อิ่มใดๆ...โลกนี้มิมีเทียบเทียม...อิ่มอกอิ่มใจ...อิ่มรักลูกหลับนอน...น้ำนมจากอก...อาหารของความอาทร...แม่พร่ำเตือน...พร่ำสอนสอนสั่ง
เคยฟังแต่เพลง "อิ่มอุ่น" ของสามี "จุ้ย-ศุ บุญเลี้ยง" แต่หลายปีมานี้ เราได้อร่อยอิ่มอุ่น กับอาหารและเครื่องดื่ม จากฝีมือภรรยาเจ้าของเพลงนี้ นับตั้งแต่ปี 2541 ที่ได้เปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเปิดให้บริการขนมปัง นมสด และเบเกอรีต่างๆ ที่ใช้ชื่อว่า "อิ่มอุ่น" ภายใต้การดูแลของ จ๋า-พวงมณี บุญเลี้ยง ศรีภรรยาคู่ชีวิต แถมยังได้ขยายแฟรนไชส์ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และในกรุงเทพฯ แถวบางกะปิ, รามคำแหง, เมเจอร์ รัชโยธิน และบริษัท เวิร์คพอยท์
สุดท้ายด้วยข้อจำกัดทางพื้นที่และเหตุผลอื่นๆ มาประกอบกัน ทำให้ร้านอิ่มอุ่นเดินทางมาถึงช่วงขาลง เป็นเหตุให้สามีภรรยาคู่นี้หันมายึดฐานที่มั่นใหม่ ด้วยการเปิดเป็นแคเทอริ่งบริการรับจัดอาหารตามงานเลี้ยงนอกสถานที่ ภายใต้ชื่อแบรนด์อันแสนอบอุ่นว่า "อิ่มอุ่นแคเทอริ่ง" แทนการเปิดขายอาหาร นมสดและขนมปังที่ร้านเพียงอย่างเดียว โดยมีสามีสุดที่รักที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด คอยเป็นผู้ให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
จ๋า หญิงสาวผู้มีแววตาเปี่ยมไปด้วยพลังที่แฝงอยู่ภายในเรือนร่างอันบอบบาง ในปัจจุบันนี้นอกจากเธอจะเป็นหัวเรือใหญ่ในการดูแลร้านอิ่มอุ่นและแคเทอริ่งอยู่แล้ว แต่อีกภาคหนึ่งเธอคือบอสสาวของ บริษัท กะทิกะลา และยังเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดทำซีดีเพลง และเว็บไซต์ให้บริษัทอีกด้วย
เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอิ่มอุ่นแคเทอริ่งว่า เดิมทีเป็นชื่อมาจากร้านอาหาร "อิ่มอุ่น" ซึ่งในช่วงแรกได้เปิดขายขนมปังและนมสด ต่อมาภายหลังจึงเริ่มขยับมาทำอาหารสีสันแปลกตาชวนให้น่ารับประทาน ดังนั้น เมื่อลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านแล้วพบกับความแปลกใหม่ของอาหาร จึงติดใจและอยากให้อาหารที่มีหน้าตาและรสชาติแบบนี้ ไปอยู่ในงานจัดเลี้ยงที่บ้านของตัวเองบ้าง
จนเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา มีเสียงจากลูกค้าหลายคนร้องขอต้องการให้อาหารที่อยู่ในร้าน ออกไปโชว์ตัวข้างนอกให้คนอื่นได้อิ่มอร่อยบ้าง ประกอบกับตัวเองเป็นคนที่ชอบดีไซน์อาหารในรูปแบบต่างๆ อยู่ตลอดเวลา "อิ่มอุ่น" แคเทอริ่งจึง ได้เกิดขึ้น
หญิงสาวเล่าว่าระยะแรกของแคเทอริ่งนั้น อาหารที่นำมาจัดเลี้ยงนอกสถานที่ จะเป็นอาหารที่มาจากร้านเดิมเป็นหลัก คือพวกขนมปังและนมสด แต่มาในช่วงหลังคนเริ่มตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพและหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น เธอจึงเริ่มขยับความคิดไปที่เรื่องสุขภาพ โดยเน้นเมนูไปที่อาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม
"หลายคนจะเข้าใจว่า อาหารสุขภาพเป็นอาหารเจแบบจืดๆ ไร้รสชาติ ไม่มีสีสันชวนรับประทาน ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ เราสามารถทำอาหารสุขภาพให้น่ารับประทานและอร่อยได้"
เพราะความต้องการที่ไม่หยุดนิ่งของลูกค้า เธอจึงพยายามที่จะทำให้อาหารสุขภาพมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น และเป็นที่พึงพอใจของบรรดาแขกเหรื่อทุกคนที่มาร่วมงาน รวมไปถึงลูกค้าที่ยอมควักกระเป๋าจำนวนไม่น้อยในการจ่ายค่าบริการ เกิดความพึงพอใจและอยากเรียกกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ดังนั้น เธอจึงชูอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลักในการจัดอาหาร จนกลายมาเป็นความโดดเด่นและเอกลักษณ์ของ "อิ่มอุ่น" แคเทอริ่ง ที่ลูกค้าและแขกหลายราย ที่ได้ลองรับประทานแล้วรู้สึกติดใจในรสชาติ และสีสันอันงดงาม
จ๋าเล่าต่อว่า หัวใจของการทำธุรกิจแคเทอริ่งในยุคนี้ จะต้องใช้ไอเดียอย่างมากในการรังสรรค์รูปแบบของอาหารให้แปลกตาแปลกใจอยู่ตลอดเวลา เพราะโจทย์ที่ลูกค้าให้มานับวันยิ่งมีความยากมากขึ้น ถ้าไม่ครีเอตให้ทันกับความต้องการของลูกค้าก็คงจะอยู่ในสายอาชีพนี้ค่อนข้างลำบาก
"ทุกวันเราจะต้องพยายามคิดหาเมนูอาหารให้มีความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลาโดยทุกครั้งจะเป็นคนออกแบบเอง เพื่อให้อาหารออกมาตรงใจลูกค้ามากที่สุด
ส่วนตัวมีความเชื่อว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เราสามารถทำอาหารต่างๆ ให้น่ารับประทานได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานหลักหรือเป็นเบรกต่างๆ เพียงแต่เราทำความเข้าใจกับโจทย์ของอาหารหรือเมนูต่างๆ ที่ลูกค้าให้มาเสียก่อน หลังจากนั้น จึงมาคิดวิธีการสร้างสรรค์อาหารอย่างไรถึงจะออกมาได้อย่างมีรสชาติและสวยงามน่ารับประทาน
งานแรกที่อิ่มอุ่นแคเทอริ่งมีโอกาสแสดงฝีมือคือ การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เวิร์คพอยท์ ซึ่งโจทย์ที่ลูกค้าให้มาคือ ต้องการได้อาหารว่างที่พิเศษกว่าเบเกอรี ที่ใส่กล่องมาเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้อาหารมีลูกเล่นพิเศษเพิ่มขึ้นมา เธอจึงนำขนมปังสังขยา มารับประทานกับกาแฟโบราณและชาโบราณ และโรตีที่ทำมาจากแป้งโฮลวีตเป็นส่วนผสมหลักแทนแป้งโรตีทั่วไปที่ไปสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน ส่วนข้างในก็ห่อด้วยไส้ทูน่า
กับอีกงานหนึ่งที่ทำให้อิ่มอุ่นแคเทอริ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ งานคอนเสิร์ต "The Lost Love Song" ตามหาเพลงรักที่หายไป ซึ่งคอนเซ็ปต์ของงานนี้ก็คือตามหาบทเพลงเก่าเมื่อในอดีต โดยงานนี้เธอครีเอตโดยใช้ใบตองเป็นภาชนะสำหรับวางอาหารหรือใส่อาหาร เพื่อให้ทุกคนหวนนึกถึงอดีตเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มสาวแรกรุ่นที่ยังคงใช้ใบตองเป็นพร็อบชิ้นสำคัญในการใส่อาหารรับประทาน ในที่สุดงานนั้นก็ผ่านไปด้วยความราบรื่น
ถึงแม้ว่าแคเทอริ่งจะต้องแข่งขันกันในเรื่องความแปลกใหม่ของอาหาร แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา จ๋าเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งคือรสชาติและความใส่ใจในเรื่องของความสะอาด เพราะถ้าเมื่อไรก็ตาม ที่เราซึ่งเป็นคนทำอาหาร และยังไม่อยากที่จะกินอาหารของเรา ก็จงอย่าหวังให้คนอื่นอยากกินของเรา" จ๋าสรุปทิ้งท้าย
***********
เคล็ดลับจัดปาร์ตี้เก๋ไก๋
ในบ้านรับปีใหม่
สำหรับเทศกาลแห่งความสุขและการฉลองที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีนี้อย่างวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จ๋า-พวงมณี ได้แนะเคล็ดลับวิธีการทำอาหาร ซึ่งเป็นพระเอกในงานปาร์ตี้ เพื่อให้ค่ำคืนแห่งความสุขของทุกคนมีแต่รอยยิ้มและความประทับใจอย่างไม่รู้ลืมมาฝากกันด้วย เริ่มที่
1. กำหนดธีมในการจัดปาร์ตี้ให้ได้ก่อนว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน ใช้สีอะไรเป็นหลัก
2. จากนั้นค่อยมาคิดเมนูว่าจะทำอะไร อาหารทุกชนิดไม่ว่าจะทำยากหรือง่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นอาหารประเภทที่ไม่ได้ยกมาแล้วรับประทานเลยทันที แต่ต้องเป็นอาหารที่ทุกคนได้มีโอกาสแสดงฝีมือหรือมีส่วนร่วมบ้าง เพื่อความภาคภูมิใจและอิ่มอร่อยกับรสชาติที่ตัวเองผสมลงไป เมนูที่แนะนำ อาทิ ข้าวห่อสาหร่าย แทนที่จะใช้ข้าวสวยมาทำ ก็เปลี่ยนมาเป็นข้าวคลุกกะปิห่อสาหร่ายแทน หยิบนั่นมาผสมเติมนี้เข้าไปหน่อย เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารมื้อพิเศษนี้
3. สำหรับเครื่องดื่มถ้าไม่ต้องการให้มีแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยง แนะนำให้หาพืชสมุนไพรที่หาง่าย อย่างเช่น มะตูม หรือ ใบเตย ทำเป็นเครื่องดื่มแสนวิเศษ และเพิ่มความซ่าหรือรสชาติที่แปลกออกไปด้วยการเติมโซดา ก็จะทำให้มีรสชาติขึ้นมาอีกไม่เบา
4. ทุกครั้งที่เลือกซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร จะต้องเลือกร้านที่สะอาด ที่สำคัญต้องปลอดสารพิษ เพื่อไม่ให้มีสารพิษมาเจือปนในร่างกาย จนอาจทำให้วันแห่งความสุขกลายเป็นวันแห่งความทุกข์ทรมาน เพราะวิ่งเข้าห้องน้ำไม่หยุด
เคยฟังแต่เพลง "อิ่มอุ่น" ของสามี "จุ้ย-ศุ บุญเลี้ยง" แต่หลายปีมานี้ เราได้อร่อยอิ่มอุ่น กับอาหารและเครื่องดื่ม จากฝีมือภรรยาเจ้าของเพลงนี้ นับตั้งแต่ปี 2541 ที่ได้เปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเปิดให้บริการขนมปัง นมสด และเบเกอรีต่างๆ ที่ใช้ชื่อว่า "อิ่มอุ่น" ภายใต้การดูแลของ จ๋า-พวงมณี บุญเลี้ยง ศรีภรรยาคู่ชีวิต แถมยังได้ขยายแฟรนไชส์ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ และในกรุงเทพฯ แถวบางกะปิ, รามคำแหง, เมเจอร์ รัชโยธิน และบริษัท เวิร์คพอยท์
สุดท้ายด้วยข้อจำกัดทางพื้นที่และเหตุผลอื่นๆ มาประกอบกัน ทำให้ร้านอิ่มอุ่นเดินทางมาถึงช่วงขาลง เป็นเหตุให้สามีภรรยาคู่นี้หันมายึดฐานที่มั่นใหม่ ด้วยการเปิดเป็นแคเทอริ่งบริการรับจัดอาหารตามงานเลี้ยงนอกสถานที่ ภายใต้ชื่อแบรนด์อันแสนอบอุ่นว่า "อิ่มอุ่นแคเทอริ่ง" แทนการเปิดขายอาหาร นมสดและขนมปังที่ร้านเพียงอย่างเดียว โดยมีสามีสุดที่รักที่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด คอยเป็นผู้ให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
จ๋า หญิงสาวผู้มีแววตาเปี่ยมไปด้วยพลังที่แฝงอยู่ภายในเรือนร่างอันบอบบาง ในปัจจุบันนี้นอกจากเธอจะเป็นหัวเรือใหญ่ในการดูแลร้านอิ่มอุ่นและแคเทอริ่งอยู่แล้ว แต่อีกภาคหนึ่งเธอคือบอสสาวของ บริษัท กะทิกะลา และยังเป็นที่ปรึกษาด้านการจัดทำซีดีเพลง และเว็บไซต์ให้บริษัทอีกด้วย
เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นของอิ่มอุ่นแคเทอริ่งว่า เดิมทีเป็นชื่อมาจากร้านอาหาร "อิ่มอุ่น" ซึ่งในช่วงแรกได้เปิดขายขนมปังและนมสด ต่อมาภายหลังจึงเริ่มขยับมาทำอาหารสีสันแปลกตาชวนให้น่ารับประทาน ดังนั้น เมื่อลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านแล้วพบกับความแปลกใหม่ของอาหาร จึงติดใจและอยากให้อาหารที่มีหน้าตาและรสชาติแบบนี้ ไปอยู่ในงานจัดเลี้ยงที่บ้านของตัวเองบ้าง
จนเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา มีเสียงจากลูกค้าหลายคนร้องขอต้องการให้อาหารที่อยู่ในร้าน ออกไปโชว์ตัวข้างนอกให้คนอื่นได้อิ่มอร่อยบ้าง ประกอบกับตัวเองเป็นคนที่ชอบดีไซน์อาหารในรูปแบบต่างๆ อยู่ตลอดเวลา "อิ่มอุ่น" แคเทอริ่งจึง ได้เกิดขึ้น
หญิงสาวเล่าว่าระยะแรกของแคเทอริ่งนั้น อาหารที่นำมาจัดเลี้ยงนอกสถานที่ จะเป็นอาหารที่มาจากร้านเดิมเป็นหลัก คือพวกขนมปังและนมสด แต่มาในช่วงหลังคนเริ่มตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพและหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น เธอจึงเริ่มขยับความคิดไปที่เรื่องสุขภาพ โดยเน้นเมนูไปที่อาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม
"หลายคนจะเข้าใจว่า อาหารสุขภาพเป็นอาหารเจแบบจืดๆ ไร้รสชาติ ไม่มีสีสันชวนรับประทาน ซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่ เราสามารถทำอาหารสุขภาพให้น่ารับประทานและอร่อยได้"
เพราะความต้องการที่ไม่หยุดนิ่งของลูกค้า เธอจึงพยายามที่จะทำให้อาหารสุขภาพมีสีสันน่ารับประทานมากขึ้น และเป็นที่พึงพอใจของบรรดาแขกเหรื่อทุกคนที่มาร่วมงาน รวมไปถึงลูกค้าที่ยอมควักกระเป๋าจำนวนไม่น้อยในการจ่ายค่าบริการ เกิดความพึงพอใจและอยากเรียกกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ดังนั้น เธอจึงชูอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลักในการจัดอาหาร จนกลายมาเป็นความโดดเด่นและเอกลักษณ์ของ "อิ่มอุ่น" แคเทอริ่ง ที่ลูกค้าและแขกหลายราย ที่ได้ลองรับประทานแล้วรู้สึกติดใจในรสชาติ และสีสันอันงดงาม
จ๋าเล่าต่อว่า หัวใจของการทำธุรกิจแคเทอริ่งในยุคนี้ จะต้องใช้ไอเดียอย่างมากในการรังสรรค์รูปแบบของอาหารให้แปลกตาแปลกใจอยู่ตลอดเวลา เพราะโจทย์ที่ลูกค้าให้มานับวันยิ่งมีความยากมากขึ้น ถ้าไม่ครีเอตให้ทันกับความต้องการของลูกค้าก็คงจะอยู่ในสายอาชีพนี้ค่อนข้างลำบาก
"ทุกวันเราจะต้องพยายามคิดหาเมนูอาหารให้มีความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลาโดยทุกครั้งจะเป็นคนออกแบบเอง เพื่อให้อาหารออกมาตรงใจลูกค้ามากที่สุด
ส่วนตัวมีความเชื่อว่า ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เราสามารถทำอาหารต่างๆ ให้น่ารับประทานได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานหลักหรือเป็นเบรกต่างๆ เพียงแต่เราทำความเข้าใจกับโจทย์ของอาหารหรือเมนูต่างๆ ที่ลูกค้าให้มาเสียก่อน หลังจากนั้น จึงมาคิดวิธีการสร้างสรรค์อาหารอย่างไรถึงจะออกมาได้อย่างมีรสชาติและสวยงามน่ารับประทาน
งานแรกที่อิ่มอุ่นแคเทอริ่งมีโอกาสแสดงฝีมือคือ การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เวิร์คพอยท์ ซึ่งโจทย์ที่ลูกค้าให้มาคือ ต้องการได้อาหารว่างที่พิเศษกว่าเบเกอรี ที่ใส่กล่องมาเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้อาหารมีลูกเล่นพิเศษเพิ่มขึ้นมา เธอจึงนำขนมปังสังขยา มารับประทานกับกาแฟโบราณและชาโบราณ และโรตีที่ทำมาจากแป้งโฮลวีตเป็นส่วนผสมหลักแทนแป้งโรตีทั่วไปที่ไปสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน ส่วนข้างในก็ห่อด้วยไส้ทูน่า
กับอีกงานหนึ่งที่ทำให้อิ่มอุ่นแคเทอริ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นคือ งานคอนเสิร์ต "The Lost Love Song" ตามหาเพลงรักที่หายไป ซึ่งคอนเซ็ปต์ของงานนี้ก็คือตามหาบทเพลงเก่าเมื่อในอดีต โดยงานนี้เธอครีเอตโดยใช้ใบตองเป็นภาชนะสำหรับวางอาหารหรือใส่อาหาร เพื่อให้ทุกคนหวนนึกถึงอดีตเมื่อครั้งยังเป็นหนุ่มสาวแรกรุ่นที่ยังคงใช้ใบตองเป็นพร็อบชิ้นสำคัญในการใส่อาหารรับประทาน ในที่สุดงานนั้นก็ผ่านไปด้วยความราบรื่น
ถึงแม้ว่าแคเทอริ่งจะต้องแข่งขันกันในเรื่องความแปลกใหม่ของอาหาร แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา จ๋าเพิ่มเติมว่า สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งคือรสชาติและความใส่ใจในเรื่องของความสะอาด เพราะถ้าเมื่อไรก็ตาม ที่เราซึ่งเป็นคนทำอาหาร และยังไม่อยากที่จะกินอาหารของเรา ก็จงอย่าหวังให้คนอื่นอยากกินของเรา" จ๋าสรุปทิ้งท้าย
***********
เคล็ดลับจัดปาร์ตี้เก๋ไก๋
ในบ้านรับปีใหม่
สำหรับเทศกาลแห่งความสุขและการฉลองที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีนี้อย่างวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จ๋า-พวงมณี ได้แนะเคล็ดลับวิธีการทำอาหาร ซึ่งเป็นพระเอกในงานปาร์ตี้ เพื่อให้ค่ำคืนแห่งความสุขของทุกคนมีแต่รอยยิ้มและความประทับใจอย่างไม่รู้ลืมมาฝากกันด้วย เริ่มที่
1. กำหนดธีมในการจัดปาร์ตี้ให้ได้ก่อนว่าจะอยู่ในรูปแบบไหน ใช้สีอะไรเป็นหลัก
2. จากนั้นค่อยมาคิดเมนูว่าจะทำอะไร อาหารทุกชนิดไม่ว่าจะทำยากหรือง่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเป็นอาหารประเภทที่ไม่ได้ยกมาแล้วรับประทานเลยทันที แต่ต้องเป็นอาหารที่ทุกคนได้มีโอกาสแสดงฝีมือหรือมีส่วนร่วมบ้าง เพื่อความภาคภูมิใจและอิ่มอร่อยกับรสชาติที่ตัวเองผสมลงไป เมนูที่แนะนำ อาทิ ข้าวห่อสาหร่าย แทนที่จะใช้ข้าวสวยมาทำ ก็เปลี่ยนมาเป็นข้าวคลุกกะปิห่อสาหร่ายแทน หยิบนั่นมาผสมเติมนี้เข้าไปหน่อย เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการทำอาหารมื้อพิเศษนี้
3. สำหรับเครื่องดื่มถ้าไม่ต้องการให้มีแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยง แนะนำให้หาพืชสมุนไพรที่หาง่าย อย่างเช่น มะตูม หรือ ใบเตย ทำเป็นเครื่องดื่มแสนวิเศษ และเพิ่มความซ่าหรือรสชาติที่แปลกออกไปด้วยการเติมโซดา ก็จะทำให้มีรสชาติขึ้นมาอีกไม่เบา
4. ทุกครั้งที่เลือกซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร จะต้องเลือกร้านที่สะอาด ที่สำคัญต้องปลอดสารพิษ เพื่อไม่ให้มีสารพิษมาเจือปนในร่างกาย จนอาจทำให้วันแห่งความสุขกลายเป็นวันแห่งความทุกข์ทรมาน เพราะวิ่งเข้าห้องน้ำไม่หยุด