เกียวโดนิวส์ (15 พ.ค.) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดของญี่ปุ่น.ได้เปิดเผยร่างแนวทางสำหรับกฎหมายที่ควบคุมบริการซอฟต์แวร์สมาร์ทโฟนของกูเกิลฯ (Google LLC) และ แอปเปิลฯ (Apple Inc.) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการแข่งขันของบริษัทขนาดเล็ก
กฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบในเดือนธันวาคมนี้ ถือเป็นความพยายามล่าสุดของคณะกรรมการการค้าที่เป็นธรรมของญี่ปุ่นในการหยุดยั้งบริษัทที่มีอำนาจไม่ให้คู่แข่งเข้าถึงแอปสโตร์ (App Store) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตน คณะกรรมการหวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยแก้ไขการครอบงำตลาดของบริษัทเหล่านี้ได้
กฎหมายดังกล่าวจะห้ามบริษัทต่างๆ ใช้ข้อมูลที่ได้รับจากการดำเนินการแอปสโตร์ หรือระบบปฏิบัติการของตนในผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง เนื่องจากจะทำให้ได้เปรียบในการพัฒนาและกิจกรรมอื่นๆ คณะกรรมการกล่าว
เพื่อป้องกันการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมและกีดกันการแข่งขันต่อซัพพลายเออร์ซอฟต์แวร์ กฎหมายจะห้ามไม่ให้แอปเปิล และ กูเกิล คัดกรองผลิตภัณฑ์นอกเหนือจากการประเมินปกติกับบริษัทที่ต้องการย้ายแอปฯ จากร้านค้าหนึ่งไปยังอีกร้านหนึ่ง
คณะกรรมาธิการหวังว่าการส่งเสริมการแข่งขันจะเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยช่วยลดราคาและปรับปรุงการเข้าถึงแอปฯ ที่สะดวกสบาย
โดยหลักการแล้ว กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้ทั้งสองบริษัทคัดกรองแอปฯ อย่างละเอียดถี่ถ้วนหากพวกเขาทำเช่นนั้นจากมุมมองของการรับประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์หรือป้องกันเนื้อหาที่ส่งเสริมความรุนแรงหรือเป็นอันตรายในลักษณะอื่น
กฎหมายดังกล่าวได้รับการบังคับใช้บางส่วนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยไม่ได้ระบุว่าบริษัทใดจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายนี้และจะนำไปใช้กับกิจกรรมของบริษัทเหล่านั้นอย่างไร คณะกรรมาธิการจะเปิดรับความคิดเห็นจากสาธารณชนจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนที่จะสรุปแนวปฏิบัติภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม
เจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการกล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวจะ "ช่วยให้ตอบสนองต่อแนวทางต่อต้านการผูกขาดได้เร็วกว่ากฎหมายต่อต้านการผูกขาด"
หน่วยงานการค้าที่เป็นธรรมได้จัดตั้งแผนกใหม่ที่รับผิดชอบหลักในการตรวจตราและสืบสวนบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีแบบพาร์ทไทม์จากภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าเป็นประมาณ 60 คน