ปรัชญาการทำงานแบบ “เจแปนเวย์” ผ่านมุมมองของผู้บริหารชาวไทย ซึ่งผ่านประสบการณ์ทำงานกับชาวญี่ปุ่นมานานกว่า 10 ปี......โดย ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล กรรมการบริหาร บริษัทอิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด

07
ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีคำหนึ่งที่สะท้อนแก่นของ “ความเงียบที่ลึกซึ้ง” ได้อย่างชัดเจน คำนั้นคือ “黙考 (Mokkou)” คำนี้แปลว่า “การนิ่งคิดอย่างมีสติ” หรือ “การไตร่ตรองในความเงียบ”
Mokkou ไม่ใช่การเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่คือการเงียบเพราะรู้ว่า “คำพูดทุกคำมีผลกระทบ” และการนิ่ง…คือการให้พื้นที่กับความคิดก่อนจะปล่อยเสียงออกมา
ผมได้เรียนรู้ความหมายของคำนี้จากการร่วมงานกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง เขาเป็นคนพูดน้อยมาก ในการประชุมใหญ่ของบริษัทที่มีผมร่วมอยู่ด้วยในฐานะตัวแทนฝั่งไทย เขาแทบไม่พูดอะไรเลยตลอดชั่วโมงแรกของการประชุม เพียงแค่ฟัง พยักหน้า และจดบันทึกเงียบ ๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม
ผมเริ่มรู้สึกอึดอัด และเผลอคิดในใจว่า
“เขาคิดอะไรอยู่ เขาไม่เห็นด้วยหรือเปล่า หรือเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เรานำเสนอ”
แต่เมื่อถึงช่วงท้ายของการประชุม เขายกมือขึ้น…ขอเวลาพูดเพียงสั้น ๆ และสิ่งที่เขาพูดนั้น กลับสรุปทุกประเด็นที่ถกเถียงกันมาตลอดหนึ่งชั่วโมงได้อย่างเรียบง่าย ชัดเจน และลงลึกกว่าใคร
หลังจบการประชุม ผมเข้าไปถามเขาอย่างสุภาพว่า “ท่านใช้วิธีคิดอย่างไร จึงสามารถสรุปทุกอย่างได้แม่นขนาดนั้น ทั้งที่แทบไม่ได้พูดระหว่างการประชุม”
เขายิ้มเบา ๆ แล้วตอบว่า “เพราะผมใช้เวลา ‘黙考 – Mokkou’ ผมเชื่อว่าการฟังที่ดี คือการรับฟังโดยไม่แทรกความคิดตัวเองทันที และคำพูดที่ดี ควรพูดหลังจากได้ฟังจนเข้าใจทุกมุมแล้วเท่านั้น”
คืนนั้นผมกลับบ้าน นั่งในห้องเงียบๆ และย้อนทบทวนคำพูดของเขา ผมเริ่มรู้ตัวว่า ในหลายปีของการทำงาน ผมอาจพูดเก่งเกินไป…แต่ฟังไม่ลึกพอบางครั้ง ผมอยากตอบกลับทันทีเมื่อไม่เห็นด้วย อยากรีบแสดงความคิด อยากรีบเสนอแนะ โดยลืมไปว่า “ความชัดเจน” ไม่ได้เกิดจากคำพูดที่เร็ว แต่มาจากคำพูดที่ผ่านการไตร่ตรองแล้ว
หลังจากวันนั้นผมเริ่มปรับตัวเองใหม่ ผมเริ่มเงียบในที่ประชุมมากขึ้น — ไม่ใช่เพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่เพราะอยาก “ฟังให้จบก่อนเข้าใจให้หมด” ผมเริ่มจดบันทึก…ไม่ใช่เพื่อเก็บข้อมูล แต่เพื่อฝึกให้ใจนิ่ง และรอฟังอย่างตั้งใจ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นน่าประหลาดใจ พนักงานเริ่มกล้าเสนอความคิดมากขึ้นคนที่เคยกลัวว่าจะพูดผิด กล้าพูด เพราะรู้ว่าผู้นำไม่ใช่คนที่ขัดทุกประโยค แต่คือคนที่เงียบ…และฟัง
ในโลกที่คนพูดดังขึ้นเรื่อย ๆ คนที่เงียบจึงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ Mokkou ไม่ได้สอนให้เรานิ่งเงียบตลอดเวลา แต่มันสอนว่า “ทุกคำพูด” ควรถูกชงด้วยความเงียบก่อนจะเสิร์ฟ เหมือนการชงชาของญี่ปุ่น ที่รอให้น้ำร้อนพอดี…ก่อนเทชา และเมื่อเราพูดในเวลาที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่เสียงของเราจะมีน้ำหนักมากขึ้น แต่ใจของคนฟัง…ก็พร้อมจะรับมันด้วยความเคารพ
“คนที่เงียบ…ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรจะพูด แต่คือคนที่รอเวลาที่ควรพูด…เพื่อให้ทุกคำมีพลังมากที่สุด”
07
ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีคำหนึ่งที่สะท้อนแก่นของ “ความเงียบที่ลึกซึ้ง” ได้อย่างชัดเจน คำนั้นคือ “黙考 (Mokkou)” คำนี้แปลว่า “การนิ่งคิดอย่างมีสติ” หรือ “การไตร่ตรองในความเงียบ”
Mokkou ไม่ใช่การเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่คือการเงียบเพราะรู้ว่า “คำพูดทุกคำมีผลกระทบ” และการนิ่ง…คือการให้พื้นที่กับความคิดก่อนจะปล่อยเสียงออกมา
ผมได้เรียนรู้ความหมายของคำนี้จากการร่วมงานกับผู้บริหารชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง เขาเป็นคนพูดน้อยมาก ในการประชุมใหญ่ของบริษัทที่มีผมร่วมอยู่ด้วยในฐานะตัวแทนฝั่งไทย เขาแทบไม่พูดอะไรเลยตลอดชั่วโมงแรกของการประชุม เพียงแค่ฟัง พยักหน้า และจดบันทึกเงียบ ๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม
ผมเริ่มรู้สึกอึดอัด และเผลอคิดในใจว่า
“เขาคิดอะไรอยู่ เขาไม่เห็นด้วยหรือเปล่า หรือเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เรานำเสนอ”
แต่เมื่อถึงช่วงท้ายของการประชุม เขายกมือขึ้น…ขอเวลาพูดเพียงสั้น ๆ และสิ่งที่เขาพูดนั้น กลับสรุปทุกประเด็นที่ถกเถียงกันมาตลอดหนึ่งชั่วโมงได้อย่างเรียบง่าย ชัดเจน และลงลึกกว่าใคร
หลังจบการประชุม ผมเข้าไปถามเขาอย่างสุภาพว่า “ท่านใช้วิธีคิดอย่างไร จึงสามารถสรุปทุกอย่างได้แม่นขนาดนั้น ทั้งที่แทบไม่ได้พูดระหว่างการประชุม”
เขายิ้มเบา ๆ แล้วตอบว่า “เพราะผมใช้เวลา ‘黙考 – Mokkou’ ผมเชื่อว่าการฟังที่ดี คือการรับฟังโดยไม่แทรกความคิดตัวเองทันที และคำพูดที่ดี ควรพูดหลังจากได้ฟังจนเข้าใจทุกมุมแล้วเท่านั้น”
คืนนั้นผมกลับบ้าน นั่งในห้องเงียบๆ และย้อนทบทวนคำพูดของเขา ผมเริ่มรู้ตัวว่า ในหลายปีของการทำงาน ผมอาจพูดเก่งเกินไป…แต่ฟังไม่ลึกพอบางครั้ง ผมอยากตอบกลับทันทีเมื่อไม่เห็นด้วย อยากรีบแสดงความคิด อยากรีบเสนอแนะ โดยลืมไปว่า “ความชัดเจน” ไม่ได้เกิดจากคำพูดที่เร็ว แต่มาจากคำพูดที่ผ่านการไตร่ตรองแล้ว
หลังจากวันนั้นผมเริ่มปรับตัวเองใหม่ ผมเริ่มเงียบในที่ประชุมมากขึ้น — ไม่ใช่เพราะไม่รู้จะพูดอะไร แต่เพราะอยาก “ฟังให้จบก่อนเข้าใจให้หมด” ผมเริ่มจดบันทึก…ไม่ใช่เพื่อเก็บข้อมูล แต่เพื่อฝึกให้ใจนิ่ง และรอฟังอย่างตั้งใจ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นน่าประหลาดใจ พนักงานเริ่มกล้าเสนอความคิดมากขึ้นคนที่เคยกลัวว่าจะพูดผิด กล้าพูด เพราะรู้ว่าผู้นำไม่ใช่คนที่ขัดทุกประโยค แต่คือคนที่เงียบ…และฟัง
ในโลกที่คนพูดดังขึ้นเรื่อย ๆ คนที่เงียบจึงยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ Mokkou ไม่ได้สอนให้เรานิ่งเงียบตลอดเวลา แต่มันสอนว่า “ทุกคำพูด” ควรถูกชงด้วยความเงียบก่อนจะเสิร์ฟ เหมือนการชงชาของญี่ปุ่น ที่รอให้น้ำร้อนพอดี…ก่อนเทชา และเมื่อเราพูดในเวลาที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่เสียงของเราจะมีน้ำหนักมากขึ้น แต่ใจของคนฟัง…ก็พร้อมจะรับมันด้วยความเคารพ
“คนที่เงียบ…ไม่ใช่คนที่ไม่มีอะไรจะพูด แต่คือคนที่รอเวลาที่ควรพูด…เพื่อให้ทุกคำมีพลังมากที่สุด”