xs
xsm
sm
md
lg

เปิด ฮวงจุ้ย ฐานบัญชาการ “เจ้าสัวเจริญ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ความเชื่อทางด้าน “ฮวงจุ้ย” เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนในสังคมมาอย่างยาวนาน เฉกเช่น เจ้าสัว "เจริญ สิริวัฒนภักดี" เจ้าพ่อน้ำเมา อาณาจักรของ ทีซีซี กรุ๊ป เติบโตและยิ่งใหญ่มากขึ้น

แน่นอนบนความสำเร็จที่เกิดขึ้น นอกจากฝีมือของคณะผู้บริหาร ทีมงาน แต่สิ่งเร้นหลับที่แฝงอยู่บนความสำเร็จในทุกๆโครงการของธุรกิจเจ้าสัวเจริญแล้ว นั่นคือ หลัก“ฮวงจุ้ย” ณ ฐานบัญชาการใหญ่ บนตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ที่นี่คือกองบัญชาธุรกิจของเจริญที่ทรงพลังที่สุด ในเรื่องของการใช้ศาสตร์ฮวงจุ้ย ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมในการตกแต่งได้อย่างลงตัว


...เชื่อได้เลยว่า คงจะมีไม่กี่คน จะเคยได้สัมผัสและพบเห็น

คุณเอ๋ วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวกับ "ผู้จัดการ Lite"

กลุ่ม ทีซีซี แลนด์ กรุ๊ป ซึ่งบริหารงานโดยโสมพัฒน์และวัลลภา ไตรโสรัส เพิ่งย้ายจากสำนักงานบนถนนสุรวงศ์ มารวมอยู่กับบริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ ชั้น 53 ถึงชั้น 56

สาเหตุหลักที่กลุ่ม ทีซีซี แลนด์ กรุ๊ป บางส่วนได้ย้ายสำนักงานมาที่เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ เนื่องจากบริษัทฯมีแผนการขยายกิจการอย่างรวดเร็วใน 5 ปีข้างหน้า พื้นที่เดิมไม่สามารถรองรับได้ ขณะที่มีบริษัทฯอื่นในเครือมีสำนักงานอยู่ในเอ็มไพร์อยู่แล้ว และได้มีการสำรองพื้นที่ภายในอาคารไว้ล่วงหน้าแล้วเช่นกัน จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ย้ายสำนักงานอยู่รวมกัน

"แนวคิดของการจัดวางรูปแบบพื้นที่สำนักงานแห่งใหม่ ของบริษัทในกลุ่ม ทีซีซี แลนด์ กรุ๊ป นั้น สำหรับการออกแบบและการตกแต่งสำนักงาน อาศัยหลักทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ ที่เราทั้งสอง (วัลลภาและโสมพัฒน์มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้เป็นหลักสำคัญ) ผสมผสานศาสตร์ทางด้านตะวันออก ที่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ผู้มีประสบการณ์"

หลักสำคัญการออกแบบสำนักงานแห่งใหม่นี้ คำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 4 ประการ คือ ประโยชน์การใช้สอยของผู้ที่ต้องใช้งานในแต่ละส่วน ภาพลักษณ์ขององค์กรที่สะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด

สภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับพนักงานและผู้ที่มาติดต่อ และหลักของศาสตร์อันเป็นมงคล โดยในการจัดวางรูปแบบของสำนักงานทีซีซี แลนด์ ชั้น 54 บนพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร เป็นชั้นทำงานของผู้บริหารระดับสูง มีหลักการดีไซน์ เริ่มตั้งแต่หลักของการจัดวางสำนักงาน โดยคำนึงถึงจุดสำคัญต่างๆ ไม่ว่าเป็นเรื่องของความสำคัญของตำแหน่งประตูและองค์ประกอบต้อนรับผู้ที่มาถึง

โดยวางกำแพงหินมีสัญลักษณ์ที่ทีซีซี แลนด์ที่ชั้น 54 เป็นตำแหน่งหลักของประธาน ที่วางไว้ต้อนรับผู้ที่มาถึงบริษัท ซึ่งเป็นความเป็นจริงทางด้านสถาปัตย์ ที่บวกถึงความเป็นจริงทางด้านฮวงจุ้ยที่มีความสัมพันธ์กัน

"ส่วนบรรยากาศของการตกแต่งที่ต้องการสร้างบรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเองเหมือนมาถึงบ้าน เพราะองค์กรเรามองว่า จะสร้างพลังของทีมงานในบริษัท ก็คือ การสร้างความเป็นหนึ่งเดียว เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน"

ด้านตำแหน่งห้องผู้บริหารต้องอยู่ในมุมที่ดี เหตุผลก็คือ "คนโบราณพูดถึงว่า ผู้บริหารต้องอยู่ไกลหน่อย เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวและมีความสงบ

ดังนั้น ห้องท่านประธาน(คุณพ่อ เจริญ สิริวัฒนภักดี ) ต้องอยู่ด้านในสุด เพราะว่าต้องผ่านหลายห้อง ใครมาก็ต้องผ่านพนักงานต้อนรับส่วนหน้ามาก่อน ผ่านห้องผู้บริหารท่านอื่นๆ ก่อนที่มาถึงห้องท่านประธาน มันเป็นหลักการใช้งานบวกกับพื้นฐานความเป็นจริง

แนวคิดของห้องประชุม มีการออกแบบตกแต่งในกลุ่มทีซีซี แลนด์ที่แตกต่างกัน โดยสะท้อนแนวคิดการตกแต่งโทนสี รูปลักษณ์และของตกแต่งตามชื่อเมือง ของแต่ละประเทศรอบโลกและตั้งเป็นชื่อห้อง

โดยชั้นหลัก ชั้น 54 ชั้นส่วนกลางและทีซีซี แลนด์ เลเชอร์ มีห้องปักกิ่ง ลอนดอน เวนิส โซล เบอร์ลิน ฮ่องกง

ส่วนชั้น 53 ทีซีซี แลนด์ คอมเมอร์เชียล ทีซีซี แลนด์ อินดัสเทรียลและโกลเด้นเวลธ์ มีห้องกรุงเทพ ปารีส เซี่ยงไฮ้ อ๊อกฟอร์ด นีส โตเกียว

ส่วนชั้น 55 ทีซีซี แลนด์ ดีเวลลอปเมนท์และทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ มีห้องมิลาน เชียงใหม่ ลานนา พัทยา ธนบุรี

และชั้น 56 คือ ชั้นหลักของทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ มีพื้นที่โล่งจัดกิจกรรมและโชว์โมเดลโครงการต่างๆ และมีห้องนิวยอร์ก ซีอาน เกียวโต เคมบริดจ์ สุโขทัย ต้าเลี่ยน โรม

จุดประสงค์ของแนวคิดชื่อเมือง เพื่อสร้างความแตกต่างของแต่ละห้อง ทำให้จำง่ายและมีหลายบรรยากาศ เพื่อการใช้งานจริงที่สนุกสนานและแปลกตา

ส่วนด้านการออกแบบของแต่ละห้องนั้น จะนำจุดเด่นของแต่ละเมืองมาเป็นแนวทาง เพื่อสื่อออกมาในรูปของวัสดุตกแต่งรวมถึงของประดับ เช่น เฟอร์นิเจอร์ รูปภาพ โคมไฟประดับ ลวดลายบนโต๊ะประชุมและลวดลายพรม ในแต่ละห้องนั้น ได้เลือกสรรมาให้เข้ากับชื่อของเมืองนั้นๆด้วยเช่นกัน

หลายคนบอกว่า เมื่อเดินเข้ามาในชั้น 54 แล้ว ให้ความรู้สึกดี ตรงนี้คิดว่าเป็นเพราะความโปร่ง ความอบอุ่นของแสง ความโปร่งของกระจกที่สูงจากพื้นเกือบถึงผนัง มุมมอง 180 องศาบ้าง 90 องศาบ้าง 270 องศา ที่เราอยู่ ณ จุดต่างๆ ของตึกนี้ มันทำให้เรารู้สึกเปิดกว้าง และแนวคิดที่ต้องการให้ทุกห้องประชุม ทุกพื้นที่ทำงาน ได้รับแสงธรรมชาติ เพื่อความสดชื่นโปร่งสบาย

หลักฮวงจุ้ย บอกว่า มนุษย์นั้นต้องการอิสระ เหมือนความรู้สึกของอิสระ พอเราเดินเข้ามาเกิดความรู้สึกปลอดโปร่งและโล่ง แต่ไม่โล่งจนเกินไป การให้ความรู้สึกอบอุ่นของโทนสีเหลืองประกอบกับแสงธรรมชาติ ซึ่งอยากให้ทุกคนที่เดินเข้ามาที่นี่รู้สึกสบายและปลอดโปร่ง

สี เป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่เราต้องคำนึงถึงในการตกแต่งสำนักงาน ควรเลือกสีที่ให้ความรู้สึกที่ดี สีเป็นเรื่องของความรู้สึก เช่น ความรู้สึกของความกระปรี้กระเปร่า ความรู้สึกสบาย อบอุ่น ต้องอาศัยสีสันต่างๆเป็นส่วนช่วย อย่างเช่นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น คือ สีเหลือง สีครีม ซึ่งเรานำมาใช้กับชั้น 54 เชื่อว่าผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนจะรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัว หรือบรรยากาศบางแห่งบางห้อง จะทำเหมือนอยู่ในบ้าน ที่นั่งคุยกันเป็นครอบครัว

ภาพวาดหรือภาพถ่ายที่ใช้ตกแต่งสำนักงาน ก็ให้ความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับสีของห้อง ภาพที่เลือกใช้ในแต่ละห้อง ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น ภาพดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ภาพภูเขาทำให้รู้สึกถึงความมั่นคง ภาพทะเลให้ความรู้สึกถึงจินตนาการ รวมทั้งภาพสถาปัตยกรรม ทั้งของเก่าและสมัยใหม่ ตกแต่งในพื้นที่ต้อนรับและห้องต่างๆ สะท้อนถึงศิลปะการก่อสร้างและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

การอัญเชิญพระพุทธรูป ประดิษฐานไว้ในสำนักงานชั้น 54 และ 56 โดยตั้ง ณ จุดตำแหน่งกำลัง เพื่อเสริมพลัง และให้ความรู้สึกถึงความสง่างาม เป็นสิ่งมงคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่เราทุกคนเคารพ และเราใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เป็นสรณะที่จะทำอะไรให้ถูกต้อง ทำให้เรามีความยุติธรรมและมีคุณธรรมในการทำงานและนำโชคดีมาสู่ทุกๆคน

ถ้าถามเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้น ศาสตร์พวกนี้ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่า เป็นศาสตร์ที่สืบทอดกันมานาน แต่ศาสตร์เรื่องฮวงจุ้ยกับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มีความสอดคล้องในหลายๆส่วน ทำให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับการใช้งาน เราเชื่อว่าศาสตร์ฮวงจุ้ยกับหลักความเป็นจริงมีความสมดุลกัน อย่างน้อยที่สุดเราเชื่ออย่างหนึ่งว่า ฮวงจุ้ยต้องมีความสมดุล

ซึ่งความสมดุลดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เราเลือกทำเล ทำเลเป็นที่ที่น่าลงทุน มีโอกาสที่จะเติบโตทางธุรกิจได้ การเดินทางไปมาสะดวก อยู่ในย่านชุมชน มีรถไฟฟ้า อำนวยความสะดวกทางด้านสาธารณูปโภคเพียงพอ เราก็เลือกที่แปลงนั้นเพื่อทำเป็นสำนักงาน และชั้นที่เราเลือก ต้องดูมุมมองของตึก ทิศทางของแสง

เราให้ความสำคัญถึงความอบอุ่นที่อยู่ภายใน ไม่ใช่หันหน้าเปิดรับแสงอย่างเต็มที่ตั้งแต่ตอนเช้า ทุกคนอยู่แล้วร้อน หรือไม่ใช่หันไปทางทิศตะวันตก กว่าจะเปิดแอร์ให้ห้องเย็นได้ ต้องเปิดแอร์เป็น 2 ชั่วโมงก่อนทำงาน นั่นคงไม่ใช่หลักการเลือกสำนักงานที่ดี เพราะฉะนั้น มุมมองของตึก ทิศทางของตึก เราก็คำนึงถึงเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง

หลักสถาปัตยกรรมว่าด้วยเรื่องทิศทางของลม สอนเรื่องการออกแบบ การใช้งาน ประโยชน์ของการใช้สอยในพื้นที่ให้ได้ดีที่สุด ขณะที่ฮวงจุ้ยว่าด้วยความสมดุลของอากาศ พูดถึงในน้ำมีอากาศ ในอากาศมีน้ำ ในน้ำมีลม เพราะลมคือออกซิเจนที่ทำให้ก่อเกิดเป็นน้ำ ในลมมีน้ำ คือความชื้นที่อยู่ในกระแสลมอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น การใช้หลักทางสถาปัตยกรรมศาสตร์กับฮวงจุ้ยมาผสมผสานกันออกแบบและตกแต่งสำนักงานนั้น ความรู้สึก คือ จุดตัดสินถึงความลงตัวว่า เราจัดวางไปแล้ว เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ใช้งานหรือไม่ ความรู้สึกที่ควรได้รับเมื่อเริ่มทำงาน คือ ความสุขในการทำงาน ความรู้สึกสบายใจ ความรู้สึกโปร่ง ไม่ใช่ขนาดห้องใหญ่หรือเล็กเกินไป แอร์เย็นไม่พอ หรือหนาวเกินไป คนทำงานก็จะไม่มีความสุข

หากมีคนบอกว่า นั่งทิศนี้ดี แต่ทุกบ่ายแดดส่องบนโต๊ะ ยังไงมันก็ไม่สมดุล มันต้องสอดคล้องกับหลักความเป็นจริง ฮวงจุ้ยจึงเป็นหลักนำเอามาปรับปรุงให้เกิดความสมดุลกับการดำเนินชีวิตมากที่สุด ตรงนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เรานำหลักทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ผสมผสานกับหลักฮวงจุ้ย เพื่อให้เกิดความลงตัวในการออกแบบและตกแต่งสำนักงาน ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของพนักงานทุกคน



กำลังโหลดความคิดเห็น