เกียวโดนิวส์ (3.ต.ค.) เครื่องบินของกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศ 2 ลำออกเดินทางจากญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อเตรียมการอพยพพลเมืองญี่ปุ่นออกจากเลบานอน ซึ่งความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกำลังทวีความรุนแรงขึ้น
กระทรวงกลาโหมกล่าวว่า เครื่องบินขนส่ง C-2 จำนวน 2 ลำ ออกเดินทางจากฐานทัพอากาศมิโฮ ในจังหวัดทตโตริทางตะวันตกไปยังจอร์แดน และกรีซเพื่อรอรับการอพยพ
กระทรวงการต่างประเทศระบุว่ามีพลเมืองญี่ปุ่นประมาณ 50 คนอยู่ในเลบานอน
กระทรวงกลาโหมจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการร่วมที่มีสมาชิก 500 คน หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น มิโนรุ คิฮาระ สั่งให้กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศส่งเครื่องบินดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 กันยายน โดยได้ขออนุญาตจากประเทศอื่นเพื่อบินผ่านน่านฟ้าของประเทศเหล่านั้น
สถานการณ์ในเลบานอนกำลังเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว โดยกองกำลังอิสราเอลประกาศเมื่อวันอังคารว่าพวกเขาได้เริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดิน "จำกัดเฉพาะพื้นที่" ต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งมีฐานอยู่ในเลบานอน ถือเป็นการรุกรานเลบานอนภาคพื้นดินครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549
ความคืบหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้ระเบิดใส่สมาชิกกลุ่ม และอิสราเอลยังโจมตีสำนักงานใหญ่ของกลุ่มในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน อันเป็นสถานที่สังหารฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มด้วย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเพื่อตอบโต้
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นซึ่งพึ่งพาการส่งออกน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเป็นอย่างมาก ได้ดำเนินตามยุทธศาสตร์ "การทูตที่สมดุล" ระหว่างประเทศอาหรับและอิสราเอล โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา พันธมิตรด้านความมั่นคงของโตเกียว