xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมคนญี่ปุ่นอยู่เมืองไทยนานๆ ไม่ออกไปงานเทศกาลแม้จะชอบมาก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ผมเป็นคนญี่ปุ่นที่รักเมืองไทยมากครับ ผมไปเที่ยวมาหลายจังหวัด ไปมาทุกภาคก็รักในธรรมชาติและท้องถิ่นทุกๆ จังหวัดของเมืองไทย ตอนนี้ผมอาศัยอยู่เมืองเล็กๆ ในจังหวัดสุโขทัยที่ผมรู้สึกว่าเข้ากับวิถีชีวิตคนแบบผมที่โตมาจากต่างจังหวัดของญี่ปุ่นเช่นกัน ผมรู้สึกว่าที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่น มีวัฒนธรรม มีประวัติความเป็นมา เป็นเมืองที่น่ารักและการใช้ชีวิตก็ผ่อนคลายกว่าญี่ปุ่นเยอะผมจึงชอบมาก


ถ้าพูดถึงจังหวัดสุโขทัยแล้วเราจะนึกถึงเทศกาลลอยกระทงที่เพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานนี้เอง ผมมาอยู่เมืองไทยจนลืมๆ หน้าหนาวแบบญี่ปุ่นไปแล้วครับ เวลาถึงงานลอยกระทงผมจะรู้สึกว่ามันจะหนาวแล้ว เพราะเริ่มเป็นช่วงที่ไม่มีฝนตก อากาศเย็นๆ ก็จะตื่นเต้นเพราะนอกจากงานใหญ่ของจังหวัดแล้ว ตามวัดตามท้องถิ่นต่างๆ ก็จัดงานกันครึกครื้น ทว่าปีนี้ผมไม่ได้ไปลอยกระทงจนได้ ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ แต่ช่วงมีงานจะมีรถเยอะมาก มีคนเยอะ และอาจมีคนทะเลาะกัน อย่างไรก็ตาม ถึงผมไม่ได้ไปแต่แค่คิดก็อบอุ่นหัวใจและยิ้มได้แล้วจริงๆ


ถ้าถามว่าทำไมผมชอบเมืองไทย คงเป็นเรื่องของความประทับใจแรกกระมัง ย้อนไปครั้งแรกที่ผมมาเมืองไทยเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วตอนที่ผมยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ตอนนั้นมาเมืองไทยก็เจอกับเทศกาลสงกรานต์พอดีเลย มันเป็นหน้าร้อนแต่ทุกคนเล่นสาดน้ำกัน คือสนุกมาก ตอนนั้นแปลกใหม่และประทับใจจริงๆ มีคนมาประแป้งที่หน้าผม ผมก็ปล่อยหน้าขาวแบบนั้นเพราะคนอื่นๆ ก็หน้าขาวเช่นกัน วันนั้นผมไปห้างสรรพสินค้าแล้วไปกินไอศกรีม พนักงานเสิร์ฟเห็นหน้าผมเลอะแป้งก็ยิ้มแย้มพอเขาเสิร์ฟเสร็จ เขาก็เอาน้ำเย็นมาเทเบาๆ เข้าไปในเสื้อผม ที่จริงผมก็งงและตกใจเหมือนกันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สรุปว่าวันนั้นนาฬิกาและพาสปอร์ตผมเปียกน้ำไปเลย ถามเพื่อนคนไทยหลายๆ คนว่าแบบนี้ปกติไหม เพื่อนๆ ก็บอกว่าแบบนี้ไม่ได้นะ เขาต้องขอโทษลูกค้าจะมาสาดน้ำในร้านอย่างนี้ไม่ได้เลย แต่ผมคิดดูแล้วผมก็เข้าใจว่าเป็นความสนุกสนานแบบคนไทยก็ไม่เป็นไร


ผมเคยอ่านหนังสือที่คนญี่ปุ่นเขียน เขาบอกว่าอยู่เมืองไทยมาหลายปีแล้ว เกือบ 10 ปีได้ นักเขียนบอกว่าถึงเทศกาลสงกรานต์เมื่อไหร่จะต้องหมกตัวอยู่ในห้อง!! คืออารมณ์แรกที่ผมเพิ่งมาเมืองไทยตอนนั้นผมก็คิดแบบเอ๊ะ! ทำไมเขาถึงไม่ออกไปเที่ยวล่ะ เทศกาลสนุกขนาดนี้ แปลกจริงๆ ..แต่หลังจากที่ผมมีประสบการณ์ทั้งมาเที่ยวและมาอยู่เมืองไทยรวมๆ แล้วเกือบ 20 ปี ผมก็รู้แล้วครับว่าตอนนี้ถ้ามีเทศกาลอะไร ผมก็อยู่ในบ้านเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไร คงอารมณ์เดียวกับคนไทยหลายคนนะครับชอบเทศกาลแต่ก็อยู่ในบ้านดีกว่า (*´꒳`*)


ปีนี้เหลืออีกไม่กี่วันก็ถึงวันสิ้นปีแล้ว เวลาผ่านมาไวมาก ผมเองก็ไม่ใช่ปีที่ดีเท่าไรนัก เจอหลายๆ เรื่องเลย แต่พอใกล้ถึงปีใหม่ขึ้นมาทีไร จิตใจก็เริ่มรู้สึกว่าจะเริ่มปีใหม่อีกแล้วนะ มีอะไรให้ตื่นเต้นและการเริ่มต้นใหม่ ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองอีกแล้ว ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะคิดเหมือนกัน คือรู้สึกว่าใกล้ปีใหม่แล้วเป็นช่วงที่มีเทศกาลต่างๆ มากมาย และจะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงตัวเองสักอย่าง


ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ อำเภอที่ผมอยู่จะมีเทศกาลงิ้วด้วยครับ ไม่ใช่แค่ช่วงสิ้นปีเท่านั้น แต่ปีหนึ่งๆ อาจจะมีงิ้วมาเล่น 2 ครั้ง ผมคิดว่าการแสดงงิ้วเป็นการแสดงที่มีศิลปะและเริ่มหาดูยากแล้ว จึงมีความน่าสนใจมาก แค่ไปดูการแต่งหน้า แต่งตัว การแสดงละคร ภาษา ดนตรีประกอบต่างๆ ต้องยอมรับเลยว่าตื่นตาตื่นใจครับ แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่งครับคือ ปกติแล้วเมืองที่ผมอยู่ ชาวบ้านเขาใช้ชีวิตกันช่วงเช้า ก็คือคนที่นี่ตื่นเช้ามากเปิดร้านเช้า และหัวค่ำก็เริ่มปิดบ้านนอนกันแล้ว แต่ว่าการแสดงงิ้วนี่เริ่มช้ามาก กว่าจะไหว้เจ้า กว่าจะเริ่มก็ 2 ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว บางเรื่องบางวัน 4 ทุ่มครึ่งก็ยังเล่นไม่เสร็จเลยครับ ดังนั้นจึงมีคนไปดูน้อยมาก ประมาณ 4-5 คน ระหว่างที่งิ้วแสดงนั้นก็เริ่มดึกขึ้นๆ คนก็จะค่อยๆ ลุกกลับบ้านทีละคนๆ จนเหลือคนเดียวก็คือผมใช่ไหมครับ พอเหลือคนเดียวผมก็เลยไม่กล้าลุกออกจากที่เท่าไร เพราะเกรงใจงิ้ว แต่ก็ยังไปทุกวันเลย


ถ้าพูดถึงงิ้ว จริงๆ แล้วก็มีคนญี่ปุ่นที่ชอบดูงิ้วแบบผมอยู่นะครับ ผมอยู่มาหลายปีผมก็ไปดูเกือบทุกปีเลย บางทีปีหนึ่งหลายรอบด้วย และถ้าถามว่ามีศิลปะการแสดงที่คนญี่ปุ่นจะมานั่งชื่นชมดูคล้ายๆ งิ้วไหม ผมคงนึกถึงการแสดงพวก 大衆演劇 Taishū engeki ครับ เป็นหนึ่งศิลปะการแสดงในโรงละครญี่ปุ่น เน้นความบันเทิงและมีแสดงการต่อสู้ด้วยดาบและประวัติศาสตร์ หรือธีมซามูไร แต่ไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนเพราะขึ้นอยู่กับความชอบของสาธารณชนในเวทีที่แสดง การแสดงประเภทนี้เหมือนเทศกาลคาราวานนะครับ ที่นักแสดงจะเที่ยวตระเวนไปตามเมืองที่จัดงานเทศกาล ตั้งเป็นเวทีและเต็นท์แสดงชั่วคราว หรือที่โรงละครท้องถิ่นขนาดเล็ก ศูนย์ชุมชน เป็นครั้งๆ ไปตามจำนวนวันที่จัดงาน มีความใกล้ชิดกับคนดูการแสดงครับ


การแสดง 大衆演劇 Taishū engeki โดยทั่วไปอาจจะเป็นละครสั้นๆ นักแสดงแต่ละคนปรากฏตัวบนเวทีเพียงคนเดียวทีละคนๆ นักแสดงมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนรูปแบบของเครื่องแต่งกายและการแต่งหน้าคล้ายๆ ของคาบุกิ ทาใบหน้าสีขาว ริมฝีปากสีแดงสด ดวงตาและคิ้วเข้มที่เน้นย้ำเพื่อสร้างสุนทรียภาพโดยรวมของความงามที่มีสไตล์
นักแสดงแต่ละคณะอาจมีไม่ถึง 20 คน นักแสดงส่วนใหญ่สืบทอดกันในครอบครัว ซึ่งจะมีปัญหากับเด็กอยู่บ้าง เพราะว่าพ่อแม่ต้องย้ายไปเรื่อยๆ ตามจังหวัดต่างๆ ถ้าเด็กที่ไม่ชอบเรียนหนังสือก็อาจจะไม่เป็นไร แต่เด็กบางคนก็อยากเรียนหนังสือก็อาจจะมีปัญหาได้ คณะแสดงจะมีเวลาอยู่แต่ละเมืองไม่นานนักก็ต้องย้ายไปที่อื่นๆ อีก นักแสดงจึงต้องมีสุขภาพแข็งแรงมากนะครับ ว่ากันว่าทำงานยาว 6 วัน แล้วถึงจะได้พัก 1 วัน ผมก็ชอบดูการแสดงนี้อีกเช่นกัน วันนี้เล่าสู่กันฟังครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าสวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น