เกียวโดนิวส์ (30 พ.ค.) จีนไฟเขียว! นำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังแบนเหตุปล่อยน้ำฟุกุชิมะ ญี่ปุ่นเตรียมส่งออกจาก 37 จังหวัด คาดใช้เวลาอีก 2-3 เดือน หวังจีนยกเลิกแบน 10 จังหวัดที่เหลือ ถือเป็นก้าวสำคัญฟื้นสัมพันธ์สองชาติ
โยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบางส่วนเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมได้รับทราบ คาดว่าทางการจีนจะออกประกาศต่อสาธารณะเพื่อผ่อนปรนข้อห้ามทั่วไปที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 และจะเปิดให้ลงทะเบียนโรงงานแปรรูปและถนอมผลิตภัณฑ์ทางทะเลของญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นจะยังคงพยายามขอให้จีนยกเลิกข้อจำกัดที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับการนำเข้าอาหารจาก 10 จังหวัดของญี่ปุ่น รวมถึงฟุกุชิมะ ซึ่งบังคับใช้หลังจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติทางนิวเคลียร์
ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม กล่าวในการแถลงข่าวว่าการกลับมาส่งออกอาหารทะเลจาก 37 จังหวัดไปยังจีนอีกครั้งจะเป็น "ก้าวสำคัญ"
แหล่งข่าวกล่าวว่าการขนส่งอาหารทะเลของญี่ปุ่นไปยังจีนอาจใช้เวลาสองสามเดือนจึงจะเริ่มต้นได้ เนื่องจากต้องดำเนินการลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นและผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการตรวจสอบกัมมันตภาพรังสี
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นและจีนได้หารือกันในกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธเพื่อบรรลุข้อตกลง ซึ่งครอบคลุมเฉพาะธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังจีนก่อนที่ญี่ปุ่นจะเริ่มปล่อยน้ำเสียในเดือนสิงหาคม 2566
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว รัฐบาลทั้งสองประเทศตกลงที่จะค่อยๆ กลับมาค้าขายอาหารทะเลอีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าประเทศที่สามจะต้องตรวจสอบการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
หลังจากข้อตกลงดังกล่าว จีนได้เก็บตัวอย่างน้ำทะเลใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะภายใต้กรอบของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ และไม่พบสารกัมมันตภาพรังสีในปริมาณที่มากเกินไป
มาตรการห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นของจีนเป็นสาเหตุสำคัญของความตึงเครียดระหว่างสองชาติ ซึ่งยังคงมีความขัดแย้งกันในประเด็นต่างๆ เช่น ข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตและกิจกรรมทางทหารของปักกิ่ง