร่วมกันเคลื่อนไหวคัดค้านการกระทำมิชอบของรัฐบาลทักษิณ

“ต้องบอกว่าเป็นเพราะคุณวสันต์เข้ามาปลุกระดมพวกเรา (หัวเราะ) คือก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2549 พี่กับเพื่อน ๆ ทราบข่าวความเคลื่อนไหวของพันธมิตรที่เมืองไทยจาก ASTV อยู่แล้ว เพราะที่อเมริกาเราดู ASTV ได้ พอพี่กลับไปเมืองไทยก็ไปชุมนุมกับพันธมิตรฯที่สวนลุมพินี ตอนนั้นก็มีพวกป่าไม้มาก่อกวน แต่เราไม่กลัว ต่อมาพี่กับเพื่อน ๆ ก็ไปชุมนุมกับพันธมิตรฯที่สนามหลวง ชุมนุมกันอยู่ 3 เดือน แล้วเราก็โทร.บอกเพื่อน ๆ ที่นิวยอร์กให้ช่วยกันรวบรวมเงินบริจาคมาช่วยพันธมิตรฯ ทีนี้พอพี่กลับมานิวยอร์ก คุณวสันต์ซึ่งเคยเห็นพี่ที่เวทีพันธมิตร พอดีแกได้ทุนมาเรียนศิลปะที่นิวยอร์ก ก็ติดต่อมาหาพี่ มาคุยให้พี่และเพื่อน ๆ ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองไทย ก็ปรึกษากันว่าเราจะช่วยบ้านเมืองอย่างไรดี สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าน่าตั้งกลุ่มพันธมิตรฯ นิวยอร์กขึ้นเพื่อร่วมเคลื่อนไหวไปพร้อม ๆ กับพันธมิตรฯที่เมืองไทย

"คือคนไทยที่นี่ส่วนใหญ่ก็มีจิตใจรักชาติกันทั้งนั้น ถึงเวลาที่ประเทศไทยซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรามีปัญหาเราก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาช่วยกัน ต้องบอกว่าตอนนี้เครือข่ายพันธมิตรไทยในอเมริกาเข้มแข็งมาก คนไทยที่นี่ตื่นตัวกันมาก ในหลายเมืองก็มีการเคลื่อนไหวกัน ที่เข้มแข็งจริง ๆ ก็มี วอชิงตันดีซี นิวยอร์ก แอลเอ ชิคาโก ซานฟรานซิสโก และลาสเวกัส นอกจากนั้นยังมีคนไทยในแคนาดาด้วย นอกจากจะรวมตัวกันเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ แล้ว เรายังช่วยกันรวบรวมเงินบริจาคส่งไปช่วยพันธมิตรฯที่เมืองไทยด้วย” ไพลิน บอกเล่าถึงความรักชาติของคนไทยในสหรัฐฯ

เคลื่อนไหวคู่ขนานกับพันธมิตรฯเมืองไทย

สำหรับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯนิวยอร์ก รวมถึงพันธมิตรไทยในสหรัฐอเมริกานั้น มีทั้งการประชุมระดมความเห็น ยื่นหนังสือประท้วงต่อหน่วยงานต่าง ๆ และรวมตัวชุมนุมหน้าสถานที่สำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะหน้าสถานกงสุลไทยที่อยู่ในแต่ละเมือง เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนคัดค้านการกระทำที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐบาลนอมินีที่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกฯทักษิณให้รอดพ้นจากความผิดในคดีทุจริตที่ติดตัวอยู่หลายคดี ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการเคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับพันธมิตรฯที่เมืองไทยนั้นจะเป็นอีกพลังหนึ่งที่จะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับระบอบการเมืองสามานย์และนำไปสู่การเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยหลักคุณธรรม

“พันธมิตรไทยในสหรัฐจะมีเครือข่ายถึงกันหมด มีอะไรเราก็แจ้งข่าวถึงกัน สำหรับคนไทยที่นิวยอร์กนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เกษียณอายุแล้ว พวกหมอ พยาบาล หรือไม่ก็เป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของร้านอาหาร มีเวลาส่วนตัวเยอะ เขาก็จะ ดู ASTV กัน 24 ชั่วโมง ที่เมืองไทยเกิดอะไรขึ้นคนที่นี่รู้หมด อย่างวันที่ 25 พ.ค.ที่ นปก.บุกเข้ามาตีพันธมิตรฯซึ่งกำลังเคลื่อนจากถนนราชดำเนินไปยังทำเนียบรัฐบาล แล้วคุณยุทธิยง (ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรข่าวของ ASTV) ถูกปาด้วยก้อนหินหัวแตก พี่ก็โทร.หาพรรคพวกที่นิวยอร์ก ใช้เวลาชั่วโมงเดียวรวบรวมคนได้ 30 กว่าคน พากันไปยื่นหนังสือประท้วงที่สถานกงสุลไทยในนิวยอร์กแล้วก็เดินต่อไปที่ไทม์สแควร์

เราก็เอารูปคุณทักษิณ คุณพจมาน และรูปคุณสมัครไปเดินประท้วงที่ไทม์สแคว์ ฝรั่งมามุงดูกันเป็นร้อยเลย เขาก็ถามว่ายูมาประท้วงใคร เราก็บอกว่าประท้วงนายกรัฐมนตรีที่เป็นนอมินีของอดีตนายกฯทักษิณ ก็บอกเขาว่าคนไทยไม่ยอมรับนักการเมืองพวกนี้เพราะมีปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น คุณเห็นไหมหน้าตาของคนขี้โกงเป็นยังไง เขาก็หัวเราะและถ่ายรูปกันใหญ่ วันที่คุณสมัครประกาศจะสลายการชุมนุม พันธมิตรฯที่นิวยอร์กก็เคลื่อนไหวกันเต็มที่ เราประกาศเลยว่าถ้าพันธมิตรฯที่เมืองไทยเป็นอะไรไปเราจะยื่นฟ้องต่อ UN (องค์การสหประชาชาติ)


อีกอย่างหนึ่งที่เราพอช่วยได้คือการสนับสนุนด้านปัจจัย ที่ผ่านมาก็ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรฯที่เมืองไทย 500 เหรียญบ้าง 2,000 เหรียญบ้าง เพื่อนที่แอตแลนต้าก็บริจาคเข้ามา 5,000 เหรียญ เมื่อไม่นานนี้ก็มีเจ้าของร้านอาหารไทยในฟรอลิด้า บริจาค 500,000 บาท จริง ๆ ตรงนี้มันไม่ใช่เรื่องของตัวเงินนะ มันเป็นเรื่องของน้ำใจที่เราอยากช่วยชาติมากกว่า” ไพลินพูดถึงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรไทยในต่างแดน

หญิงไทยใจเกินร้อย

นอกจากไพลินจะเป็นผู้หญิงไทยที่มีหัวใจรักชาติแล้ว การเคลื่อนไหวในแต่ครั้งของเธอยังสร้างความสนใจแก่ฝรั่งต่างชาติอยู่ไม่น้อย ด้วยลีลาที่ดุเด็ดเผ็ดมันและบู๊ล้างผลาญชนิดที่นักการเมืองใหญ่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณต้องเผ่นหนีเลยทีเดียว

ไพลิน บอกว่านี่ไม่ใช่หนแรกที่เธอออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยเมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 16 สืบเนื่องไปถึง 6 ตุลาฯ 19 และเหตุรุนแรงในช่วงพฤษภาทมิฬ ในปี 2535 เธอก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่ร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยและขับไล่รัฐบาลเผด็จการ

“ด้วยความที่เราผ่านเหตุการณ์ประท้วงที่รุนแรงมาหลายครั้ง ทำให้ได้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของการเมืองภาคประชาชน ตอน 14 ตุลาฯ พี่ก็ไปร่วมชุมนุมด้วย เราก็ซื้อผลไม้ไปให้ผู้ชุมนุมเป็นเป็นเข่ง ๆ เลย จำได้ว่าตอนนั้นยังวัยรุ่นอยู่ ช่วงเหตุการณ์ล้อมปราบตอน 6 ตุลาฯ 19 พี่ก็อยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เห็นคนวิ่งหนีกันเลือดเต็มตัวไปหมด ต่อมาพฤษภาฯ 35 พอรู้ข่าวว่าเหตุการณ์ไม่ปกติ พี่ก็บินกลับไปเมืองไทยแล้วก็ไปร่วมชุมนุม ถึงวันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องลุกขึ้นมาเพื่อช่วยกันปกป้องประเทศของเรา ถามว่ากลัวไหม ไม่นะ เพราะพี่เชื่อว่าไม่มีอำนาจอะไรจะยิ่งใหญ่เท่าอำนาจของประชาชน”

ไพลิน ยังเล่าถึงวีรกรรมอันดุเดือดในการประท้วงขับไล่อดีตนายกฯทักษิณ ในช่วงที่เขาบินไปประชุมกับบรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่นครนิวยอร์ก ว่า

“เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2549 พี่กับเพื่อน ๆ ไปประท้วงอยู่ที่ UN เพราะทราบข่าวว่าคุณทักษิณจะเดินทางมาประชุม โดยช่วงเช้าเราไปประท้วงคุณทักษิณซึ่งไปปราศรัยกับคณะกรรมการความสัมพันธ์กับต่างประเทศ (Council of Foreign Relation) ย่านถนน 68 Park Avenue ก่อน ก็มีตำรวจฝรั่ง 4 คนซึ่งเขาอารักขาคุณทักษิณจะเข้ามาจับ เลยถามเขาว่าคุณจะมาจับฉันเรื่องอะไร ถนนเส้นนี้เป็นของประชาชน ตำรวจก็ถามกลับมาว่ายูเสียภาษีหรือเปล่า พี่ก็ตอบไปว่าภาษีของฉันนี่แหละคือเงินเดือนของคุณ ถ้ามาแตะต้องตัวฉันพรุ่งนี้คุณเข้าคุกทันทีเลย เขาก็ไม่กล้า พี่กับพรรคพวกก็กรูเข้าไปตะโกนว่าไอ้หน้าเหลี่ยม คนหน้าด้าน คนขายชาติ พี่ก็เห็นมีนายตำรวจไทยยศพลตำรวจตรีคนหนึ่งเดินไปบอกฝรั่งให้มาบอกพวกพี่ว่าอย่าใช้คำหยาบ พี่เลยชี้หน้านายพลตำรวจ ถามเขาว่าคุณเป็นใคร แน่จริงไม่ต้องบอกผ่านฝรั่งหรอก มาบอกด้วยตัวเองเลย เขาก็เลยเดินหนีไป

หลังจากนั้นประมาณชั่วโมงหนึ่งคุณทักษิณก็ออกมา คือเขาไม่คิดว่าจะเจอพวกเสื้อเหลือง พวกพี่ก็กรูเข้าไปตะโกนไล่กัน คนขายชาติ ทรราช เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถเลย พอปิดประตูเสร็จคุณทักษิณหันหน้ามาโบกมือให้พวกเราอีก คือจะทำให้ฝรั่งเข้าใจว่าพวกเรามาต้อนรับ (หัวเราะขำ) โห...ร้ายจริงๆ พวกเราบางคนเลยวิ่งเข้าไปเอามือทุบรถเพื่อแสดงความไม่พอใจ จากนั้นเราก็ตามไปประท้วงต่อที่ UN เพราะตามกำหนดการเนี่ยหลังจากปราศรัยเสร็จคุณทักษิณจะมาที่ UN เวลา 13.30 น. ปรากฏว่าเขาไม่กล้ามาเลย บางคนก็เตือนว่าให้ระวังตัวแต่พี่ก็ไม่กลัวนะ คิดว่าถ้าเราจะตายนอนอยู่กับบ้านก็ตาย แต่ถ้าเราจะตายเพื่อประเทศชาติทำไมเราจะทำไม่ได้ อยู่ที่นิวยอร์กเราก็มีความสุขดีนะแต่ในเมื่อประเทศบ้านเกิดเมืองนอนเรามีปัญหาเราก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยกัน” ไพลิน กล่าวตบท้ายด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น

* * * * * * * * * * *
 
เรื่อง - จินดาวรรณ สิ่งคงสิน
กำลังโหลดความคิดเห็น