ปรัชญาการทำงานแบบ “เจแปนเวย์” ผ่านมุมมองของผู้บริหารชาวไทย ซึ่งผ่านประสบการณ์ทำงานกับชาวญี่ปุ่นมานานกว่า 10 ปี......โดย ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล กรรมการบริหาร บริษัทอิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด

09
ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า “時間 (Jikan)” หมายถึง "เวลา" แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ผมพบว่า
Jikan ในความหมายของคนญี่ปุ่น…ไม่ได้มีไว้แค่บอกเวลา แต่คือ “การให้เกียรติ” และ “การใส่ใจหัวใจของคนอื่น” ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “ความตรงต่อเวลา”
ผมได้สัมผัสความหมายของคำนี้ชัดเจนที่สุด เมื่อต้องเดินทางด้วยรถไฟในประเทศญี่ปุ่น รถไฟความเร็วสูง ชินคันเซ็น มีสถิติความแม่นยำสูงที่สุดในโลก ความคลาดเคลื่อนโดยเฉลี่ยในหนึ่งปี…อยู่ที่เพียงไม่กี่วินาที และหากรถไฟล่าช้าเพียง 2 นาที เจ้าหน้าที่จะประกาศขอโทษผ่านลำโพง พร้อมแจกใบรับรองการล่าช้าให้ผู้โดยสารไปยื่นกับบริษัทหากไปทำงานสาย ตอนนั้นผมนั่งอยู่บนรถไฟ และถามตัวเองว่า “เพียงไม่กี่วินาที…เขายังใส่ใจขนาดนี้”
จนเมื่อผมเริ่มทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น ภาพของความตรงต่อเวลาไม่ได้อยู่แค่บนรางรถไฟ แต่มาอยู่ในห้องประชุม อยู่ในจังหวะนัดหมาย อยู่ในการส่งอีเมลทุกฉบับ
ในการประชุมครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ผู้จัดประชุมแจ้งว่า "ใช้เวลา 60 นาที" และผมเผลอคิดในใจว่า “ก็คงยืดเยื้ออีกตามสไตล์การประชุมทั่วไป” แต่เมื่อเริ่มประชุม…ทุกคนพูดสั้น เข้าเรื่อง ชัดเจน
ไม่มีบทเกริ่น ไม่มีเรื่องนอกประเด็น ไม่มีใครขัดจังหวะใคร และที่สำคัญที่สุด — การประชุมจบตรงเวลาวินาทีสุดท้าย
ผมเริ่มเข้าใจว่า “เวลา” สำหรับคนญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับวางตาราง แต่คือ ความเคารพ ถ้าผมมาสาย 10 นาที เท่ากับผมได้ขโมยเวลา 10 นาทีจากชีวิตของใครบางคน และในวัฒนธรรมที่ให้เกียรติคนอื่นสูงมาก…สิ่งนั้นคือการไม่ให้เกียรติอย่างยิ่ง
ผมเคยถามเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งว่า ทำไมต้องเคร่งเรื่องเวลาขนาดนั้น เขายิ้ม และตอบผมอย่างสุภาพว่า “เพราะเวลาคือสิ่งเดียวที่เราคืนกันไม่ได้ครับ” คำนั้นกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ผมยังพกไว้ทุกวัน มันทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนวิธีคิด จากการใช้เวลาให้คุ้มค่า เป็น การให้คุณค่ากับเวลา
ในบริษัทที่ประเทศไทย ผมเริ่มปลูกฝังวัฒนธรรมนี้กับทีมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการเข้าประชุมตรงเวลา จบประชุมตามเวลาที่กำหนด และสอนน้อง ๆ ว่า “การตรงต่อเวลา ไม่ใช่แค่เรื่องระเบียบวินัย…แต่มันคือการเคารพชีวิตคนอื่น” แม้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน
แต่ผมเชื่อว่า หากหัวใจเราเดินไปในจังหวะเดียวกับคำว่า “Jikan” แบบญี่ปุ่น เราจะสร้างองค์กรที่มีทั้งประสิทธิภาพ และความน่าเคารพได้อย่างแท้จริง
เวลาไม่ใช่แค่สิ่งที่เรามี แต่คือสิ่งที่เรามอบให้กันได้ คนที่ให้เวลาตรงเวลา คือคนที่ให้เกียรติ
คนที่ใช้เวลาพอดี คือคนที่เข้าใจความพอเหมาะของชีวิต และในโลกที่หมุนเร็ว…คนที่เดินอย่างมีจังหวะ
คือคนที่ไม่หลุดออกจากความหมายของ “การอยู่ร่วมกับคนอื่น”
“เวลาที่ตรงต่อกัน คือการเคารพกันโดยไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณ และการจบให้ตรงเวลา…ก็คือการบอกว่า ‘ฉันเห็นคุณค่าของเวลาคุณเท่ากับของฉัน’”
09
ในภาษาญี่ปุ่น คำว่า “時間 (Jikan)” หมายถึง "เวลา" แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตร่วมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ผมพบว่า
Jikan ในความหมายของคนญี่ปุ่น…ไม่ได้มีไว้แค่บอกเวลา แต่คือ “การให้เกียรติ” และ “การใส่ใจหัวใจของคนอื่น” ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “ความตรงต่อเวลา”
ผมได้สัมผัสความหมายของคำนี้ชัดเจนที่สุด เมื่อต้องเดินทางด้วยรถไฟในประเทศญี่ปุ่น รถไฟความเร็วสูง ชินคันเซ็น มีสถิติความแม่นยำสูงที่สุดในโลก ความคลาดเคลื่อนโดยเฉลี่ยในหนึ่งปี…อยู่ที่เพียงไม่กี่วินาที และหากรถไฟล่าช้าเพียง 2 นาที เจ้าหน้าที่จะประกาศขอโทษผ่านลำโพง พร้อมแจกใบรับรองการล่าช้าให้ผู้โดยสารไปยื่นกับบริษัทหากไปทำงานสาย ตอนนั้นผมนั่งอยู่บนรถไฟ และถามตัวเองว่า “เพียงไม่กี่วินาที…เขายังใส่ใจขนาดนี้”
จนเมื่อผมเริ่มทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น ภาพของความตรงต่อเวลาไม่ได้อยู่แค่บนรางรถไฟ แต่มาอยู่ในห้องประชุม อยู่ในจังหวะนัดหมาย อยู่ในการส่งอีเมลทุกฉบับ
ในการประชุมครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ผู้จัดประชุมแจ้งว่า "ใช้เวลา 60 นาที" และผมเผลอคิดในใจว่า “ก็คงยืดเยื้ออีกตามสไตล์การประชุมทั่วไป” แต่เมื่อเริ่มประชุม…ทุกคนพูดสั้น เข้าเรื่อง ชัดเจน
ไม่มีบทเกริ่น ไม่มีเรื่องนอกประเด็น ไม่มีใครขัดจังหวะใคร และที่สำคัญที่สุด — การประชุมจบตรงเวลาวินาทีสุดท้าย
ผมเริ่มเข้าใจว่า “เวลา” สำหรับคนญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับวางตาราง แต่คือ ความเคารพ ถ้าผมมาสาย 10 นาที เท่ากับผมได้ขโมยเวลา 10 นาทีจากชีวิตของใครบางคน และในวัฒนธรรมที่ให้เกียรติคนอื่นสูงมาก…สิ่งนั้นคือการไม่ให้เกียรติอย่างยิ่ง
ผมเคยถามเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งว่า ทำไมต้องเคร่งเรื่องเวลาขนาดนั้น เขายิ้ม และตอบผมอย่างสุภาพว่า “เพราะเวลาคือสิ่งเดียวที่เราคืนกันไม่ได้ครับ” คำนั้นกลายเป็นบทเรียนสำคัญที่ผมยังพกไว้ทุกวัน มันทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนวิธีคิด จากการใช้เวลาให้คุ้มค่า เป็น การให้คุณค่ากับเวลา
ในบริษัทที่ประเทศไทย ผมเริ่มปลูกฝังวัฒนธรรมนี้กับทีมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการเข้าประชุมตรงเวลา จบประชุมตามเวลาที่กำหนด และสอนน้อง ๆ ว่า “การตรงต่อเวลา ไม่ใช่แค่เรื่องระเบียบวินัย…แต่มันคือการเคารพชีวิตคนอื่น” แม้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในชั่วข้ามคืน
แต่ผมเชื่อว่า หากหัวใจเราเดินไปในจังหวะเดียวกับคำว่า “Jikan” แบบญี่ปุ่น เราจะสร้างองค์กรที่มีทั้งประสิทธิภาพ และความน่าเคารพได้อย่างแท้จริง
เวลาไม่ใช่แค่สิ่งที่เรามี แต่คือสิ่งที่เรามอบให้กันได้ คนที่ให้เวลาตรงเวลา คือคนที่ให้เกียรติ
คนที่ใช้เวลาพอดี คือคนที่เข้าใจความพอเหมาะของชีวิต และในโลกที่หมุนเร็ว…คนที่เดินอย่างมีจังหวะ
คือคนที่ไม่หลุดออกจากความหมายของ “การอยู่ร่วมกับคนอื่น”
“เวลาที่ตรงต่อกัน คือการเคารพกันโดยไม่ต้องพูดคำว่าขอบคุณ และการจบให้ตรงเวลา…ก็คือการบอกว่า ‘ฉันเห็นคุณค่าของเวลาคุณเท่ากับของฉัน’”