เกียวโดนิวส์ (29 ม.ค.) ข้อมูลเบื้องต้นของรัฐบาลเผยเมื่อวันพุธ มีเด็กที่เข้าเรียนโรงเรียนประถมศึกษา มัธยมต้น และมัธยมปลายในญี่ปุ่น เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในปีที่แล้ว จำนวน 527 คน เพิ่มขึ้น 14 รายจากปี 2566 และสูงกว่าระดับสูงสุดก่อนหน้าที่ 514 คนในปี 2565
นักเรียนมัธยมปลายคิดเป็น 349 คน เพิ่มขึ้น 2 คนจากปีก่อน รองลงมาคือนักเรียนมัธยมต้นที่ 163 คน เพิ่มขึ้น 10 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาอายุ 15 คน เพิ่มขึ้น 2 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งอิงจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เป็นสถิติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แยกตามเพศ ชาย 239 ราย ลดลง 20 ราย หญิง 288 ราย เพิ่มขึ้น 34 ราย
เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ เรียกสถานการณ์นี้ว่า “ร้ายแรง” และกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจเหตุปัจจัย
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายโดยรวมในญี่ปุ่นลดลงเหลือ 20,268 ราย ลดลง 1,569 รายจากปี 2566 ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มบันทึกในปี 2521
การฆ่าตัวตายของประชากรชายลดลงเหลือ 13,763 ราย ลดลง 1,099 ราย ถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะที่การฆ่าตัวตายในประชากรหญิงก็ลดลงจาก 470 ราย เหลือ 6,505 รายเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่ลดลง
จำนวนการฆ่าตัวตายต่อประชากร 100,000 คนอยู่ที่ 16.3 ลดลง 1.3 จากปีก่อนหน้า
ปัญหาสุขภาพเป็นสาเหตุของการฆ่าตัวตายที่พบบ่อยที่สุด คิดเป็น 11,986 ราย รองลงมาคือปัญหาด้านเศรษฐกิจและชีวิต 5,075 ราย และปัญหาครอบครัว 4,334 ราย
ปัญหาการฆ่าตัวตาย ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนมี 578 ราย ในขณะที่ 42 รายเกี่ยวข้องกับโซเชียลมีเดีย หรือการโต้ตอบออนไลน์