xs
xsm
sm
md
lg

"เหรียญครึ่งเงิน-ครึ่งทองแดง" มิตรภาพ​สองนักกีฬา​โอลิมปิก​ญี่ปุ่น​

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประวัติศาสตร์โอลิมปิก 1936 เมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว ก็มีเรื่องประทับใจหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้
เหตุการณ์ที่น่าประทับใจที่มีกับนักกีฬา​โอลิมปิก​ ปารีส​ 2024​ เกิดขึ้นกับทุกประเภทกีฬา​ รวมถึงในรายการค้ำถ่อ​ ที่แชมป์โลกอาร์ม็องด์ ดูพลานติส นักกีฬาชายทีมชาติสวีเดน​ กับการก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเอง​ ทำความสูงได้ที่ 6.25 เมตร​ ถือเป็นการได้เหรียญทองโอลิมปิก เกมส์ ครั้งที่ 2 ติดต่อกันของนักกรีฑาวัย 24 ปี หลังจากเขาเคยได้เหรียญทองในการแข่งประเภทนี้จากศึก โอลิมปิก เกมส์ 2020 มาแล้ว

ย้อนไปในประวัติศาสตร์​โอลิมปิก​ 1936​ เมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว​ ก็มีเรื่องประทับใจหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้​ เพราะสมัยนั้นการเผยแพร่ข่าวสารจำกัด

การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงเบอร์ลินปี 1936 คนจะรู้จักเพียงตำนานของเจสซี โอเวนส์​ ที่ครองเรื่องเล่าทั้งหมด แต่เรื่องราวของนักกระโดดค้ำถ่อชาวญี่ปุ่น 2 คน ชูเฮ นิชิดะ และ ซูเอโอะ โอเอะ ก็โดดเด่นในฐานะเครื่องพิสูจน์ถึงน้ำใจนักกีฬาและมิตรภาพ

ในรายการนี้มีนักค้ำถ่อจาก​ 20​ ชาติ​ลงชิงชัย​ โดย​เอิร์ล​ มีโดวส์ นักค้ำถ่ออเมริกัน​ ทำสถิติ​สูงสุด​ 4.35 เมตร​ เป็นสถิติโลก​ แต่สิ่งประทับใจอยู่​ที่อับดับสอง​ ของทั้งนิชิดะ และโอเอะ​ ที่กระโดดด้วยสถิติ​ความสูง​ 4.34 เมตร​ เท่ากัน ส่งผลให้จบอันดับที่ 2 เสมอกัน เจ้าหน้าที่โอลิมปิกจึงต้องเข้ามาตัดสินให้กระโดดเพิ่มอีกรอบ​ เพื่อหาข้อพิสูจน์​ว่าใครจะได้เหรียญเงินและใครจะได้เหรียญทองแดง (ไม่สามารถ​ครองเหรียญเงินร่วม)​ แต่นิชิดะและโอเอะซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนร่วมทีมแต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีอีกด้วย ยืนยันเลือกที่จะปฏิเสธการกระโดดตัดสิน

ทั้งคู่​ยอมรับการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่โอลิมปิก และคณะกรรมการทีมญี่ปุ่นซึ่งมอบเหรียญเงินให้นิชิดะ และเหรียญทองแดงแก่โอเอะ​ โดยย้อนพิจารณา​จากความสถิติญี่ปุ่นที่ 4.34 เมตรที่นิชิดะครองอยู่

เมื่อกลับมาถึงญี่ปุ่น นิชิดะและโอเอะจึงตัดสินใจทำสิ่งพิเศษร่วมกันบางอย่าง พวกเขาตัดเหรียญรางวัลออกเป็นสองส่วนแล้วสลับเชื่อมติดกัน ทำให้เกิด "เหรียญมิตรภาพ" ที่เป็นเอกลักษณ์สองเหรียญ แต่ละเหรียญครึ่งเงินและครึ่งทองแดง การกระทำอันน่าทึ่งของความสามัคคีและการเคารพซึ่งกันและกันนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของมิตรภาพที่ยั่งยืนและจิตวิญญาณที่แท้จริงของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

ชูเฮ นิชิดะ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวาเซดะในตำแหน่งวิศวกร และทำงานให้กลุ่มบริษัทฮิตาชิ ต่อมาเขาได้เป็นผู้ตัดสินระดับนานาชาติ และในปี 1959 ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสหพันธ์กรีฑาญี่ปุ่น และในที่สุดก็ได้เป็นรองประธานกิตติมศักดิ์และเป็นสมาชิกคณะกรรมการโอลิมปิกของญี่ปุ่น ในปี 1989 เขาได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์โอลิมปิก (Olympic Order in Silver)​ นิชิดะเสียชีวิตในวัย​ 87 ปี​ ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวในปี 1997

ซูเอโอะ โอเอะ​ หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคอิโอะ​ ได้ทำงานเป็นพนักงานบริษัท​ โตโยนิตติ้งในปี 1939 เขาถูกเรียกให้เข้าประจำการในสงครามโลกครั้งที่สอง และเสียชีวิตในการรบบนเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์​ ในวัย 27​ ปี

 เหรียญมิตรภาพ ที่เป็นเอกลักษณ์สองเหรียญ แต่ละเหรียญครึ่งเงินและครึ่งทองแดง

ซูโอะ โอเอะ (ซ้าย) และชูเฮ นิชิดะ ในปี 1930


กำลังโหลดความคิดเห็น