เกียวโดนิวส์ (31 ก.ค.) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป กล่าวเมื่อวันอังคารว่า กลุ่มของบริษัทมียอดขาย 5.16 ล้านคันทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยแซงหน้าคู่แข่งอย่างโฟล์คสวาเกน (Volkswagen AG) รักษาตำแหน่งผู้นำด้านยอดขายทั่วโลกเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ยอดขายทั่วโลกในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน ซึ่งรวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กอย่างไดฮัทสุ และบริษัทในเครือที่ผลิตรถบรรทุกฮีโน่ มอเตอร์ลดลง 4.7% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการหยุดการผลิตอันเกี่ยวกับคุณภาพและยอดขายที่ซบเซาในจีน
ในช่วงเวลาเดียวกัน โฟล์คสวาเกนขายรถยนต์ได้ 4.35 ล้านคัน ลดลงจาก 4.37 ล้านคันในปีก่อนหน้า ตามข้อมูลของบริษัทเยอรมนี
การผลิตทั่วโลกของกลุ่มโตโยต้าลดลงร้อยละ 9.8 เหลือ 5.07 ล้านคันในช่วง 6 เดือนแรก
ยอดขายในประเทศของกลุ่มลดลง 32.0% เหลือ 823,595 คัน เนื่องจากไดฮัทสุระงับการผลิตชั่วคราวในเดือนธันวาคม หลังจากพบว่าข้อมูลการทดสอบความปลอดภัยถูกควบคุม ก่อนจะกลับมาดำเนินการในโรงงานประกอบในประเทศทุกแห่งในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม หลังจากหยุดโรงงาน
โตโยต้ายังได้หยุดการผลิตในประเทศบางส่วนในช่วงครึ่งปี โดยยอมรับว่าได้ทำการทดสอบรถยนต์ในลักษณะที่ไม่ได้กำหนดโดยรัฐบาล การเรียกคืนรถยนต์ไฮบริดพริอุสยอดนิยมเมื่อเร็วๆ นี้ทำให้ตัวเลขดังกล่าวลดลงเช่นกัน
สวนทางกับยอดขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.34 ล้านคัน เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและยุโรป
ในอเมริกาเหนือ ยอดขายโตโยต้า และเลคซัสเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 เนื่องจากรถยนต์ไฮบริดของบริษัทถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคาแพง ยุโรปมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.2 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายรุ่นไฮบริดของโคโรลล่า และ ราฟ4
อย่างไรก็ตาม โตโยต้ากำลังประสบปัญหาในจีน โดยยอดขายที่นั่นลดลงร้อยละ 10.8 การแข่งขันด้านราคากำลังทวีความรุนแรงขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์ในท้องถิ่นได้เพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าราคาไม่แพง
ในครึ่งปีแรก โตโยต้า และเลคซัสมียอดขายรวมกัน 4.89 ล้านคันทั่วโลก โดยไดฮัทสุ และ ฮีโน่ มียอดขาย 210,910 และ 59,273 คัน ตามลำดับ
กลุ่มโตโยต้าตั้งเป้าที่จะขายรถยนต์ 10.95 ล้านคันภายในเดือนมีนาคมปีหน้า ลดลงร้อยละ 1.3 จากปีก่อนหน้า