xs
xsm
sm
md
lg

คุณจะทำอย่างไรถ้าอยู่ๆ มีสาวสวยมาเคาะประตูบ้านยามวิกาล?! (นกกระเรียนตอบแทนคุณ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว สวัสดีปีใหม่ครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้เรามีสติและยังขอให้เป็นปีที่ดีของทุกคนนะครับ ญี่ปุ่นมีประชากรมากกว่าร้อยยี่สิบล้านคน เคยได้ยินคนที่ต่างชาติถามกันบ่อยๆ ว่าคนญี่ปุ่นนับถือศาสนาอะไร? บางคนบอกว่าคนญี่ปุ่นไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเลย? และมีคนเคยเล่านะครับว่า พอถามคนญี่ปุ่นว่านับถือศาสนาอะไรบ้าง? ก็มีตัวเลขออกมาว่าคนญี่ปุ่นนับถือศาสนาชินโตประมาณร้อยล้านคน นับถือศาสนาพุทธประมาณร้อยล้านคน เอ๊ะแบบนี้ถ้าเอาตัวเลขมารวมกันก็กลายเป็นสองร้อยล้านคนนะสิ!! ซึ่งรวมแล้วมากกว่าประชากรญี่ปุ่นจริงๆ อีก นั่นหมายความว่า ถ้าถามว่าคนญี่ปุ่นนับถือศาสนาอะไร เขาก็ตอบนับถือศาสนานี้ด้วย นับถือศาสนานั้นด้วยคือนับถือทั้งสองสามศาสนาเลย


คนญี่ปุ่นยังบอกอีกว่าช่วงที่จะแต่งงานก็จะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์เพราะว่าอยากจะจัดพิธีแบบศาสนาคริสต์ จะแต่งงานในโบสถ์ และช่วงวันคริสต์มาสวันที่ 24 และ 25 ธันวาคมก็จะมีคนญี่ปุ่นหันไปนับถือศาสนาคริสต์เยอะหน่อย


31 ธันวาคมที่เรียกว่าเป็นวันส่งท้ายปีเก่า คนญี่ปุ่นจะพากันไปตีระฆังที่วัดให้ได้ 108 ครั้งเพราะเชื่อว่ากิเลสของคนเรามี 108 สิ่ง การเข้าวัดไหว้พระตีระฆังจะได้ชำระล้างกิเลสออกไป พอตีระฆังที่วัดเสร็จก็ไปศาลเจ้าชินโตเพื่อไปขอพรในวันขึ้นปีใหม่ ที่เรียกกันว่า 初詣で hatsu moude คือการเยี่ยมชมศาลเจ้าในช่วงต้นปี เพื่อขอบคุณสำหรับปีที่แล้วหรือขอพรให้พระเจ้าช่วยให้ปีนี้เป็นปีที่ดี จึงทำให้ศาลเจ้าแต่ละที่มีผู้มาเยี่ยมชมเยอะมากโดยเฉพาะศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง บอกเลยว่าแทบจะเดินไม่ได้ครับคนเยอะจนต้องไหลตามๆ กันไป และบางศาลเจ้ามีคนไปเป็นล้านๆ คน ซึ่งจริงๆ แล้วถึงแม้ว่าจะไม่ได้นับถือศาสนาอะไรอย่างจริงจังทุกคนก็สามารถเข้าไปกราบไหว้สักการบูชาในศาลเจ้าได้ครับ


เนื่องจากเรื่องที่ผมเล่าไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สองก็ถูกอเมริกาห้ามคนญี่ปุ่นเข้าไปสักการบูชาในศาลเจ้าชินโตระยะหนึ่งเลยครับ แต่ยังดีที่เรื่องเล่านิทานพื้นบ้านและนิทานญี่ปุ่นโบราณไม่ได้ถูกห้ามอะไร เช่น เรื่องโมโมทาโร่ และเจ้าหญิงคะงุยะฮิเมะ เป็นต้น ผมดีใจมากที่นิทานพื้นบ้านต่างๆ ไม่ถูกสั่งห้าม

ซึ่งหนึ่งในนิทานญี่ปุ่นโบราณมีอีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างจะได้รับความนิยมอย่างสูง นั่นคือเรื่อง นกกระเรียนตอบแทนคุณ Tsuru no Ongaeshi 鶴の恩返し นั่นเอง เรื่องย่อๆ มีอยู่ว่า

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งมีอาชีพตัดไม้และหาของป่า เขาอาศัยอยู่คนเดียวในกระท่อมเล็กๆ แห่งหนึ่ง วันหนึ่งขณะที่เขาเข้าไปหาของป่าตามปกติ ก็เห็นนกกระเรียนสีขาวตัวหนึ่งติดกับดักอยู่ เขาจึงช่วยนกกระเรียนตัวนั้นจนพ้นอันตราย


คืนนั้นชายหนุ่มก็ต้องประหลาดใจ เมื่อมีหญิงสาวสวยหน้าตาดีคนหนึ่งมายืนที่ประตูบ้านเขาและบอกว่า เธอหลงทางและมืดค่ำแล้วข้างนอกก็มีพายุหิมะ อยากจะขอพักที่บ้านของชายหนุ่มก่อนได้ไหม และจากนั้นมาทั้งสองก็ใช้ชีวิตเป็นสามีภรรยากัน

วันหนึ่งหญิงสาวขอให้ชายหนุ่มสร้างห้องทอผ้าให้ และห้ามไม่ให้เขาเข้ามาในนั้น เธอเก็บตัวอยู่ในห้องทอผ้าหลายวัน ส่วนชายหนุ่มผู้เป็นสามีก็รอแล้วรอเล่า จนถึงวันที่ 7 เสียงของเครื่องทอผ้าก็หยุดลง หญิงสาวก็ออกมาด้วยร่างกายที่ซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับผ้าผืนงามเธอบอกว่า “เอากิโมโนนี้ไปขายที่ตลาดจะได้ราคาดีทีเดียว” วันรุ่งขึ้นชายหนุ่มจึงนำกิโมโนไปขาย และได้ราคาสูงมาก เขานำเงินกลับบ้านอย่างมีความสุข


หญิงสาวยังคงอยู่ในห้องทอผ้าต่อไป เสียงเครื่องทอผ้าดังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกสงสัยว่าภรรยาของตนทอผ้าสวยๆ นี้ได้อย่างไร โดยปราศจากเส้นไหม ในที่สุดด้วยความอยากรู้อยากเห็นของชายหนุ่ม เขาจึงแอบเข้าไปในห้องทอผ้า ทันใดนั้นภาพที่เขาเห็นคือนกกระเรียนกำลังทอผ้าโดยใช้ขนของตัวเองแทนเส้นไหม หาใช่ภรรยาสาวสวยของเขาไม่ ชายหนุ่มจึงตกใจมาก

นกกระเรียนรู้ตัวว่าชายหนุ่มกำลังแอบดูอยู่ จึงพูดว่า “ฉันคือนกกระเรียนที่คุณเคยช่วยชีวิตไว้ ฉันจึงต้องการตอบแทนบุญคุณของคุณ แต่ตอนนี้คุณได้เห็นร่างจริงของฉันแล้ว ฉันก็ไม่สามารถจะอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป” นกกระเรียนยื่นกิโมโนที่ทอเสร็จแล้วให้ชายหนุ่ม และบินขึ้นฟ้าไปโดยไม่กลับมาอีกเลย..


เพื่อนๆ คงเคยได้ฟังนิทานพื้นบ้านกันมาบ่อยๆ แล้ว เรื่องนี้ก็เป็นที่นิยมชมชอบมาก มีคนบอกว่าที่เป็นที่นิยมเพราะส่วนหนึ่งมันเร้าอารมณ์ มีความอีโรติก ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไรถ้าอยู่ๆ ก็มีสาวสวยมาเคาะประตูบ้านยามวิกาล?! มันเหมือนเป็นความฝันของผู้ชายนะครับที่มีสาวสวยมาเยี่ยมเยือนถึงบ้านคนเดียวกลางดึก (*´Д`*) เรื่องนี้จึงทำให้คนสนใจอยากอ่านนะครับ y แต่สิ่งที่นิทานพื้นบ้านเรื่องนี้จะบอกคือ ถ้าเราทำความดีสิ่งที่ดีๆ ก็จะกลับคืนมาหาเรา ถ้าเราทำสิ่งไม่ดีความชั่วก็กลับคืนมาสู่เรา เหมือนกับการที่เราเลี้ยงสัตว์ที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ให้ความช่วยเหลือเขาด้วยความเมตตากรุณาก็อาจจะมีสิ่งดีๆ ย้อนกลับมาหาเราก็ได้นะครับ วันนี้เล่าสู่กันฟัง พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น