แม่สื่อรักระดับไฮคลาส

ไม่ว่าจะยากดีมีจนหนุ่มสาวทุกคนก็ล้วนอยากมีคนรู้ใจไว้เคียงกาย แต่เหมือน‘ยิ่งสูงยิ่งหนาว’เพราะยิ่งเป็นคนที่มีความรู้ดี มีฐานะ การที่จะหาคนรักสักคนกลับยากยิ่งกว่าหาซื้อ Pink Diamond ซึ่งว่ากันว่าหายากที่สุดในโลก เนื่องเพราะการสรรหาคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเท่าเทียมกัน และมีทัศนคติที่ไปกันได้นั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง ‘We Match’บริษัทจัดหาคู่สำหรับกลุ่มคนระดับไฮคลาสจึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่ยังขาดหาย

จับกลุ่มลูกค้า B+ ขึ้นไป

‘นีน่า’ นันทิยา สุคัมภีรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีแมทช์ คอนซัลติ้ง จำกัด และ ‘แมว’พิชชา ประกายเลิศลักษณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีแมทช์ คอนซัลติ้ง จำกัด 2 สาวรุ่นใหม่ซึ่งร่วมกันก่อตั้ง‘We Match’บอกเล่าถึงไอเดียในการตั้งบริษัทจัดหาคู่แห่งนี้ว่า

“ คือจากการที่เราและเพื่อนๆซึ่งเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน คือเป็นคนที่มีฐานะ มีความรู้ และมีหน้าที่การงานดี เรียกว่าพร้อมทุกอย่าง แต่สังเกตว่าเอ...ทำไมคนรอบข้างเราเป็นโสดกันเยอะจัง ทั้งที่ profile ดีๆกันทั้งนั้น บางคนก็มาปรึกษาว่าช่วยหาแฟนให้หน่อยสิ เราก็ลองดูว่ามีเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องคนไหนที่เป็นโสดบ้างแล้วก็นัดให้เขามาเจอกัน ทำไปทำมาก็เลยมานั่งคุยกันว่าเราน่าจะเปิดบริษัทจัดหาคู่สำหรับคนกลุ่มนี้ อย่างพิชชาเขาทำบริษัทรับจัดงานแต่งงาน ซึ่งจัดเตรียมให้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแต่งงาน ก็มักมีเพื่อนๆแซวว่าน่าจะหาเจ้าบ่าวให้ด้วย เพราะชีวิตนี้มีพร้อมทุกอย่างแล้วขาดแต่เจ้าบ่าวอย่างเดียว (หัวเราะขำ) ” นี่น่า กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มละไม

ขณะที่ พิชชา บอกว่า “ เหตุผลหนึ่งที่เรามุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ขึ้นไปเพราะเป้าหมายของธุรกิจเราคือต้องการให้คนมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว ไม่ใช่แต่งกันไปไม่เท่าไรก็เลิก ซึ่งปัญหาที่สร้างความขัดแย้งให้แก่ชีวิตคู่มากที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้นผู้ที่จะคิดจะมีคู่ครองจึงควรมีความพร้อมในด้านการเงินก่อน นอกจากนั้นคนที่มีวุฒิภาวะและมีการศึกษาดี ชีวิตคู่ก็มักจะมีคุณภาพตามไปด้วย การคัดกลุ่มคนจึงเป็นเรื่องสำคัญ”

สกรีนคุณสมบัติละเอียดยิบ

เนื่องเพราะเป็นบริษัทจัดหาคู่เพื่อกลุ่มคนระดับไฮคลาส ดังนั้นคุณสมบัติในการสมัครเป็น member ของ We Match จึงค่อนข้างจะ stick มากพอสมควร นอกจากผู้สมัครต้องมีอายุ 25 ปีขึ้นไปแล้ว ยังต้องมี profile ที่ดีทั้งในด้านการศึกษา หน้าที่การงาน และฐานะทางการเงิน ข้อสำคัญยังต้องมีการสัมภาษณ์เพื่อให้ทราบถึงนิสัยใจคอ ทัศนคติ รวมถึงไลฟสไตล์ในการใช้ชีวิตด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการสกรีนว่าบุคคลคนนั้นเข้าขั้นระดับไฮคลาสจริงๆ และไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆในการสมัครหาคู่

“เรามีเงื่อนไขว่าลูกค้าที่จะมาเป็น member ของเรา ต้องมีหน้าที่การงานดี ฐานะการเงินมั่นคง ไม่มีหนี้สิน ที่สำคัญต้องเป็นโสด และตั้งใจจริงๆว่าจะมาหาแฟน คนที่มีแฟนอยู่แล้ว คิดจะมาหากิ๊ก เราก็ไม่รับ ซึ่งเรื่องพวกนี้เรามีวิธีการตรวจสอบ ทั้งจากการพูดคุยและตรวจเช็คประวัติ คือคำตอบบางอย่างมันสามารถบอกได้ว่าคนนี้มีแฟนหรือยัง บางคนเราคุยแล้วรู้เลยว่าต้องการมาหาคนเลี้ยงดู เราก็ปฏิเสธไป หรือบางคนมีรายได้สูงก็ใช่ว่าเราจะรับทันที ต้องดูว่าเขามีวิธีบริหารเงินอย่างไร ถ้าเสี่ยงที่จะสร้างหนี้สิน เช่น ชอบเล่นพนันบอล เราก็ไม่รับ ขณะที่บางคนรับราชการ เงินเดือนไม่เยอะ แต่ฐานะทางบ้านดีอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา” พิชชา ชี้แจงถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาเป็นลูกค้าของ We Match

ด้าน นี่น่า อธิบายขั้นตอนในการให้บริการว่า “ หลังจากที่ลูกค้าติดต่อเข้ามา ซึ่งอาจเป็นทางโทรศัพท์ หรือติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ www.wematch.co.th เราก็จะให้รายละเอียดในการบริการ ถ้าลูกค้าสนใจเราก็จะนัดเจอเพื่อทำการสัมภาษณ์พูดคุย ทั้งในเรื่องไลฟสไตล์ งานอดิเรก หน้าที่การงาน ชีวิตความเป็นอยู่ ประสบการณ์ความรักที่ผ่านมา และลักษณะของคนรักที่ลูกค้ากำลังมองหา รวมทั้งขออนุญาตตรวจสอบประวัติของลูกค้า ใน 4 ด้านด้วยกัน คือ ประวัติอาชญากรรม ประวัติการเงิน ซึ่งต้องตรวจสอบเครดิตบูโร สถานภาพโสดหรือไม่ หากเคยจดทะเบียนสมรสก็ต้องจดทะเบียนหย่าแล้ว และประวัติอื่นๆ เช่น การทำงาน ซึ่งส่วนนี้เราจะขอให้บุคคลอ้างอิง 2 คนเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่ลูกค้าให้มาเป็นเรื่องจริง หลังจากนั้นก็มาตรวจสอบในฐานข้อมูลว่ามีบุคคลที่มีลักษณะตรงกับที่ลูกค้าต้องการหรือไม่ ถ้ามีก็จะนัดให้ทั้งสองฝ่ายได้มาเจอกัน ส่วนจากนั้นทั้งคู่จะพอใจคบกันหรือไม่ก็เป็นเรื่องของคน 2 คน ”

บริการสมราคาปีละหมื่น

ทั้งนี้สำหรับนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนแรกจะเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องของการสัมภาษณ์ จำนวน 2,000 บาท หากผ่านการสัมภาษณ์จึงจะไปสู่การบริการส่วนที่ 2 คือการตรวจสอบ นำข้อมูลที่ลูกค้าให้มาตรวจสอบว่าเป็นจริงตามที่แจ้งมาหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาอะไรจึงจะจับนัดเดทกัน โดยคิดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 8,000 บาท ซึ่งในเพ็กเกจ 10,000 บาทนี้ ลูกค้าสามารถนัดเดทได้ 3 เคส หรือระยะเวลาให้ให้บริการไม่เกิน 1 ปี ซึ่งค่าบริการในอัตรานี้ถือว่าสูงกว่าบริษัทจัดหาคู่ทั่วไป ซึ่งคุณพัชชาให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการสกรีนลูกค้าและป้องกันปัญหาการแอบแฝงเข้ามาหาประโยชน์

“ ที่เราคิดค่าบริการค่อนข้างสูงเพราะต้องการให้ได้ลูกค้าในกลุ่มไฮเอนด์จริงๆ และคนที่สมัครเข้ามาก็มีความต้องการหาคู่จริงๆ ไม่ใช่แค่นัดเดทเล่นๆ นอกจากนั้นในส่วนของการบริการก็มีรายละเอียดเยอะ เราจะเดินทางไปพบลูกค้าเพื่อสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว คือที่ไม่ให้ลูกค้าเดินเข้ามาสัมภาษณ์ที่บริษัทเพราะเรามองว่าโดยนิสัยคนไทยแล้วคงไม่มีใครอยากให้คนอื่นรู้ว่ากำลังใช้บริการจัดหาคู่

ซึ่งเราไม่ได้คิดค่าบริการ 10,000 บาททุกเคสนะ บางเคสถึงจะผ่านการสัมภาษณ์แต่ถ้าเราดูแล้วเป็นเคสที่โอกาสจับแมชชิ่งยาก เช่น คุณสมบัติของคู่รักที่ลูกค้าต้องการนั้นหาได้ยาก เราก็ให้เขาสมัครแค่ 2,000 บาทก่อน หากมีลูกค้าที่มีคุณสมบัติตรงกับที่เขาต้องการเมื่อไรจึงจะนัดให้เขาเจอกัน และให้ลูกค้าจ่ายค่าบริการในส่วนนี้เป็นครั้งๆไป โดยคิดครั้งละ 4,000 บาท ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับลูกค้ามากกว่าคิดเป็นเพ็กเกจ คือการให้บริการเป็เพ็กเกจก็เหมือนกับคำมั่นสัญญาในการให้บริการ ดังนั้นถ้าเรายังไม่มั่นใจเราก็จะรับ อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้เราจะรับเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลก่อน เพื่อความสะดวกในการนัดพบเพื่อสัมภาษณ์พูดคุยกัน” พัชชา กล่าว

ด้านนี่น่า บอกว่า แม้ We Match จะเพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่เดือน แต่ในช่วงที่ผ่านมาก็นับว่าได้รับเสียงตอบรับมากพอสมควร โดยมีลูกค้าติดต่อเข้ามามากมาย และสามารถจัดนัดเดทให้ได้หลายสิบคู่ ซึ่งหลายคู่ก็กำลังคบหาดูใจกันอยู่

“เดี๋ยวนี้คนแต่งงานช้าลงนะ โดยเฉลี่ยแล้วลูกที่มาใช้บริการที่ We Match จะอยู่ในช่วง 28- 40 ปี แต่กลุ่มที่เยอะที่สุดคือ 30-35 หนุ่มสาวที่มาใช้บริการนั้นก็มีหลากหลายสาขาอาชีพ ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจ การศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกนี่เยอะมาก ต้องบอกว่าพวกด็อกเตอร์นี่หาแฟนยาก เพราะมัวแต่เรียน กว่าจะเรียนจบเพื่อนๆก็มีแต่งงานกันไปหมดแล้ว(หัวเราะ) แล้วยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีความพร้อมทุกอย่างก็ยิ่งเลือกมาก เขาก็อยากได้คนที่ใกล้เคียงกัน”