xs
xsm
sm
md
lg

道 (Dō) – เส้นทางแห่งการฝึกฝน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ปรัชญาการทำงานแบบ “เจแปนเวย์” ผ่านมุมมองของผู้บริหารชาวไทย ซึ่งผ่านประสบการณ์ทำงานกับชาวญี่ปุ่นมานานกว่า 10 ปี......โดย ดร.ธนศักดิ์ วหาวิศาล
กรรมการบริหาร บริษัทอิเดมิตสึ อพอลโล (ประเทศไทย) จำกัด


05

ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น คำว่า “道 (Dō)” ไม่ได้หมายถึงแค่ “ถนน” หรือ “ทางเดิน” อย่างที่แปลตรงตัว แต่มันคือคำที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมแห่งความตั้งใจ ความอดทน และการฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็น 茶道 (Sadō) – วิถีแห่งการชงชา, 剣道 (Kendō) – วิถีแห่งดาบ, หรือแม้แต่ 書道 (Shodō) – วิถีแห่งการเขียนพู่กัน

คำว่า “Dō” ปรากฏอยู่ทุกแห่ง เพื่อเตือนใจว่า สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน…กำลังหล่อหลอม “วิถีชีวิต” ของเราอยู่เงียบ ๆ

ผมเริ่มเข้าใจความหมายของคำนี้อย่างลึกซึ้งเมื่อครั้งแรกที่ได้เข้าไปสัมผัสการทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตร บรรยากาศในสำนักงานของพวกเขาเงียบ เรียบร้อย แต่เปี่ยมด้วยพลังของคนที่ “มั่นคงในหน้าที่” ไม่มีเสียงสั่งการดัง ๆ ไม่มีใครวิ่งวุ่นเหมือนจะทำทุกอย่างให้ทัน แต่ทุกอย่างดู “ไหลไป” อย่างเรียบง่ายและมั่นคง

ในวันนั้น มีผู้บริหารญี่ปุ่นท่านหนึ่งเอ่ยกับผมว่า…

“เราทำงานแบบเดียวกับที่ช่างฝีมือทำมีด เราลับคมทีละนิด แต่ทุกวัน”

คำพูดนั้นไม่ได้ฟังดูน่าตื่นเต้นในตอนแรก แต่เมื่อผมได้ใช้เวลาร่วมงานกับพวกเขานานขึ้น ผมเริ่มเข้าใจว่า “ความเก่ง” ในแบบญี่ปุ่นไม่ได้มาในรูปของไอเดียใหม่ ๆ เสมอไป แต่มาจาก “ความลึก” ในสิ่งที่ทำซ้ำ ๆ ทุกวัน

เมื่อผมกลับมาบริหารงานในประเทศไทย ผมเริ่มสังเกตเห็นสิ่งที่แตกต่างในวิถีทำงานของเรา เราชื่นชม “ความเร็ว” มากกว่าความสม่ำเสมอ เราตื่นเต้นกับ “คนที่คิดเก่ง” มากกว่าคนที่ “ทำเก่ง” เราชอบผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่มักเบื่อหน่ายกับขั้นตอนที่ต้องอดทน

ในบริษัทของผมเอง ผมเคยเห็นพนักงานบางคนที่ไม่พูดเก่ง ไม่ฉูดฉาดแต่เขามาทำงานตรงเวลา ไม่เคยบ่น ไม่เคยส่งงานช้า และใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ ทุกวัน เขาอาจไม่ได้เป็นคนที่มีแผนการตลาดล้ำหน้า แต่เขาคือคนที่ผมสามารถฝากความไว้วางใจได้โดยไม่ต้องพูดอะไร

และเมื่อผมได้เรียนรู้จากญี่ปุ่น ผมเริ่มเข้าใจว่าคนเหล่านี้…เขากำลังเดินอยู่บน “道 – Dō” ของเขาไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเปล่งประกายเหมือนดาว แต่ทุกคนสามารถ “มั่นคงเหมือนภูเขา” ได้ ถ้ารู้จักเส้นทางของตนเอง

ในโลกที่ทุกอย่างหมุนเร็วที่ใคร ๆ ก็อยากเก่งเร็ว สำเร็จเร็ว ดังเร็ว การได้กลับมาย้อนมองคำว่า “道“ ทำให้ผมสงบขึ้น และเข้าใจว่าความยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราจะไปถึงจุดสูงสุดเมื่อไหร่ แต่อยู่ที่ว่า…เราฝึกฝนตัวเองอย่างไรในทุกก้าวของทางเดิน

คนที่เข้าใจคำว่า “道” จะไม่หลงทางในโลกที่เสียงดังเสมอ เพราะเขาไม่ได้เดินเพื่อแข่งกับใคร แต่เดินเพื่อเข้าใจตัวเอง ฝึกฝนตัวเอง และเติมเต็มชีวิตของตัวเอง ในแบบที่มั่นคง ไม่เร่งรีบ และไม่ต้องพิสูจน์ให้ใครเห็น…นอกจากหัวใจของตัวเอง

“เส้นทางที่เราฝึกฝนอย่างเงียบงันในทุกวันจะกลายเป็นความมั่นคงที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น