เกียวโดนิวส์ (23 ต.ค.) บริษัทเมตาแพลตฟอร์ม (Meta Platforms Inc.) เเจ้าของเฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) จะถูกฟ้องร้องในญี่ปุ่นจากกรณีโฆษณาที่ล่อลวงให้ลงทุนโดยแอบอ้างชื่อคนดัง
ทนายความของโจทก์กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โจทก์ประมาณ 30 รายจะเรียกร้องเงินอย่างน้อย 300 ล้านเยน (2 ล้านดอลลาร์) จากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และบริษัทสาขาในญี่ปุ่น โดยให้เหตุผลว่าบริษัทไม่สามารถดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันกลลวงดังกล่าวได้ คดีเรียกค่าเสียหายจะยื่นฟ้องต่อศาลแขวง 5 แห่งทั่วประเทศ
โฆษณาปลอมและการหลอกลวงบนเมตา ถือเป็นเรื่องร้ายแรงในญี่ปุ่น คนดังหลายคนรวมถึงนักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นรู้สึกโกรธแค้นที่ชื่อของพวกเขาถูกนำไปใช้ ส่งผลให้เหยื่อได้รับความเสียหาย
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น มาเอะซาวา ยูซากุ ซึ่งรูปภาพของเขาถูกใช้ในโฆษณาหลอกลวงการลงทุนบน Facebook แสดงความโกรธแค้นอย่างรุนแรงหลังจากมีเหตุการณ์ดังกล่าว
มาเอะซาวา กล่าวบนบัญชี X ของเขาว่า เขาได้รับรายงานความเสียหายทางการเงินรวม 2 พันล้านเยนเนื่องจากโฆษณาดังกล่าว
เขาขอให้ เมตาลบโฆษณาดังกล่าวและขอโทษเขาโดยโพสต์บน X ว่าหากทีมตรวจสอบของ Facebook ประกอบด้วยผู้คนที่เข้าใจญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ก็ควรจะสามารถระบุโฆษณาฉ้อโกงที่ใช้คนดังได้อย่างรวดเร็ว
ด้านสื่อต่างประเทศ บีบีซี รายงาน (23 ต.ค.) ว่าเฟซบุ๊คกและอินสตาแกรมเริ่มเปิดตัวการปราบปรามโฆษณาหลอกลวงคนดัง
เมตา เจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม เตรียมนำเทคโนโลยีการจดจำใบหน้ามาใช้ เพื่อพยายามปราบปรามผู้หลอกลวงที่ใช้คนดังเป็นส่วนประกอบในโฆษณา
อีลอน มัสก์ และมาร์ติน ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินส่วนบุคคล เป็นกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อของการแอบอ้างหลอกลวงดังกล่าว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักเป็นการโฆษณาโครงการลงทุนและสกุลเงินดิจิทัล
เมตาใช้ระบบตรวจสอบโฆษณาที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อตรวจจับการรับรองปลอมของคนดังอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กำลังพยายามเพิ่มเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเข้าไปอีก
เมตากล่าวว่า "การทดสอบเบื้องต้น" ของระบบได้แสดง "ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ" ดังนั้นระบบจะเริ่มแสดงการแจ้งเตือนในแอปแก่บุคคลสาธารณะกลุ่มใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เรียกว่า "การล่อลวงคนดัง"
ปัญหาการหลอกลวงโดยคนดังเป็นปัญหาที่เมตาเผชิญมาอย่างยาวนาน กลายเป็นเรื่องสำคัญมากในช่วงทศวรรษ 2010 แต่ตั้งแต่นั้นมา การหลอกลวงก็มีความซับซ้อนมากขึ้นและลวงให้น่าเชื่อถือมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การหลอกลวงเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีที่เรียกว่า Deepfake มากขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ดูเหมือนจริง หรือวิดีโอเพื่อให้ดูเหมือนว่าคนดังกำลังสนับสนุนผลิตภัณฑ์หรือบริการ
เมตาเผชิญแรงกดดันให้ดำเนินการบางอย่างเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของโฆษณาเหล่านี้
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายลูอิสเรียกร้องให้รัฐบาลมอบอำนาจเพิ่มเติมแก่ Ofcom ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับโฆษณาหลอกลวง หลังจากมีการใช้การสัมภาษณ์ปลอมกับนายกรัฐมนตรีเรเชล รีฟส์ เพื่อหลอกล่อให้ผู้คนเปิดเผยข้อมูลบัญชีธนาคารของตน
"ผู้หลอกลวงไม่ลดละ และพัฒนากลวิธีอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามหลบเลี่ยงการตรวจจับ" เมตา ยอมรับ