ในขณะที่หลายคนเผชิญกับความท้าทายในการประหยัดเงิน ชายญี่ปุ่นคนหนึ่งได้ค้นพบวิธีที่จะใช้ทรัพยากรรอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ต้องควักเงินมากเกินไป
เมื่อไม่นานมานี้ นายฮิโรโตะ คิริทานิ วัย 75 ปี ได้รับความสนใจจากวิธีการประหยัดของเขา โดยใช้ประโยชน์จากคูปองและข้อเสนอฟรีต่างๆ ที่มี
แต่ ฮิโรโตะ คิริทานิ ไม่ใช่คนจน เขาถือหุ้นในบริษัทมากกว่า 1,000 แห่ง และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 100 ล้านเยน เริ่มต้นอาชีพของเขาในฐานะนักเล่นโชงิ (หมากรุกญี่ปุ่น) มืออาชีพ และครั้งหนึ่งยังเคยได้รับเชิญให้ไปสอนหมากรุกญี่ปุ่นที่บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงาน (2 ม.ค.) ว่า นายฮิโรโตะ คิริตานิ วัย 75 ปี เริ่มต้นอาชีพด้วยการเล่นหมากรุกญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า 'โชงิ' ใช้ชีวิตเรียบง่ายและนำเงินไปลงทุนซื้อหุ้น
เขาเปลี่ยนวิถีชีวิตเมื่อปี 2551 ในช่วงที่ตลาดหุ้นตกต่ำ โดยเขาสูญเงินไป 200 ล้านเยน
หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาจึงพยายามไม่ใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองอีกต่อไป เขาพยายามลดรายจ่ายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาสวมเสื้อผ้าพื้นฐาน หลีกเลี่ยงแบรนด์เนม และเดินทางด้วยจักรยานเท่านั้น (และเป็นจักรยานซึ่งเขาได้มาจากการแลกคูปอง)
เมื่อเขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะไม่เสียเงินอีกต่อไป จึงเริ่มสะสมคูปองและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างพิถีพิถันจากบริษัทมากกว่า 1,000 แห่งที่เขาถือหุ้นอยู่ รวมถึงบริษัทในกลุ่มอาหาร เสื้อผ้า และความบันเทิง
ตารางประจำวันของเขาต้องแข่งกับเวลาเพื่อแลกรับคูปองก่อนที่คูปองจะหมดอายุ
ด้วยไหวพริบอันเฉียบแหลมและการสังเกตแบบนักหมากรุก เขาสามารถสร้างรายได้ 100 ล้านเยนแรกได้ และภายในกลางปี 2567 ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านเยน
ตอนนี้เขาออมเงินได้เกือบ 600 ล้านเยน!
อย่างไรก็ตาม ทุกๆ วัน เขายังตั้งใจที่จะแลกรับคูปองก่อนวันหมดอายุ เพราะเขาเชื่อว่า "การปล่อยให้คูปองหมดอายุเป็นเรื่องน่าละอาย"
เขาตื่นแต่เช้าตรู่ ตระเวนไปรอบๆ โตเกียวทุกวัน เพื่อไปร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารฟรี
การแสวงหาของฟรีของเขาขยายไปถึงกิจกรรมที่เขาไม่สนใจ
เขาใช้สิทธิสมาชิกฟิตเนส ตั๋วหนัง บริการเซาน่า ร้องเพลงในบาร์คาราโอเกะ และแม้กระทั่งเล่นบันจี้จัมป์และรถไฟเหาะตีลังกา ทั้งหมดนี้เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ฟรี
เขาได้รับบัตรกำนัลภาพยนตร์มากกว่า 300 ใบต่อปี และสามารถชมภาพยนตร์ได้ถึง 140 เรื่องต่อปี ซึ่งมากกว่านักวิจารณ์ภาพยนตร์มืออาชีพหลายคน
แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาไม่รู้ว่าภาพยนตร์เหล่านี้เกี่ยวกับอะไร เพราะเขาใช้โรงหนังเป็นที่นอน ที่นั่งชมในโรงภาพยนตร์ "ช่วยให้เขาหลับได้"
คิริทานิยังได้แบ่งปันเคล็ดลับและกลเม็ดในการใช้ชีวิตอย่างประหยัดในหนังสือที่เขาเขียนและปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนใช้สิ่งที่มีให้คุ้มค่าที่สุด
คิริทานิ จึงได้รับฉายาว่า “เทพขิงๆ หรือเทพแห่งของฟรี”
ปรัชญาของคิริทานิตรงไปตรงมา: “การปล่อยให้คูปองหมดอายุเป็นเรื่องน่าละอาย”
ความสุขจากการใช้คูปองให้คุ้มค่าที่สุดนี่แหละ ทำให้ชีวิตของเขามีความหมายและน่าตื่นเต้นมีพลังทุกวัน