เกียวโดนิวส์ (7 ต.ค.) สถาบันวิจัยคาดว่าจำนวนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่มีญาติสนิทในญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่าในปี 2593 คิดเป็นกว่าร้อยละ 10 ของประชากรผู้สูงอายุ
สถาบันประชากรและความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติญี่ปุ่นระบุว่า ในปี 2593 คนญี่ปุ่นจำนวนรวม 4.48 ล้านคน จะไม่มีญาติสนิทถึงรุ่นหลานเหลน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าใครจะเป็นผู้ค้ำประกันโรงพยาบาลและบ้านพักคนชรา
ตามการประมาณการโดยอิงจากข้อมูลจากสถาบันคาดว่า มีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่มีญาติในระดับ 3 เพิ่มขึ้นจาก 2.86 ล้านคน ในปี 2567
ตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ในปี 2593 จะคิดเป็นประมาณร้อยละ 11.5 ของประชากรผู้สูงอายุทั้งหมด (อายุ 65 ปีขึ้นไป) โดยมีทั้งหมด 39 ล้านคน
ประมวลกฎหมายแพ่งของญี่ปุ่นกำหนดให้ญาติในสามระดับ (ลูก-หลาน-เหลน) ต้องรับผิดชอบในการเลี้ยงดูสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้สูงอายุ
การมีผู้ค้ำประกันเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากบ้านพักคนชราและสถานพยาบาลหลายแห่งต้องการผู้ค้ำประกันสำหรับบริการของพวกเขา
คาดว่าผู้สูงอายุที่ไม่มีญาติสนิทและได้รับการรับรองว่าต้องการการดูแลระยะยาวหรือการสนับสนุนภายใต้ประกันการดูแลระยะยาวของรัฐ จะเพิ่มขึ้นจาก 340,000 เป็น 590,000 คนในปี 2593
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากจำนวนผู้คนที่ไม่มีญาติที่ใช้บริการดูแลส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เช่น การร่างแนวทางสำหรับส่วนงานต่างๆ
การประมาณการยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าจำนวนผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่มีบุตรจะเพิ่มขึ้นจาก 4.59 ล้านคนในปี 2567 เป็น 10.32 ล้านคนในปี 2593
ในกลุ่มดังกล่าวคาดว่าจำนวนผู้ที่ไม่ได้สมรสจะเพิ่มขึ้นจาก 3.71 ล้านคนเป็น 8.34 ล้านคนในช่วงเวลาเดียวกัน
ในบางกรณี ผู้สูงอายุไม่สามารถพึ่งพาญาติได้เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดในครอบครัว
ตัวเลขของสถาบันวิจัยญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีที่ไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือทางการเงินจากญาติในยามฉุกเฉินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 7.9 ล้านคนในปี 2567 เป็น 8.9 ล้านคนในปี 2593