เกียวโดนิวส์ (25 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นกล่าวกับบรรดาผู้นำจากกลุ่ม G7 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พวกเขาควรสามัคคีกันในการนำสันติภาพมาสู่ยูเครนที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม โดยเขากล่าวหลังจากเข้าร่วมการประชุมทางไกล วาระครบรอบ 3 ปีนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกราน
อิชิบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่ประชุมว่า กลุ่ม G7 ควรระมัดระวังไม่ให้กระบวนการสันติภาพตกร่อง "บทเรียนที่ผิดพลาด" หวังว่าความพยายามทางการทูต รวมถึงความพยายามของสหรัฐฯ จะประสบผลสำเร็จในการยุติสงคราม
อิชิบะกล่าวว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนแสดงความหวัง "อย่างแรงกล้า" ว่ากลุ่มจี 7 จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้ยังรวมถึงอังกฤษ แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหรัฐอเมริกา
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กลับมาดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง เป็นการทดสอบความสามัคคีของกลุ่มจี 7 ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังยืนหยัดสนับสนุนยูเครนอย่างมั่นคงและลงโทษรัสเซียด้วยการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรหลายรายการเพื่อตัดแหล่งเงินทุนของมอสโก
รัฐบาลทรัมป์กำลังเพิ่มแรงกดดันต่อยูเครน เนื่องจากต้องการบรรลุข้อตกลงด้านแร่ธาตุกับเคียฟเพื่อแลกกับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกี โดยเรียกเขาว่า "เผด็จการ"
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ถูกมองว่ากำลังเปิดใจกับรัสเซีย ที่เพิ่งเปิดการเจรจาทวิภาคีโดยตรงเพื่อยุติความขัดแย้ง
สงครามที่ยืดเยื้อยังส่งผลกระทบไปทั่วทั้งยุโรปและอินโด-แปซิฟิก
ในการประชุมเมื่อวันจันทร์ อิชิบะ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยส่งสัญญาณเตือนโดยกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนในวันนี้สามารถเกิดขึ้นในเอเชียในวันพรุ่งนี้ได้ กล่าวว่าความมั่นคงของยุโรป "แยกจากกันไม่ได้" จากความมั่นคงของเอเชีย
เขาเปิดเผยว่าได้ "ประณามอย่างรุนแรง" ต่อการกระชับความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ เนื่องจากกองทหารเกาหลีเหนือได้เข้าร่วมในสงครามในยูเครน
“ผมพูด (ในระหว่างการประชุม) ว่ากลุ่ม G7 ควรคงความเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างสันติภาพอันชอบธรรมและยั่งยืนในยูเครน โดยญี่ปุ่นจะยังคงสนับสนุนยูเครน ทั้งยังคงการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป” อิชิบะกล่าว