"ความคิดสร้างสรรค์" บททดสอบเส้นทางแฟชั่นของนักศึกษาไทย

อาจกล่าวได้ว่า ช่วง 4-6 ปีในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นเวลาที่เด็กๆ หลายคนได้มีโอกาสเข้ามาไขว่คว้าหาความรู้ทางวิชาการในสาขาที่ตนเองสนใจ และยังได้รับประสบการณ์ในการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ มากมาย แต่ก็มีเด็กรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย ที่นอกจากจะเลือกเรียนในสิ่งที่ตนเองรักแล้ว ยังนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอด จนสามารถคว้ารางวัลจากเวทีต่างๆ มาได้มากมาย

กฤช สุวรรณเดโชชัย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปกรรมและการออกแบบ สาขาแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้เวลา 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัยไปกับการค้นหาสิ่งที่ตนเองรัก และพิสูจน์ความสามารถของตนเองให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ จากผลงานการออกแบบที่เขาส่งเข้าประกวดนับไม่ถ้วน โดยงานอินเตอร์ชิ้นที่เขาภูมิใจ เป็นรางวัลจากการส่งผลงานชุดเจ้าสาวภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Journey of Memory" เข้าประกวดในเวที WOW หรือ World of WearableArt(tm) Awards ซึ่งเป็นเวทีประชันศิลปะการออกแบบชั้นนำระดับโลก ซึ่ง ณ เวทีแห่งนี้ กฤชได้ร่วมกับเพื่อนสนิทของเขา "เมธี วีระโอฬารกุล" ออกไอเดียชุดแต่งงานด้วยกัน และคว้ารางวัล Runner Up Tertiary Education Commission Student Design Award 2006 มาครองได้เป็นผลสำเร็จ

"ชุดแต่งงานของเราต้องการถ่ายทอดให้เห็นถึงอุปสรรคที่ผู้หญิงคนหนึ่งต้องผ่านไปให้ได้ก่อนจะสามารถสวมชุดเจ้าสาวเข้าพิธีวิวาห์ ซึ่งผมเลือกใช้ถุงมือยางแพทย์สีขาวบริสุทธิ์มาม้วนให้เป็นก้อนกลมๆ จำนวนมากบนชุด เพื่อสะท้อนถึงอุปสรรคมากมายที่ต้องเผชิญ ส่วนหนึ่งที่เลือกใช้ถุงมือยางแพทย์เพราะเวที WOW เป็นเวทีศิลปะการออกแบบ ไม่ใช่แค่เวทีแฟชั่น เราจึงสามารถหาแรงบันดาลใจจากการใช้วัสดุแปลกๆ มาทำได้ครับ และถุงมือแพทย์ก็ค่อนข้างทนทาน มีคุณภาพดีด้วยครับ"

การเดินทางไปแข่งขัน ณ ประเทศนิวซีแลนด์ในขณะนั้น ทำให้กฤชได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ด้านการแข่งขันมากมาย ทั้งในเรื่องของบรรยากาศในการแข่งขันที่กฤชมองว่า เป็นบรรยากาศที่สนุกกว่าการแข่งขันของเมืองไทย

"เวที WOW จะเหมือนงานแสดงศิลปะผสมกับเวทีประกวดผลงาน มีทั้งเสียงหัวเราะ เสียงชื่นชมยินดี มีการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ เรียกได้ว่าเป็นเวทีที่ค่อนข้างเปิดกว้าง และมีผู้ส่งชิ้นงานเข้าร่วมมากมาย งานนี้ยังไม่จำกัดอายุ และวัสดุที่ใช้ด้วย ทำให้เราได้เห็นไอเดียใหม่ๆ จากผู้เข้าประกวดนานาชาติ ขณะที่บรรยากาศค่อนข้างต่างจากบ้านเราที่มีความดุเดือดมากกว่า และมีบรรยากาศของการแข่งขันระหว่างผู้ส่งผลงานประกวดมากกว่าครับ"

หลังจากกลับจากเวที WOW พร้อมรางวัลใหญ่ เขาก็ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปฝึกงานยังประเทศฝรั่งเศสตามคำชวนของตัวแทนจากบริษัทจอช แลช ต่อในทันที ซึ่งกฤชเปิดเผยว่า

"ตอนนั้นส่งผลงานเข้าประกวดยังดีไซเนอร์อวอร์ด 2006 กับทางสหพัฒน์ และได้รับรางวัลชนะเลิศ ตัวแทนจากบริษัทจอช แลช ของประเทศฝรั่งเศสเขามาเห็นผลงานก็เลยสนใจ และชวนให้ไปฝึกงานกับเขาที่กรุงปารีส ผมตัดสินใจไปเพราะเห็นว่าเราน่าจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าวหาประสบการณ์ให้ตัวเองได้ดี" พร้อมบอกว่าการเดินทางครั้งนั้น ทำให้เขาได้ทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ต่างชาติ และเห็นรูปแบบการใช้ชีวิตในต่างแดน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก

"ตอนฝึกงานได้อยู่ในส่วนของการออกแบบรายละเอียดเสื้อผ้าให้แก่บริษัท ต้องติดต่อสื่อสารกับดีไซเนอร์ของฝรั่งเศสบ้าง แต่ไม่มีปัญหาด้านภาษา เพราะที่นั่นใช้ภาษา อังกฤษเป็นหลัก บริษัทเขาอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง มีการจัดหาที่พัก อาหารให้ทั้งหมด พักโรงแรมใกล้ๆ กับที่ทำงาน สามารถเดินทางมาทำงานได้สะดวกครับ"

ผลงานที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ได้ดีถึงความสามารถของหนุ่มน้อยคนนี้ แต่หลายคนอาจต้องแปลกใจ เมื่อเขาเปิดเผยว่า สมัยเรียนระดับมัธยมปลายที่กรุงเทพคริสเตียน เขาไม่มีวี่แววว่าจะสนใจในงานแฟชั่น หรืองานออกแบบมาก่อนเลย

"สมัยเด็กจะมีที่เกี่ยวกับแฟชั่นบ้างก็คือ ชอบไปเลือกซื้อเสื้อผ้ากับคุณแม่ แต่ส่วนตัวไม่เคยจับงานด้านนี้มาก่อนเลยครับ จนตอนเลือกคณะเรียนระดับปริญญาตรี เห็นว่ามีหลักสูตรนี้เปิดใหม่ ก็เลยสนใจลองสมัครดู พอมาเรียนก็ค่อนข้างชอบ และคิดงานส่งประกวดมาอย่างต่อเนื่องครับ"

"ส่วนหนึ่งเพราะผมเป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่ง จะชอบหาไอเดียใหม่ๆ การส่งผลงานเข้าประกวดมันทำให้เราได้ฝึกไปในตัว แต่ช่วงปี 4 ก็ไม่ค่อยได้ส่งงานเข้าประกวดแล้ว เพราะอาจารย์บอกว่าเป็นการเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ฝึกฝีมือ-หาประสบการณ์บ้างครับ ผมก็จะเปลี่ยนมารับงานฟรีแลนซ์ ออกแบบเสื้อผ้าจากบริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้าแทน"

ครอบครัวเป็นอีกหนึ่งเบื้องหลังที่สร้างกำลังใจให้กฤชได้เป็นอย่างดี ที่ผ่านมานั้น กฤชมีคุณแม่มลิวัลย์ สุวรรณเดโชชัย ให้การสนับสนุนความชอบของเขามาโดยตลอด ซึ่งคุณแม่เปิดเผยว่า "รู้สึกภูมิใจที่เขารู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่ใช่คนชอบอยู่เฉยๆ ซึ่งเวลาเขามีแนวคิดอะไร เขาจะมาปรึกษา แม่จะให้คำแนะนำบ้างตามโอกาส เช่น ออก แบบชุดอย่างนี้เหมาะสมไหม ส่วนอนาคตของเขา แม่ขอตอบเลยว่า อะไรที่ลูกเรียนแล้ว ชอบ แม่ให้การสนับสนุนค่ะ"

ในฐานะที่เป็นเด็กอนาคตไกล และมีฝีมือด้านงานออกแบบ กฤชได้ฝากทิ้งท้ายถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องอุปสรรคที่ทำให้วงการแฟชั่นไทยไม่พัฒนาไว้ด้วยว่า "วงการแฟชั่นไทยตอนนี้ ปัญหาใหญ่ๆ คงเป็นเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์ครับ เพราะผมเองเจอ มากับตัว กางเกงที่ส่งเข้าประกวด พอได้รับรางวัลก็ถูกคนก็อบปี้เอาไปผลิตวางขายเต็มจตุจักรแล้ว จริงอยู่ที่เขาสามารถมาหาไอเดียใหม่ๆ ได้จากเวทีการประกวด แต่การที่เขามาถ่ายรูปแล้วเอาไปเย็บขายหาประโยชน์โดยไม่สนใจว่าคนคิดจะรู้สึกอย่างไรนั้น วงการแฟชั่นไทยก็คงจะพัฒนาได้ยากครับ"

"ถ้าฝากได้ คงอยากให้เคารพความคิดของคนอื่นกันด้วยน่ะครับ"