เกียวโดนิวส์รายงาน (27 ก.พ.) ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ที่ล่มสลาย จะเริ่มปล่อยน้ำกัมมันตภาพรังสีซึ่งผ่านการบำบัดแล้วรอบที่ 4 ลงสู่มหาสมุทรในวันพุธนี้ อันเป็นการปล่อยครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่น้ำชุดล่าสุดได้รับการยืนยันว่ามีระดับกัมมันตภาพรังสีอยู่ในมาตรฐานที่กำหนดโดยรัฐบาลกลาง และบริษัท โตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ โฮลดิ้งส์ อิงค์ เทปโก (TEPCO)
การปล่อยน้ำบำบัดกัมมันตภาพรังสีเริ่มขึ้นครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากประเทศต่างๆ เช่น จีนก็ตาม
เช่นเดียวกับ 3 รอบก่อนหน้านี้ ของเหลวที่ผ่านการบำบัดจำนวน 7,800 ตันจะไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงระยะเวลาประมาณ 17 วัน
เทปโก และรัฐบาลกลางยืนยันว่า การกำจัดน้ำที่ผ่านการบำบัดนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรื้อถอนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งประสบปัญหาการล่มสลายของเชื้อเพลิงในเครื่องปฏิกรณ์ภายหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2554 คาดว่าการปล่อยน้ำจะทยอยดำเนินต่อไปอีกประมาณ 3 ทศวรรษ
น้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีจำนวนมหาศาลได้สะสมในกระบวนการหล่อเย็นให้เชื้อเพลิงที่หลอมละลายถูกเก็บไว้ในถังเพื่อผ่านระบบแปรรูปของเหลวที่กำจัดนิวไคลด์กัมมันตรังสีส่วนใหญ่ยกเว้นไอโซโทป แต่น้ำเหล่านี้ใกล้จะเต็มกำลังการเก็บกักแล้ว
ก่อนที่จะปล่อยออกทางอุโมงค์ใต้น้ำซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้า 1 กิโลเมตร น้ำปนเปื้อนเหล่านี้ถูกเจือจางด้วยน้ำทะเลจนเหลือ 1 ใน 40 ของความเข้มข้นที่อนุญาตภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยของญี่ปุ่น
จากข้อมูลของ TEPCO หลังจากการปล่อยน้ำทั้ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ ยังไม่พบระดับไอโซโทปที่ผิดปกติในน่านน้ำมหาสมุทรใกล้เคียง
การระบายน้ำครั้งที่ 4 ผู้ปฏิบัติงานจะตรวจสอบโดยใช้เพียงตัวอย่างน้ำที่ถูกเจือจางแล้วในขณะที่กำลังระบายออก โดยมีการวัดความเข้มข้นของไอโซโทปวันละครั้ง
ในระหว่างการปล่อยและในสัปดาห์หลังจากเสร็จสิ้น ผู้ปฏิบัติงานจะเก็บตัวอย่างน้ำทะเลทุกวันจากสถานที่ 4 แห่งภายในรัศมี 3 กม. จากโรงงาน ผลการตรวจนี้จะถูกเผยแพร่ในวันรุ่งขึ้น
ตามข้อมูลของ TEPCO คาดว่าน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วทั้งหมด 31,200 ตันจะถูกระบายออกในช่วงปีงบประมาณ 2566 ส่งผลให้มีการปล่อยไอโซโทป 5 ล้านล้านเบคเคอเรล หรือน้อยกว่าหนึ่งในสี่ของขีดจำกัดสูงสุดต่อปีที่ 22 ล้านล้านเบคเคอเรล