เกึยวโดนิวส์ (5 ก.พ.) ผลการสำรวจของสำนักงานคณะรัฐมนตรีเผยเมื่อวันอังคารว่า ชาวญี่ปุ่นมากกว่าร้อยละ 40 ต้องการใช้นามสกุลเดิมในการทำงานต่อไป หลังจากแต่งงานกัน ในขณะที่รัฐสภายังถกเถียงกันอยู่ว่าคู่สมรสควรได้รับอนุญาตให้แยกใช้นามสกุลหรือไม่
การสำรวจซึ่งใช้คำตอบจากทั้งผู้หญิงและผู้ชาย พบว่าร้อยละ 43.3 ต้องการใช้นามสกุลเดิมของตนต่อไป เพิ่มขึ้น 4.2 คะแนนจากการสำรวจในปี 2566 ในขณะที่ร้อยละ 55.2 กล่าวว่า “ไม่ต้องการใช้นามสกุลเดิม”
เมื่อแยกตามกลุ่มอายุ ผู้ตอบแบบสอบถามในช่วงอายุ 30 ปี นิยมใช้นามสกุลเดิมมากที่สุดที่ร้อยละ 57.8
การสำรวจนี้ดำเนินการระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นไปได้ว่าอาจได้รับอิทธิพลจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล โดยการแยกนามสกุลกลายเป็นหัวข้อถกเถียงอย่างเข้มข้นในการประชุมรัฐสภา
เมื่อแยกตามเพศ ร้อยละ 47.7 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาย และร้อยละ 39.6 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นเพศหญิง เห็นด้วยที่จะใช้นามสกุลเดิมในที่ทำงาน เพิ่มขึ้น 3.5 และ 4.9 คะแนน ตามลำดับ จากการสำรวจครั้งก่อน
สำหรับกลุ่มอายุอื่นๆ ร้อยละ 48.2 ของผู้ที่มีอายุ 50 ปี นิยมใช้นามสกุลเดิมของตนต่อไป ร่วมกับร้อยละ 48.0 ของผู้ที่มีอายุ 40 ปี และร้อยละ 45.2 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 18 ถึง 29 ปี
เมื่อถามว่าพวกเขาเชื่อว่าสังคมญี่ปุ่นปฏิบัติต่อชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่ มีเพียงร้อยละ 16.7 เท่านั้นที่คิดเช่นนั้น
ในส่วนของความเท่าเทียมทางเพศในการเมือง ร้อยละ 9.4 เท่านั้นที่ระบุว่ามีอยู่จริง ในขณะที่ร้อยละ 87.9 เชื่อว่าผู้ชายจะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
การสำรวจดังกล่าวได้รวบรวมคำตอบจากชายและหญิงจำนวน 5,000 รายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยมีอัตราการตอบกลับประมาณร้อยละ 53.3