เอเอฟพี (3 เม.ย.) – ญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าภาษีศุลกากรใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เป็นเรื่อง "น่าเสียดายอย่างยิ่ง" โดยกล่าวว่าอาจละเมิดกฎขององค์การการค้าโลกและข้อตกลงการค้าของทั้งสองประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ แต่กลับไม่ได้รับการยกเว้น โดยทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าญี่ปุ่นสูงถึงร้อยละ 24
"ผมได้แจ้งไปแล้วว่ามาตรการภาษีฝ่ายเดียวที่สหรัฐฯ ใช้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง และผมขอเรียกร้อง (วอชิงตัน) อีกครั้งไม่ให้ใช้มาตรการนี้กับญี่ปุ่น" โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวกับผู้สื่อข่าว
เขากล่าวว่าได้พูดคุยกับนายโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ก่อนที่ทรัมป์จะประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าพื้นฐานร้อยละ 10 และเก็บภาษีเพิ่มจากบางประเทศ ซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น ที่เป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ใกล้ชิดด้วย
ทรัมป์กล่าวว่า "ญี่ปุ่นนั้นเข้มงวดมาก พวกเขาจะเรียกเก็บภาษีจากเราร้อยละ 46 และสูงกว่านั้นมากสำหรับสินค้าบางรายการ" "เราเรียกเก็บภาษีจากพวกเขาเพียงร้อยละ 24"
มุโตะกล่าวว่าเขาได้อธิบายให้ลุตนิคฟังแล้วว่า "ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไร โดยทำลายศักยภาพในการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่น"
มุโตะกล่าวว่า "เราได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมาว่าจะแสวงหาความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ของทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้อย่างไร โดยไม่ต้องพึ่งพาภาษีนำเข้า"
โยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาลยังกล่าวด้วยว่ามาตรการของสหรัฐฯ อาจขัดต่อกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) และสนธิสัญญาการค้าของทั้งสองประเทศ
เขาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า "เรากังวลอย่างจริงจังเกี่ยวกับความสอดคล้องในข้อตกลง WTO และข้อตกลงการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ"
เมื่อถูกถามว่าญี่ปุ่นจะเรียกเก็บภาษีตอบโต้หรือกำลังพิจารณายื่นฟ้องต่อ WTO หรือไม่ ฮายาชิกล่าวว่า "เราปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาของเรา"