xs
xsm
sm
md
lg

หมอฟันญี่ปุ่นไม่อยากรับคนไข้แบบนี้!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆ ชอบไปคลินิกทำฟันไหมครับ แต่ถ้าสุขภาพฟันมีปัญหาก็มีความจำเป็นที่ต้องไปรักษาและทำฟันอยู่บ่อยๆ สำหรับผมเองผมอยากบอกว่าผมกลัวการเข้าคลินิกทำฟันมากครับ ผมไม่ค่อยชอบไปทำฟันเลย (*ノω


ในกรณีของคลินิกทำฟันนั้น ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากไป อยากเลื่อนออกไปๆ ผมเลื่อนจนมันไม่ไหวจริงๆ แล้ว... อืม เมื่อมันปวดและผมก็ช่วยไม่ได้ เพราะอยากให้มันหาย ก็ต้องอดทนจะได้รักษาให้หายให้เร็วที่สุด ในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 ระบาด เป็นช่วงที่ทุกคนงดการไปคลินิกทำฟัน

ถ้าเพื่อนๆ จำได้ช่วงนั้นคลินิกทำฟันเงียบมาก แต่ร้านจะมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดนะครับ ซึ่งตอนนั้นผมปวดฟันพอดีเลยแล้วก็ช่วยไม่ได้ (*´꒳`*)" อย่างไรต้องไปรักษา (*´꒳`*).。oO

ที่มีคนบอกว่าคนญี่ปุ่นมีปัญหาสุขภาพช่องปากไม่ค่อยดี แต่ไม่นิยมจัดฟันเพื่อแก้ไขฟันนั้นอาจจะมาจากหลายๆ เหตุผล บ้างก็ว่าเพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง แต่โดยส่วนใหญ่สวัสดิการประกันสุขภาพของรัฐบาลจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายการไปตรวจรักษาในคลินิกทำฟัน 70% ขึ้นอยู่กับอายุและการรักษาด้วยครับ แต่มีบางแห่งที่ไม่รับ ประกันสุขภาพค่าใช้จ่าย เช่น การฟอกสีฟัน การนัดหมายครั้งแรก การรักษา อาจมีราคาตั้งแต่ 1,000 ถึง 5,000 เยน แต่เนื่องจากมีประกันสุขภาพการให้คำปรึกษาอาจมีราคาต่ำกว่า 1,000 เยนก็ได้ ซึ่งแม้ว่าคนไข้จะไม่ได้รักษาอะไรแต่มักถูกคิดค่าบริการสำหรับรับคำแนะนำเมื่อไปพบทันตแพทย์ครับ


แต่ประกันสุขภาพของรัฐบาลไม่ครอบคลุมถึงสิ่งต่างๆ เช่น ค่าฟิลเลอร์ หรือค่าวัสดุอุดฟันด้วยเซรามิกและสีทอง ไม่ครอบคลุมวัสดุประเภทอื่นๆ อีกหลายอย่าง และค่าใช้จ่ายในการรักษาอาจจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนและอาการของปัญหาทางช่องปากด้วยครับ เวลาคนญี่ปุ่นไปพบทันตแพทย์จะนำบัตรประกันสุขภาพของตัวเองมาแสดงที่เคาน์เตอร์และกรอกแบบสัมภาษณ์ทางการแพทย์ หลังจากการตรวจรักษาแล้วทำการชำระเงินเพื่อรับใบเสร็จ ใบสั่งยา และใบรับรองการป่วยครับ คงคล้ายๆ กับที่เมืองไทย

เมื่อไม่นานมานี้มีหัวข้อที่น่าสนใจพูดคุยกันในญี่ปุ่นเกี่ยวกับมุมมองของทันตแพทย์ที่ขัดแย้งกันกับผู้ป่วย คนไข้เลือกคลินิกที่รักษาดี แต่มุมมองของทันตแพทย์อยากเลือกคนป่วยด้วยนะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าว่าทันตแพทย์ญี่ปุ่นบอกว่าลูกค้าแบบนี้ไม่อยากต้อนรับเลย!! มีอะไรบ้างไปดูกันครับ


อันดับที่ 10 ลูกค้าที่ต่อรองขอลดราคา

อันดับที่ 9 ลูกค้าที่ขอให้รักษาในแบบที่เป็นไปไม่ได้

อันดับที่ 8 ลูกค้าที่อยู่ๆ ก็ยกเลิกนัดกะทันหัน

อันดับที่ 7 ลูกค้าที่แต่งตัวด้วยชุดหรูราคาแพงระยับ

อันดับที่ 6 ลูกค้าที่ไม่ฟังคําอธิบายของการรักษา

อันดับที่ 5 ลูกค้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการรักษาเอง

อันดับที่ 4 ลูกค้าที่มาสายเสมอ

อันดับที่ 3 ลูกค้าที่ไม่กินยาตามใบสั่งแพทย์

อันดับที่ 2 ลูกค้าที่ต้องการรักษาเฉพาะบริเวณที่เจ็บปวดเท่านั้น

อันดับที่ 1 ลูกค้าที่เชื่อข้อมูลอินเทอร์เน็ตและไม่ฟังหมอ


...เมื่อผมนึกย้อนกลับไป เหตุผลส่วนหนึ่งที่ผมลาออกจากงานที่ญี่ปุ่นก่อนหน้านี้คือ ครั้งหนึ่งผมเคยถูกสั่งให้รับปรึกษากับชาวต่างชาติที่ไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ (แม้ว่าการปรึกษานั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับงานในส่วนของผมก็ตาม) เรื่องที่คุยคือการอธิบายกับลูกค้าว่า "ฟันที่แข็งแรงของลูกค้าถูกถอนออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ!!" และจากเหตุการณ์นั้นมันทำให้ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เขาให้ผมพูดนั้นไร้เหตุผลมากจนผมสูญเสียความศรัทธากับตรงนั้นอย่างจริงจัง ผมเห็นใจลูกค้ามากและลูกค้าต่างชาติก็ขอบคุณผม น่าสงสารจริงๆ และผมก็จําได้ดี... (・ω・`)

ต่างจากประเทศไทยที่มีวัฒนธรรมดูแลคนป่วยที่โรงพยาบาล เมื่อครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ยุ่งอยู่เสมอมาโรงพยาบาลมีแผนกต้อนรับเฉพาะภาษา แต่ผมคิดว่าการไปหาหมอฟันกับเพื่อนที่สามารถพูดและสื่อสารได้ดีในภาษาของประเทศนั้นๆ จะดีกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้แต่คนญี่ปุ่นมีมุมมองที่ขัดแย้งกันดังที่กล่าวไปข้างต้นครับ ที่ญี่ปุ่นมีตํานานคลินิกทำฟันที่ผมเคยได้ยินบ่อยๆ คือ "F dental clinic" (นามแฝง) ที่มักจะให้ลูกอมเป็นของที่ระลึกเมื่อลูกค้าออกจากร้านหลังชำระเงิน! (・∀・)づ▲●▲ วันนี้เล่าสู่กันฟังครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น