เกียวโดนิวส์ (10 พ.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นระบุเมื่อวันพุธว่า ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในญี่ปุ่นจะต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะสมองเสื่อม โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขยายการดูแลพยาบาล และเสริมสร้างมาตรการป้องกันท่ามกลางจำนวนประชากรในประเทศที่ลดน้อยลง
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยจากภาวะสมองเสื่อมทั้งหมดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.23 ล้านรายภายในปี 2030 และเพิ่มเป็น 5.84 ล้านรายภายในปี 2040 ซึ่งเป็นช่วงที่คาดว่าจำนวนประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปในประเทศจะถึงจุดสูงสุด
ภายในปี 2060 คาดว่าหากปัจจัยชีวิตต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ประชาชนประมาณ 6.32 ล้านคนจะมีอาการเริ่มแรกของภาวะสมองเสื่อม หรือที่เรียกว่าความบกพร่องทางสติปัญญาระดับเล็กน้อย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่กระทรวงประมาณการเช่นนี้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด อัตราส่วน 1 ในทุกๆ 5.6 คนในกลุ่มอายุ หมายความว่าประชากรทั้งหมด 6.45 ล้านคนจะต้องป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมภายในปี 2060 ทั้งนี้ ลดลงจากที่เคยประเมินไว้ 8.50 ล้านคนที่ประเมินไว้ในปี 2015 ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การควบคุมอาหารที่ดีขึ้น และการเลิกสูบบุหรี่
คาดว่ารัฐบาลจะสรุปมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมและครอบครัวให้เสร็จสิ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคม เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีภาวะดังกล่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถทางสติปัญญาบกพร่องให้ดีขึ้น เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคม