xs
xsm
sm
md
lg

เจ๊ติ๋ม-ทีวีพูล … “เจ้าแม่บันเทิง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากเอ่ยชื่อ พรรทิภา สกุลชัย หลายคนอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าบอกว่า “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” จะคนใน-คนนอกวงการ ต่างพากันร้อง “อ๋อ” …หลายคนเรียกเธอว่า “เจ้าแม่บันเทิง” ดาราใหญ่น้อย ผู้จัด ผู้ผลิต ไม่ว่าจะค่ายไหน ต่างต้องเข้าไป “ซูฮก” ตั้งแต่ก่อนเข้ากระทั่งออกจากวงการ

อาจกล่าวได้ว่า…เธอคือผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการบันเทิงเมืองไทย หรือ อาจจะเป็น“แม่หมอ” ก็ว่าได้ ดาราคนไหนมีแววรุ่งหรือร่วงเธอคาดการณ์ได้ไม่แพ้“หมอลักษณ์ฟันธง”

และด้วยความที่เป็นสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่ เป็นนิตยสารทีวีบันเทิงอันดับหนึ่ง ยอดขายนับแสนเล่มต่อสัปดาห์ ทำให้ บ้านหลังใหญ่และอาคารโน้ตสูง 4 ชั้น ในซอยลาดพร้าว 101 กลายเป็นแหล่งชุมนุมของคนในวงการบันเทิงไปโดยปริยาย

เธอ พร้อมกับลูกๆ ในวัยเรียนทั้ง 3 คน ต้องเปิดบ้านรับแขกทุกวัน ถ้าจะบอกว่า“ดาราชื่อดังหลายคน” ทำคลอดจากบ้านหลังนี้ก็ไม่ผิดไปจากความจริงเท่าใดนัก

“เราแนะนำหมดตั้งแต่ ควรจะทำศัลยกรรมตรงไหน ศัลยกรรมนี่ดาราทำเกือบทุกคน แต่ว่าควรจะทำส่วนไหนเท่านั้นเอง เราดูจากบุคลิกท่าทาง มันจะรุ่งหรือร่วง ต้องวางบุคลิกอย่างไร เราแนะนำหมด” เจ๊ติ๋ม เล่าถึงที่มาของดาราหลายคน ที่ทาง “ผู้จัดการส่วนตัวของดารา” พามาให้คัดสรรปั้นแต่ง

“นางเอกจากเวทีนี้ เราเห็น เราก็บอกได้เลยว่าต้องไปเซ็นที่ช่อง 3 อย่างนี้ต้องไปเซ็นที่ EXACT อย่างนี้ต้องไปเซ็นที่ RS หรือ อย่างนี้ต้องไปเซ็นที่ช่อง 7 ถึงจะรุ่ง เราจะเป็นคนที่คอยแนะนำ”

เล่ามาถึงตอนนี้ เจ๊ติ๋ม ออกตัวก่อนว่า อยู่ในวงการมา 19 ปี ถึงแม้จะรู้จักคุ้นเคยกับผู้บริหารสถานีทุกช่องเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่เคยฝากดาราคนไหน

“ในวงการเขามีผู้จัดการส่วนตัว เราเพียงให้คำแนะนำ แนะนำทั้งตัวเขา ทั้งผู้จัดการเขาว่า เขาควรจะทำอย่างไร เพื่อให้เด็กเขารุ่ง เราเห็นถึงทัศนคติของผู้บริหารของแต่ละค่าย ว่าชอบเด็กแบบไหน บางค่ายมองเด็กนมโตไม่เคยสวย หรือบางค่ายมองว่าเด็กหน้ากลมไม่ชอบ ชอบแบบหน้าฝรั่ง แต่ว่าบางค่ายก็ไม่ชอบหน้าลูกครึ่งเลย”

เธอ ขยายความต่อว่า บุคลิกของช่อง 7 ต้องการนางเอกที่ดูเศร้า ดูน่าสงสาร ต้องผอม เพราะละครของเขาจะออกสไตล์ว่านางเอกต้องน่าสงสาร ต้องถูกกระทำ ไม่ใช่นางเอกลุกขึ้นมาสู้ ส่วนสไตล์ของ EXACT เขาก็ต้องการนางเอกมาดมั่น ต้องมั่นใจในตัวเอง ต้องตบ ต้องลุกขึ้นมาสู้ ถ้าโดยนิสัยเราไม่ได้สร้างภาพให้เป็นคนมั่นใจในตัวเองได้ เราก็ไม่ควรไปอยู่กับ EXACT

ในอีกบทบาทหนึ่ง เจ๊ติ๋ม คือ ผู้มีบารมีนอกวงการบันเทิง ของเหล่าดาราหลายคน ใครมีปัญหากับใคร ทะเลาะกับใคร มีปัญหาอยากฆ่าตัวตาย ปัญหาเรื่องแฟน อยากทำแท้ง ฯลฯ ปรึกษาได้หมด หรือแม้กระทั่งในบางครั้งต้องทำหน้าที่อย่าศึกดาราก็มี

“เบอร์โทรศัพท์ก็เปิดตลอด ดาราเดือดเนื้อร้อนใจก็ยกหูตลอด ช่วยได้ก็คุย อย่างน้อยก็ให้คำแนะนำได้ว่ายังไง หรือเป็นหมอจิตวิทยาที่เขาอยากจะไปฆ่าตัวตายก็ไม่ไป อยากจะไปรีดลูกอออกก็ไม่ไปรีดอะไรอย่างนี้”

สิ่งเหล่านี้ ถือเป็น คอนเน็กชั่น ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานบนถนนบันเทิง ดังนั้นทีวีพูล จึงเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง เจ๊ติ๋ม ใช้ใช้คำว่า เป็น น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า และบ่อยครั้งทีเดียวที่ผู้นำสูงสุดขององค์กรคนนี้ ต้องลงมือเขียนข่าวด้วยตัวเอง เพื่อเติมเต็มข่าวให้สมบูรณ์ขึ้น

เธอ บอกว่า ลำพังนักข่าวภาคสนามดาราอาจไม่พูดหรือไม่รับสาย แต่สำหรับ เจ๊ติ๋ม แล้ว นอกจากดาราจะไม่มีรอที่จะรับสายแล้ว ดาราหลายคนใช้บ้าน เจ๊ติ๋ม เพื่อให้ความกระจ่าง เมื่อเกิดเรื่องราวที่เป็นกระแสของสังคม

“เราเรียกมาเลย มาคุย ว่าอย่างไร อย่างคราวที่แล้วก็เรียกมาเลย เรียก ทั้งอั้ม ทั้งเมย์ ทั้งเข็ม คุยเลย วันไหนว่าง ก็บอกนักข่าวว่าเรียกมาเจอพี่หน่อยซิ ว่างเขาก็มาคุยกัน เราจะช่วยแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” เจ๊ติ๋ม เปิดเผยบทบาทในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยและเป็นนักข่าวกิตติมศักดิ์ไปในตัว โดยมีข้อแม้ว่าเมื่อคุยกับเจ๊ต้องพูดความจริงกันเท่านั้น

“ต้องจริงใจ บอกกันก่อน บอกมาเถอะ พี่ติ๋ม ไม่ทำให้เสียหรอก อย่างน้อยก็ทำให้มันดูดีขึ้น อย่างน้อยก็ไม่มีใครเสีย เราอยู่ในวงการนี้มานาน รู้กฎข้อหนึ่งว่า คนที่ซื้อหนังสือเราเขาอยากจะรู้ลึก แล้วมนุษย์ทุกคนมันก็ไม่ได้เลวบริสุทธิ์ มันมีมุมดีของมัน แล้วก็มีเหตุผลในการทำทุกคน เราเพียงแต่ว่าเราต้องให้ลึกกว่าคนอื่นเขาเท่านั้นเอง”

แน่นอนว่า การที่สิ่งพิมพ์บันเทิงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัวของดารามากกว่า 70% การอยู่ในวงการบันเทิงอย่างยาวนานโดยไม่มีเรื่องฟ้องร้องกับดาราจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่วันนี้ด้วยบารมี ด้วยพลังหลายๆ อย่างของ เจ๊ติ๋ม ประกอบกับ การวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจนว่า ทีวีพูล เป็นมิตรกับดาราทุกคน เจ๊ติ๋มและทีวีพูล จึงเป็นอะไรที่คนบันเทิงขาดไม่ได้ และเป็นเครื่องการันตีว่า เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล คือ เจ้าแม่บันเทิง ตัวจริงเสียงจริง…

เส้นทางของ ทีวีพูล
หลังจบการศึกษา บริหารธุรกิจ (การเงินการธนาคาร) ม.อัสสัมชัญ พรรทิภา สกุลชัย เริ่มทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศระยะหนึ่ง พอถึงปี 2521 ก็เริ่มเข้ามาทำงานอยู่ในค่ายสื่อครั้งแรก ในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายดีสเพลย์ หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น

ปี 2523 ได้เรียนรู้งานโฆษณา โดยเป็นผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด จากนั้นในปี 2526 ก็เปิดบริษัทของตนเอง ผลิตเพลงประกอบละคร และ สัมปทานคลื่นวิทยุ จัดรายการวิทยุป้อนสถานีและให้เช่าช่วงต่อในบางสถานี

พอแต่งงานกับ ต้อย แอคเนอร์ (เกรียงศักดิ์ สกุลชัย) คอลัมนิสต์ดาราชื่อดังของสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับในยุคนั้น เป็นจังหวะเหมาะ ที่ทำให้เธอเริ่มสานฝัน ในการผลิตนิตยสารบันเทิง

นิตยสารเล่มแรก “ทีวีพูล” เกิดจากไอเดียตอนไปเที่ยวเกาะอังกฤษ ที่เห็นหนังสือทีวีไกด์ขายดีมาก จึงคิดว่าน่าจะไปได้สวยในประเทศไทย

ทีวีพูล ในยุคแรกฉีกไปจากตลาดนิตยสารบันเทิงทั่วไป ที่เน้นทางด้านภาพยนตร์ แต่ตัวแบบนิตยสารที่ขายดีเป็นอันดับหนึ่งในเกาะอังกฤษ กลับล้มเหลวไม่เป็นท่าในเมืองไทย ขาดทุนร่วม 6-7 แสนบาทต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปี

ความฉูดฉาด รุนแรง ตามสไตล์ ต้อย แอคเนอร์ เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยน หลักจาก ทีวีพูล ปรับเปลี่ยน Concept ใหม่ เป็นมิตรกับดารา แล้วก็ขายข่าวแบบเจาะลงไปลึกๆ กลับกลายเป็นว่าขายได้ จากนั้นเป็นต้นมาจึงมี ทีวีพูล ในวันนี้

ในวันนี้ด้วยวัย 51 ปี อาณาจักรสื่อบันเทิงในค่ายของ พรรทิภา ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลมากที่สุดในเมืองไทย มีนิตยสารหัวใหญ่ ๆ ไล่เรียงตั้งแต่ นิตยสารทีวีพูล นิตยสารคุณหญิง นิตยสารสไปซี่ นิตยสารสเปเชี่ยล หนังสือพิมพ์สตาร์นิวส์ รายการโทรทัศน์ และอื่นๆ อีกมาก

ก้าวต่อไปของ ทีวีพูล นอกจากทำนิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ รายการโทรทัศน์ ขณะนี้ เครือทีวีพูล กำลังศึกษาตลาดของ ธุรกิจทีวีดาวเทียม อย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้ตกกระแส พร้อมๆ กับโครงการผลิตพ็อกเกตบุ๊ก

แต่สิ่งที่อยากสานฝันให้เป็นจริงอีกอย่างหนึ่ง พรรทิภา เปิดเผยว่า อยากทำนิตยสารสุดสัปดาห์ ในแบบ ทีวีพูลการเมือง ฉีกไปจากตลาดหนังสือการเมืองทั่วไป โดยเน้นในมุมที่ออกแนวหวือหวา มีสีสัน ออกแนวชาวบ้าน ๆ หน่อย ใส่เรื่องส่วนตัวของนักการเมืองเข้าไปให้มาก ๆ

ก่อนที่ เธอ จะทิ้งท้ายว่า ทีวีพูลการเมือง อาจเป็นแค่ความฝัน เพราะนักการเมืองของไทย ยิ่งใหญ่คับฟ้า ยังไม่เปิดใจกว้าง ที่สำคัญเธอรับไม่ได้ ที่จะมีคดีฟ้องร้องเป็นตั้ง ๆ …



กำลังโหลดความคิดเห็น