สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วผมพูดเกี่ยวกับมิสเตอร์บีน และมีคนแนะนำว่าถ้าเดินทางโดยเครื่องบินที่ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จะดูหนังบนเครื่องไม่ค่อยทันจบเรื่อง เพราะต้องรอเวลาเครื่องบินขึ้นเครื่องบินลงและเวลาประกาศบนเครื่องต่างๆ ทำให้ไม่ทันดูภาพยนตร์บนเครื่องจนจบเรื่องได้ เขาจึงแนะนำว่าให้ดูมิสเตอร์บีนเพราะดูง่ายดี เพลินๆ จบได้ไวไม้ค้างคาใจ พอพูดถึงการเดินทางโดยเครื่องบินส่วนใหญ่เราจะนั่งชั้นประหยัดกันใช่ไหมครับ ซึ่งบางคนอาจจะเจอปัญหาเรื่องความกว้างของที่นั่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายภาพของบุคคลด้วยว่าตัวใหญ่หรือตัวเล็ก ส่วนสูง น้ำหนัก เป็นต้น ถ้าคนตัวเล็กอาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่คนที่ตัวใหญ่ๆ ขายาวอาจจะมีปัญหาเรื่องของการนั่งนิดหน่อยโดยเฉพาะถ้าต้องนั่งเครื่องนานๆ
ถ้าที่ญี่ปุ่นคงจะเป็นพวกนักกีฬามวยปล้ำ หรือซูโม่ เป็นต้น พวกนักกีฬาที่ตัวใหญ่ๆ ที่ต้องนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดจะมีปัญหากันมาก ครั้งนี้ขอพูดถึงกรณีเครื่องบินโดยสารชั้นประหยัดของประเทศญี่ปุ่นนะครับ มีแหล่งข่าวเล่าว่า พวกนักกีฬาตัวใหญ่ๆ เขาจะซื้อที่นั่งชั้นประหยัด 2 ที่นั่งแต่ใช้นั่งคนเดียว ซึ่งเวลาซื้อแบบนี้จะแจ้งสายการบินไปเลยว่านั่งคนเดียวซื้อ 2 ที่นั่งก็จะได้แพกเกจราคาที่ถูกลงกว่าเดิมเล็กน้อย นอกจากเรื่องที่นั่งแล้วยังมีข่าวว่าห้องน้ำบนเครื่องบินที่ปกติจะมีขนาดเล็กๆ อยู่แล้ว ก็เป็นอีกปัญหาของพวกนักกีฬาซูโม่มาก เพราะเข้าห้องน้ำไม่ได้ (´･ω･`)
วันนี้ผมจะนำข่าวน่ารักๆ ด้วยความใส่ใจของสายการบิน กลัวว่าน้ำหนักเครื่องจะเกินพิกัดก็หาทางรองรับบรรดานักกีฬาซูโม่ที่จะต้องเดินทางไปแข่งขันกีฬาในประเทศ
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาถือว่าเป็นวันก่อนการแข่งขันซูโม่ของ 鹿児島国体*Kagoshima National Tournament ที่จัดขึ้นในเมืองอามามิ จังหวัดคาโงชิมะ ทั้งนี้ JAL ได้ออกเที่ยวบินพิเศษสำหรับเครื่องบินโดยสารที่มุ่งหน้าจากโอซากาและโตเกียวไปยัง 奄美大島 Amami Oshima โดยกล่าวว่า รองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกินน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วง
* Kagoshima National Tournamen คล้ายๆ การแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่จะจัดในจังหวัดต่างๆ หมุนเวียนกันไปในแต่ละปี แต่ละจังหวัดจะส่งตัวแทนนักกีฬามาแข่งกันกีฬาประเภทต่างๆ ซึ่งในปีนี้จัดที่จังหวัดคาโงชิมะ แต่ว่ากีฬาซูโม่ถูกจัดขึ้นที่สนามแข่งขันที่เกาะอามามิ หนึ่งในเขตจังหวัดคาโงชิมะนั่นเอง
ดังนั้นแล้วจะมีนักกีฬาซูโม่จากจังหวัดต่างๆ ที่จะเข้าร่วมแข่งขันและต้องเดินทางมาจากจังหวัดของตนเอง ปกติต้องมาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินใหญ่ในภูมิภาค เช่น บางคนต้องมาต่อเครื่องที่โอซากา บางคนต้องมาต่อเครื่องที่โตเกียว แล้วค่อยนั่งเครื่องบินมาลงที่เกาะอามามิอีกที
ทีนี้ก็มีข่าวจากสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ครับ คือทางสายการบินเกรงว่าน้ำหนักจะเกิน เดี๋ยวเล่านิดหนึ่งว่าปกติเครื่องบินที่จะไปลงที่เกาะอามามิอาจจะเป็นเครื่องบินเล็ก สมมติว่ารับผู้โดยสารได้ 40 คน แต่ในวันที่มีนักกีฬาซูโม่ขึ้นมาด้วยสัก 30 คนก็คือสายการบินคาดว่าน้ำหนักไฟลต์นั้นเกินแน่ๆ!
- สายการบินจึงประกาศว่า -
มีความเป็นไปได้ที่เที่ยวบินเลขที่ 2465 อาจจะมีน้ำหนักเกินเพราะมีการจองที่นั่งสําหรับนักกีฬาซูโม่จำนวนมากมาย ในขั้นตอนการวางแผนเที่ยวบิน จึงตัดสินใจดําเนินการเพิ่มเที่ยวบินจากฮาเนดะในเช้าตรู่ของวันที่ 12 ตุลาคม โดยซูโม่ที่วางแผนจะนั่งเครื่องบินไปอามามิ จะถูกย้ายไปต่อเครื่องที่ฮาเนดะโดยเที่ยวบินปกติ และนักกีฬาซูโม่ทั้งหมด 27 คนให้ขึ้นเที่ยวบินเสริมชั่วคราวจากฮาเนดะไปอามามิแทน!
คนญี่ปุ่นอ่านข่าวนี้รู้สึกว่ามันมีความน่ารักที่สายการบินมีการรองรับเพื่อเตรียมความพร้อมและเพื่อความปลอดภัย คนญี่ปุ่นคุยกันสนุกสนานว่า ซูโม่บางคนอุตส่าห์นั่งเครื่องบินมาลงโอซาการอบหนึ่งแล้ว ต้องต่อเครื่องไปขึ้นเครื่องเสริมพิเศษที่ฮาเนดะอีกรอบ เพื่อรวมตัวกันก่อนถึงจะมาอามามิได้ เพราะสายการบินให้นักกีฬาซูโม่ทั้งหมดในวันนั้นไปเปลี่ยนเครื่องบินใหม่เป็นไฟลต์เสริมต่างหากจากเที่ยวบินปกติ วันนั้นเหมือนมีซูโม่ทั้งหมด 27 คน น่าจะหลายกิโลกรัมอยู่นะครับ
นอกจากนี้ สายการบินแจ้งให้ทราบว่า ตามปกติ JAL มักจะคํานวณน้ำหนักผู้โดยสารที่ประมาณ 70 กิโลกรัมต่อคน ยกเว้นนักกีฬา ครั้งนี้จึงต้องคํานวณใหม่ด้วยข้อมูลที่เผยแพร่และจาก self-reporting ของนักกีฬา เครื่องบินที่ใช้เป็นโบอิ้ง 737 โฆษกกล่าวว่า "มันค่อนข้างหายากที่จะส่งเที่ยวบินเสริมชั่วคราว เนื่องจากข้อจํากัดน้ำหนักของเครื่องบินลํานี้"
และในวันที่ 15 ตุลาคมเมื่อการแข่งขันซูโม่สิ้นสุดลงจะมีเที่ยวบินพิเศษหมายเลข 4868 จากเกาะอามามิโอชิมะไปฟุกุโอกะ และให้นักกีฬาซูโม่เปลี่ยนเที่ยวบินจากฟุกุโอกะไปฮาเนดะ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นด้วย
อ่านข่าวแล้วก็นึกภาพตาม คงจะน่ารักดีนะครับซูโม่เต็มเครื่อง เพื่อนๆ คงพอรู้จักนักกีฬาซูโม่กันมาบ้างแล้ว
ซูโม่ 相撲 sumo ถือเป็นกีฬาประจำชาติญี่ปุ่นและได้รับความนิยมมาก จังหวัดที่ผมเคยอยู่มีสถานที่จัดแข่งซูโม่ บางครั้งช่วงเช้าๆ จะเห็นทีมนักกีฬามาวิ่งออกกำลังกาย เขาบอกว่า นักกีฬาซูโม่จะวิ่งโดยไม่ได้กินอะไรมาก่อน พอเหนื่อยมากๆ จะได้กินเยอะๆ ให้ตัวอ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ
คนที่รักในสายนี้ เมื่อได้เข้าสังกัดแล้ว นักซูโม่ต้องฝึกอย่างหนักและอยู่ภายใต้กฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ตื่นนอนตีสามหรือตีสี่ แล้วออกกำลังกายต่างๆ และฝึกซ้อมท่าทางการต่อสู้แบบซูโม่ ฝึกซ้อมหนัก เพื่อให้เกิดความหิวมากๆ และกินข้าวและอาหารหม้อไฟที่เรียกว่า ちゃんこ chanko กินแล้วทุกคนต้องนอน คือกินให้อิ่ม อิ่มแล้วนอนเลย เมื่อตื่นมาอีกรอบก็ต้องทำตามกฎระเบียบของค่ายต่อทั้งวันทั้งคืน บางครั้งนักซูโม่อายุน้อยๆ อาจจะต้องไปเรียน บางคนต้องปรนนิบัติรุ่นพี่ เหมือนรับน้องครับ รุ่นพี่บางคนก็ใช้งานโหดหรือแปลกๆ ก็มี
นักซูโม่แต่ละคนจึงมีรูปร่างอ้วนใหญ่ และจะต้องมีน้ำหนักตัวตามพิกัดน้ำหนัก โดยขณะที่แข่งขันซูโม่นั้นทั้งสองฝ่ายจะอยู่ในขอบเส้นวงกลม และต้องพยายามทำให้อีกฝ่ายหนึ่งล้ม ทำให้อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่นอกเหนือจากฝ่าเท้าแตะกับพื้น หรือดันคู่ต่อสู้ให้ออกจากวงกลมขนาดเล็กนั้น ดังนั้นน้ำหนักตัวก็สำคัญมากสำหรับการเป็นซูโม่ ไม่ใช่แข็งแรงอย่างเดียว แต่ต้องตัวหนักๆ ถ่วงไม่ให้ถูกฝ่ายตรงข้ามจับทุ่มนั่นเอง
ปกติแล้วฤดูกาลแข่งขันซูโม่จะเปิดการแข่งขันปีละ 6 ครั้ง คือ ในเดือนมกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม กันยายน และพฤศจิกายน โดยแต่ละครั้งใช้เวลานาน 15 วัน คืออาชีพซูโม่นี่แข่งหนึ่งครั้งมักจะรู้ผลแพ้ชนะกันไวมากแทบจะไม่ถึงนาที ถ้าผมสมมติว่ารู้ผลแพ้ชนะกันภายใน 30 วินาที ทำการแข่งขันกัน 15 ครั้ง x 6 (ปีหนึ่งมีแข่ง 6 เดือน) คือเท่ากับเข้าสนามแข่งจริงแค่ 45 นาที/ปี แต่ตลอดทั้งปีต้องฝึกซ้อมอย่างหนักมาก รวมทั้งเรื่องทำน้ำหนักตัวด้วยครับ วันนี้เล่าสู่กันฟังครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
