เกียวโดนิวส์ (7 เม.ย) รายงานมีศพประมาณ 42,000 ศพในญี่ปุ่นไม่ได้รับการติดต่อจากญาติในปี 2566 และต่อมาทางการท้องถิ่นได้เผาหรือฝังศพ ขณะที่ผู้สูงอายุอยู่ลำพังโดยไม่มีครอบครัวคอยช่วยเหลือมีเพิ่มมากขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ เผยว่าเทศบาลส่วนใหญ่ไม่มีระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนในการจัดการกับศพ รวมถึงระยะเวลาที่ควรเก็บไว้ก่อนเผาฯ
จากการสำรวจเทศบาลประมาณ 1,160 แห่งโดยสถาบันวิจัยญี่ปุ่น มีเพียงร้อยละ 11.3 เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองมีขั้นตอนการรักษา ในขณะที่ร้อยละ 43.5 ระบุว่าไม่มี เทศบาลอื่นๆ ตอบว่าแม้จะไม่มีกฎเกณฑ์ของตนเอง แต่พวกเขาก็อ้างอิงถึงวิธีปฏิบัติอื่นๆ
ศพที่ไม่ได้รับการรับรองจากญาติทั้งที่ระบุตัวตนและไม่สามารถระบุตัวตนได้ 41,969 ศพ คิดเป็นร้อยละ 2.7 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดในปี 2566 หรือเฉลี่ยวันละ 115 คน และความต้องการระบบสำหรับจัดการศพกำลังเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป
สถาบันวิจัยประชากรและความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่าครัวเรือนที่มีบุคคลคนเดียว 23.3 ล้านครัวเรือนจากทั้งหมด 52.6 ล้านครัวเรือน หรือร้อยละ 44.3 ภายในปี 2593
ในบรรดาเทศบาลที่มีระบบสำหรับจัดการศพ "โยโกสุกะ" ใกล้โตเกียว เปิดตัวโครงการในปี 2558 ซึ่งเมืองให้ความช่วยเหลือด้านสัญญาระหว่างสถานประกอบพิธีศพและผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยไม่มีผู้พึ่งพา
ภายใต้โครงการนี้ เมืองจะตรวจสอบความเป็นอยู่ของพวกเขาและติดต่อกับบุคคลและสถาบันที่จำเป็นในกรณีที่พวกเขาเสียชีวิต
“จำนวนกรณีที่ไม่มีครอบครัวที่จะดูแลงานศพจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” คาซูยูกิ คิตามิ เจ้าหน้าที่สวัสดิการของเมืองกล่าว “เป็นเรื่องสำคัญที่เทศบาลจะต้องสร้างระบบที่ให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีและความตั้งใจของผู้อยู่อาศัย”