ญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกเตือนมหาแผ่นดินไหว​ ไม่พบสถานการณ์เสี่ยง

เกียว​โด​นิวส์​ (15​ ส.ค.)​ รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะยกเลิกคำเตือนมหาแผ่นดินไหว​ที่ประกาศ​ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา​ เกี่ยวกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นตามแนวชายฝั่งแปซิฟิก หลังจากยืนยันว่าไม่มีแผ่นดินไหวใหญ่เกิดขึ้นรอบร่องน้ำลึกนันไก

คำเตือนแผ่นดินไหวในร่องน้ำนันไก ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มใช้ระบบในปี 2560 กระตุ้นให้รัฐบาลกลางและชุมชนท้องถิ่นเพิ่มความเข้มข้นในการเตรียมรับมือภัยพิบัติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลเสียต่อธุรกิจการท่องเที่ยวบางแห่งในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูร้อนด้วย

รัฐบาลคาดว่าจะยกเลิกคำเตือนในเวลา 17.00 น. วันพฤหัสบดี ยกเว้นว่าพบความเสี่ยงใหม่อื่นๆ

ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว หวาดกลัวมานานแล้วว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ตามแนวร่องน้ำนันไกภายใน 30 ปีข้างหน้า โดยคาดการณ์ว่าพื้นที่กว้างอาจถูกสั่นสะเทือนและพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันกว้างใหญ่ถูกคลื่นยักษ์สึนามิกลืนกิน

ประกาศเตือนแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหว​ แมกนิจูด 7.1 เขย่าภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 ส.ค. โดยจุดเน้นดังกล่าวตั้งอยู่ในน่านน้ำนอกจังหวัดมิยาซากิ ทางขอบตะวันตกของร่องน้ำนันไก

คำแนะนำนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบถึงความเสี่ยงที่สูงกว่าปกติของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่บริเวณร่องน้ำนันไกเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แม้จะคลี่คลายแล้ว รัฐบาลยังเรียกร้องให้ประชาชนระมัดระวังและเตรียมพร้อม เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ยังไม่หมดสิ้น

ร่องน้ำนันไกเป็นร่องลึกใต้พื้นมหาสมุทรที่ทอดยาวไปตามชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียนและทะเลฟิลิปปินส์มาบรรจบกัน

ป้ายแสดงเส้นทางอพยพจากชายฝั่งในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวถูกติดไว้ที่ชายหาดชิราฮามะ ในจังหวัดวาคายามะ ชายหาดนี้เปิดใหม่อีกครั้งในวันนี้ 15 ส.ค.2567​ หลังจากถูกปิดชั่วคราวเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในร่องน้ำนันไก​ นานหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา (เกียวโด)

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นระบุว่า ณ วันพุธ หน่วยงานตรวจไม่พบสัญญาณ​แผ่นดินไหวใดๆ ที่บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงใดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้น

ตามที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีระบุว่าสำนักงานคณะรัฐมนตรีระบุ คำแนะนำดังกล่าวได้นำไปใช้กับเทศบาล 707 แห่งใน 29 จังหวัด ซึ่งคาดว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นสึนามิสูงในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าแผ่นดินไหวใหญ่บริเวณร่องน้ำนันไกเกิดขึ้นทุกๆ 100 ถึง 150 ปี ปัจจุบัน​เวลาผ่านไปแล้วประมาณ 80 ปีนับตั้งแต่ครั้งสุดท้าย

รัฐบาลคาดการณ์ว่าในกรณีที่เลวร้ายที่สุด แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในร่องน้ำนันไกอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายมากกว่า 200 ล้านล้านเยน

แผ่นดินไหว​ แมกนิจูด​ 9.0 ที่มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวใกล้แผ่นดินจะเพิ่มความเสียหายเนื่องจากการพังทลายของที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงกิจกรรมทางธุรกิจ

คุโรชิโอะในจังหวัดโคจิ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะเกิดสึนามิสูง 34 เมตรในกรณีเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ได้ตอบสนองต่อคำเตือนดังกล่าวด้วยการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในการตอบสนองต่อภัยพิบัติ และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตอบสนองภัยพิบัติ

ตามข้อมูลของจังหวัด มีการจัดตั้งศูนย์อพยพมากกว่า 100 แห่ง

ชายหาดบางแห่งทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นที่ถูกปิดให้ว่ายน้ำหลังแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เปิดอีกครั้งหรือจะเปิดอีกครั้งในวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวที่ทำลายล้างทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่และภัยพิบัติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ มีขนาดแมกนิจูด​ 9.0 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมาในญี่ปุ่น