ปรัชญาการทำงานแบบ “เจแปนเวย์” ผ่านมุมมองของผู้บริหารชาวไทย ซึ่งผ่านประสบการณ์ทำงานกับชาวญี่ปุ่นมานานกว่า 10 ปี......โดย ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล
ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร บริษัทอิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด

ตอนที่ 17
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1997 เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงงานของ Aisin Seiki (ปัจจุบันคือ Aisin Corporation) ผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญให้กับ Toyota Motor Corporation ชิ้นส่วนนั้นคือ P-valve – วาล์วควบคุมแรงดันน้ำมันเบรก ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่จำเป็นในรถทุกคันที่ออกจากสายการผลิต
ปัญหาคือ Aisin เป็นผู้ผลิตรายเดียวในเครือที่สามารถผลิต P-valve ได้ในปริมาณและมาตรฐานที่ Toyota ต้องการ เมื่อโรงงานถูกไฟไหม้จนเสียหายหนัก การผลิต P-valve ต้องหยุดทันที — และนั่นหมายความว่า สายการประกอบรถยนต์ทั้งหมดของ Toyota ทั่วญี่ปุ่นกำลังจะหยุดลงในเวลาไม่กี่วัน
ด้วยความที่ Shinrai สั่งสมปัญหามานาน สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์นี้ไม่กลายเป็นหายนะถาวร คือ “ความไว้วางใจ” ที่ Toyota สร้างกับซัพพลายเออร์มาตลอดหลายทศวรรษ Toyota มีระบบเครือข่ายที่เรียกว่า Keiretsu — ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ไม่ได้วัดกันเพียงราคาหรือสัญญา แต่เป็นพันธมิตรที่ช่วยเหลือกันในยามยาก
เมื่อไฟไหม้เกิดขึ้น Toyota ไม่ได้ต่อว่าหรือโยนความผิดให้ Aisin แต่กลับส่งทีมวิศวกรของตนเข้าไปช่วยฟื้นฟู พร้อมประสานงานกับซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ ที่ปกติแล้วไม่ได้ผลิตชิ้นส่วนนี้ ให้ดัดแปลงสายการผลิตมาทำ P-valve ชั่วคราว
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ซัพพลายเออร์กว่า 200 รายทั่วญี่ปุ่นเริ่มส่งทีมงาน เครื่องจักร และแม้กระทั่งช่างฝีมือเข้ามาช่วยผลิต P-valve ให้ Toyota หลายบริษัทไม่ได้มีข้อผูกพันตามสัญญา แต่พวกเขายอมช่วย เพราะเชื่อมั่นว่า Toyota จะไม่ลืมสิ่งที่พวกเขาทำ ในเวลาเพียง 5 วัน P-valve ชุดแรกจากสายการผลิตสำรองก็ถูกส่งไปยังสายประกอบรถยนต์
และภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์ การผลิตรถยนต์กลับมาดำเนินได้ตามปกติ
เหตุการณ์นี้กลายเป็นตัวอย่างระดับโลกของการบริหารจัดการวิกฤตด้วยความสัมพันธ์และความไว้วางใจ
เพราะถ้า Toyota บริหารด้วยวิธีที่เน้นเพียงการต่อรองราคา หรือเปลี่ยนซัพพลายเออร์บ่อยเพื่อหาของถูกที่สุด
ในวันที่เกิดเหตุ ไม่มีทางที่เครือข่ายจะพร้อมช่วยเหลือกันอย่างรวดเร็วและจริงใจเช่นนี้
สิ่งที่องค์กรอื่นเรียนรู้ได้
1 สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว – Shinrai ไม่เกิดจากการประชุมครั้งเดียว แต่จากการรักษาสัญญาและดูแลกันมาตลอด
2 ช่วยเหลือก่อนจะถูกขอ – ในวันที่อีกฝ่ายลำบาก การยื่นมือก่อนคือการลงทุนในความสัมพันธ์
3 มองซัพพลายเออร์เป็นพันธมิตร ไม่ใช่แค่ผู้ขาย – เพราะความไว้ใจที่แท้จริงเกิดจากความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน
Shinrai คือสินทรัพย์ที่ใช้แล้วไม่หมด เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงาน Aisin พิสูจน์ให้เห็นว่า ความไว้วางใจที่สั่งสมมานาน…สามารถกู้บริษัทให้รอดจากจุดวิกฤติได้ และในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน Shinrai ไม่ใช่แค่ “คุณค่าที่ดีมีไว้” แต่คือ เกราะป้องกันวิกฤตที่แข็งแกร่งที่สุด
“กำไรทำให้ธุรกิจอยู่ได้… แต่ความไว้วางใจทำให้ธุรกิจอยู่รอด”
ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหาร บริษัทอิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด
ตอนที่ 17
ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1997 เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงงานของ Aisin Seiki (ปัจจุบันคือ Aisin Corporation) ผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญให้กับ Toyota Motor Corporation ชิ้นส่วนนั้นคือ P-valve – วาล์วควบคุมแรงดันน้ำมันเบรก ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่จำเป็นในรถทุกคันที่ออกจากสายการผลิต
ปัญหาคือ Aisin เป็นผู้ผลิตรายเดียวในเครือที่สามารถผลิต P-valve ได้ในปริมาณและมาตรฐานที่ Toyota ต้องการ เมื่อโรงงานถูกไฟไหม้จนเสียหายหนัก การผลิต P-valve ต้องหยุดทันที — และนั่นหมายความว่า สายการประกอบรถยนต์ทั้งหมดของ Toyota ทั่วญี่ปุ่นกำลังจะหยุดลงในเวลาไม่กี่วัน
ด้วยความที่ Shinrai สั่งสมปัญหามานาน สิ่งที่ทำให้เหตุการณ์นี้ไม่กลายเป็นหายนะถาวร คือ “ความไว้วางใจ” ที่ Toyota สร้างกับซัพพลายเออร์มาตลอดหลายทศวรรษ Toyota มีระบบเครือข่ายที่เรียกว่า Keiretsu — ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ไม่ได้วัดกันเพียงราคาหรือสัญญา แต่เป็นพันธมิตรที่ช่วยเหลือกันในยามยาก
เมื่อไฟไหม้เกิดขึ้น Toyota ไม่ได้ต่อว่าหรือโยนความผิดให้ Aisin แต่กลับส่งทีมวิศวกรของตนเข้าไปช่วยฟื้นฟู พร้อมประสานงานกับซัพพลายเออร์รายอื่น ๆ ที่ปกติแล้วไม่ได้ผลิตชิ้นส่วนนี้ ให้ดัดแปลงสายการผลิตมาทำ P-valve ชั่วคราว
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ ซัพพลายเออร์กว่า 200 รายทั่วญี่ปุ่นเริ่มส่งทีมงาน เครื่องจักร และแม้กระทั่งช่างฝีมือเข้ามาช่วยผลิต P-valve ให้ Toyota หลายบริษัทไม่ได้มีข้อผูกพันตามสัญญา แต่พวกเขายอมช่วย เพราะเชื่อมั่นว่า Toyota จะไม่ลืมสิ่งที่พวกเขาทำ ในเวลาเพียง 5 วัน P-valve ชุดแรกจากสายการผลิตสำรองก็ถูกส่งไปยังสายประกอบรถยนต์
และภายในไม่ถึง 2 สัปดาห์ การผลิตรถยนต์กลับมาดำเนินได้ตามปกติ
เหตุการณ์นี้กลายเป็นตัวอย่างระดับโลกของการบริหารจัดการวิกฤตด้วยความสัมพันธ์และความไว้วางใจ
เพราะถ้า Toyota บริหารด้วยวิธีที่เน้นเพียงการต่อรองราคา หรือเปลี่ยนซัพพลายเออร์บ่อยเพื่อหาของถูกที่สุด
ในวันที่เกิดเหตุ ไม่มีทางที่เครือข่ายจะพร้อมช่วยเหลือกันอย่างรวดเร็วและจริงใจเช่นนี้
สิ่งที่องค์กรอื่นเรียนรู้ได้
1 สร้างความสัมพันธ์ระยะยาว – Shinrai ไม่เกิดจากการประชุมครั้งเดียว แต่จากการรักษาสัญญาและดูแลกันมาตลอด
2 ช่วยเหลือก่อนจะถูกขอ – ในวันที่อีกฝ่ายลำบาก การยื่นมือก่อนคือการลงทุนในความสัมพันธ์
3 มองซัพพลายเออร์เป็นพันธมิตร ไม่ใช่แค่ผู้ขาย – เพราะความไว้ใจที่แท้จริงเกิดจากความรู้สึกเป็นทีมเดียวกัน
Shinrai คือสินทรัพย์ที่ใช้แล้วไม่หมด เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงาน Aisin พิสูจน์ให้เห็นว่า ความไว้วางใจที่สั่งสมมานาน…สามารถกู้บริษัทให้รอดจากจุดวิกฤติได้ และในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน Shinrai ไม่ใช่แค่ “คุณค่าที่ดีมีไว้” แต่คือ เกราะป้องกันวิกฤตที่แข็งแกร่งที่สุด
“กำไรทำให้ธุรกิจอยู่ได้… แต่ความไว้วางใจทำให้ธุรกิจอยู่รอด”