ญี่ปุ่นส่งจดหมายถึงเลขาธิการสหประชาชาติ โต้แย้งข้อเรียกร้องของจีนกรณีไต้หวัน ย้ำจุดยืนของประเทศไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่แถลงการณ์ร่วมญี่ปุ่น-จีนในปี พ.ศ. 2515
นิวยอร์ก - เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24.พ.ย.) นายคาซูยูกิ ยามาซากิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสหประชาชาติ ได้ส่งจดหมายถึงนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อโต้แย้งข้อเรียกร้องของจีนที่ขอให้นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ถอนคำพูดเกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินในไต้หวัน
ในจดหมาย ยามาซากิเน้นย้ำว่านโยบายพื้นฐานของญี่ปุ่นเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการป้องกันประเทศโดยเฉพาะ เขาโต้แย้งว่าข้ออ้างของจีนที่เสนอว่าญี่ปุ่นจะใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง แม้ว่าจะไม่มีการโจมตีด้วยอาวุธนั้นไม่ถูกต้อง
ยามาซากิยังกล่าวอีกว่า จุดยืนของประเทศเขาเกี่ยวกับไต้หวันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่แถลงการณ์ร่วมญี่ปุ่น-จีนในปี พ.ศ. 2515 ซึ่งทั้งสองประเทศได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต และเสริมว่าโตเกียวคาดหวังว่าปัญหาไต้หวันจะได้รับการแก้ไขอย่างสันติผ่านการเจรจา
ยามาซากิชี้ว่าจีนได้ระงับการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนและเศรษฐกิจกับญี่ปุ่น รวมถึงการค้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล โดยกล่าวว่าญี่ปุ่นจะจัดการกับเรื่องนี้ด้วยความสงบผ่านการเจรจา
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฟู่ กง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ ได้กล่าวในจดหมายถึงกูเตอร์เรสว่า คำพูดของทาคาอิจิถือเป็น "ครั้งแรกที่ญี่ปุ่นแสดงความทะเยอทะยานที่จะแทรกแซงทางทหารในประเด็นไต้หวัน"
ญี่ปุ่นและจีนมีข้อพิพาททางการทูตกันนับตั้งแต่ปักกิ่งวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อคำตอบของทาคาอิจิต่อคำถามในรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ซึ่งเธอกล่าวว่าการโจมตีทางทหารต่อไต้หวันอาจก่อให้เกิด "สถานการณ์ที่คุกคามการอยู่รอด" ของญี่ปุ่น
คำพูดของเธอถูกตีความว่าบ่งชี้ว่ารัฐบาลของเธอสามารถอนุญาตให้กองกำลังป้องกันตนเองดำเนินการสนับสนุนสหรัฐอเมริกา หากจีนปิดล้อมไต้หวันทางทะเลหรือใช้การบังคับขู่เข็ญในรูปแบบอื่นๆ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกสหประชาชาติ กล่าวว่า การบรรเทาความตึงเครียดผ่านการเจรจาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนกำลังเสื่อมถอยลง


