xs
xsm
sm
md
lg

เกือบครึ่งของแรงงานต่างชาติจบโครงการ​ ยังเลือกอยู่ต่อในญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกียว​โด​นิวส์​ (31​ พ.ค.)​ รายงานขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา​ (OECD)​ เผยว่า ราว 40 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานต่างชาติที่มีทักษะสูงเลือกที่จะอยู่ในญี่ปุ่นต่อไป โดยอัตราดังกล่าวค่อนข้างสูงซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศญี่ปุ่น​ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน

ในการทบทวนนโยบายการย้ายถิ่นฐานแรงงานของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก OECD ยังเน้นประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งของโครงการฝึกงานด้านเทคนิคในต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลวางแผนที่จะปรับปรุง​ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการดังกล่าวได้ให้ความคุ้มครองสำหรับบริษัทที่ต้องการนำเข้าแรงงานราคาถูกจากเอเชีย​ และส่งเสริมสภาพการจ้างอันเป็นเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ตามรายงานที่รวบรวมโดยสถาบันประชากรและการวิจัยประกันสังคมแห่งชาติ ครึ่งหนึ่งของชาวต่างชาติประมาณ 3 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในปี 2565 เป็นผู้อยู่อาศัยถาวร

อีกครึ่งหนึ่งประกอบด้วยแรงงานข้ามชาติชั่วคราวและครอบครัว ผู้ฝึกงานด้านเทคนิค และนักศึกษาต่างชาติ

ในบรรดาชาวต่างชาติที่เข้ามาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกระหว่างปี 2554 ถึง 2560 ในฐานะแรงงานมีทักษะที่มีวีซ่าเพื่อทำงานเป็นวิศวกรหรือพนักงานออฟฟิศ ร้อยละ 40 ยังคงอยู่ในประเทศนี้ในอีก 5 ปีต่อมา

“เนื่องจากผู้ย้ายถิ่นกลุ่มนี้รวมผู้ย้ายถิ่นเคลื่อนที่จำนวนมาก เช่น ผู้รับโอนภายในบริษัท ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงและชี้ให้เห็นว่าญี่ปุ่นจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนระยะยาวในการจัดหาแรงงานมีฝีมือผ่านช่องทางเหล่านี้” รายงานกล่าว

รายงานยังกล่าวอีกว่าญี่ปุ่นมีอัตราการคงนักศึกษาต่างชาติไว้สูง โดย 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ยังคงอยู่ในญี่ปุ่น 5 ปีหลังจากเดินทางมา

อัตราการคงอยู่​นั้นสูงกว่าประเทศในยุโรปหลายประเทศ รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ แม้ว่าจะตามหลังแคนาดาและเยอรมนีก็ตาม

เนื่องจากผู้ย้ายถิ่นฐานแรงงานที่มีทักษะจำนวนมากในญี่ปุ่นเข้ามาในประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะนักศึกษาต่างชาติ และต่อมาได้เปลี่ยนสถานะการพำนักของตน รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของพวกเขา​ในกลยุทธ์ของญี่ปุ่นเพื่อดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับโลก

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าการหางานยังคงเป็นความท้าทายสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งที่ให้การสนับสนุนโดยเฉพาะในการหาที่ฝึกงานระหว่างรอลงทะเบียนแรงงาน

ในโครงการฝึกอบรมฝึกงานด้านเทคนิคของญี่ปุ่น ซึ่งเปิดตัวในปี 2536 โดยมีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดทักษะไปยังประเทศกำลังพัฒนา OECD กล่าวว่า ระบบนี้ “ถูกใช้ส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงาน มากกว่าเพื่อถ่ายทอดทักษะ”

รายงานระบุว่า ค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไปและการใช้นายหน้าจากประเทศผู้ส่งแรงงาน​ มีผลให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่เดินทางมาถึงมีภาระหนี้สิน ในขณะที่การจำกัดการเปลี่ยนนายจ้าง​ ได้ขัดขวางการเติบโตของค่าจ้าง และในกรณีที่รุนแรงที่สุด ทำให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม “เสี่ยงต่อการถูกแสวงหาผลประโยชน์”

ในขณะที่รัฐบาลวางแผนที่จะแนะนำระบบส่งเสริมให้คนงานจากต่างประเทศอยู่ได้นานขึ้นด้วยการคุ้มครองสิทธิที่ดีขึ้น รายงานของ OECD ระบุว่า การปฏิรูปใดๆ ควรคงกลไกการสนับสนุนของโครงการฝึกงานที่มีอยู่ และการฝึกอบรมเบื้องต้น​ รวมทั้งการติดตามประสบการณ์การทำงานของพนักงาน

ทั้งนี้​ ในปี 2565 มีสถิติผู้ฝึกงานด้านเทคนิคชาวต่างชาติ 325,000 คน​ ทำงานในญี่ปุ่น


กำลังโหลดความคิดเห็น