เกียวโดนิวส์ (31 มี.ค.) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านแผ่นดินไหวของรัฐบาลได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผู้เสียชีวิต หากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ร่องน้ำนันไก จะสูงถึง 298,000 คน โดยความพยายามในการบรรเทาความเสียหายอาจช่วยให้ตัวเลขลดลงประมาณร้อยละ 10 จากการประมาณการครั้งก่อนในปี 2555
อย่างไรก็ตาม การลดลงดังกล่าวยังไม่บรรลุเป้าหมายในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงประมาณร้อยละ 80 ตามแผนพื้นฐานด้านการป้องกันภัยพิบัติของรัฐบาลในปี 2557 ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขครั้งใหญ่ในกลยุทธ์การอพยพและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ในรายงานล่าสุด คณะทำงานคาดการณ์ว่าจำนวนผู้อพยพจะเพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนในปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 9.5 ล้านคน เป็น 12.3 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 10 ของประชากรญี่ปุ่น
เทศบาลทั้งหมด 764 แห่งใน 31 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดของญี่ปุ่นจะประสบกับแรงสั่นสะเทือนที่วัดได้อย่างน้อย 6 ต่ำกว่าระดับ 7 ตามมาตราวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น หรือคลื่นสึนามิสูงอย่างน้อย 3 เมตร
แม้ว่าคาดการณ์ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะสูงถึง 270 ล้านล้านเยน (1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 214 ล้านล้านเยน แต่จำนวนอาคารสูงสุดที่คาดว่าจะถูกทำลายจนหมดสิ้นนั้นลดลงเล็กน้อยเหลือ 2.35 ล้านหลัง เนื่องมาจากการปรับปรุงการปรับปรุงอาคารที่อยู่อาศัยเพื่อรับมือแผ่นดินไหว
รายงานระบุว่าจากการคาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิต 298,000 ราย จะมีผู้เสียชีวิต 215,000 รายจากคลื่นสึนามิ โดยจะมีประชาชนเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่จะอพยพออกได้ทันที การเพิ่มอัตราการอพยพเป็นร้อยละ 70 จะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากคลื่นสึนามิลงเหลือ 94,000 ราย ซึ่งตอกย้ำความสำคัญของการอพยพอย่างรวดเร็ว
พื้นที่ที่คาดว่าจะเกิดน้ำท่วมสูงอย่างน้อย 30 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากการประมาณการครั้งก่อน เนื่องมาจากความก้าวหน้าในการวิเคราะห์ข้อมูลภูมิประเทศ คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมจะไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะมีการสร้างกำแพงกั้นทะเลและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอพยพจากคลื่นสึนามิก็ตาม
จากสถานการณ์จำลองฯ ที่จะมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ซึ่งเกิดขึ้นในคืนฤดูหนาว โดยความเสียหายรุนแรงเกิดขึ้นที่ภูมิภาคโทไก ในกรณีนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณในแต่ละจังหวัดจะสูงที่สุดในชิซูโอกะที่ 101,000 ราย รองลงมาคือมิยาซากิที่ 33,000 ราย และมิเอะที่ 29,000 ราย
นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตโดยตรงที่คาดว่าจะอยู่ที่ 298,000 รายแล้ว รัฐบาลยังคาดการณ์เป็นครั้งแรกว่าจะมีผู้เสียชีวิตจาก "ภัยพิบัติ" ระหว่าง 26,000 ถึง 52,000 ราย ซึ่งเกิดจากสถานการณ์ต่างๆ เช่น สภาพสุขภาพที่ทรุดโทรมในศูนย์อพยพ
ทั้งนี้รัฐบาลจะแก้ไขแผนป้องกันภัยพิบัติเพื่อกำหนดพื้นที่สำคัญเพิ่มเติมตามเขตเสี่ยงน้ำท่วมที่ขยายออกไป รวมทั้งพัฒนาแผนรับมือภัยพิบัติแห่งชาติฉบับใหม่สำหรับปีงบประมาณ 2569 ถึง 2573 เพื่อเร่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งหน่วยงานป้องกันภัยพิบัติแห่งใหม่ในปีงบประมาณ 2569 อีกด้วย