สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ถ้าได้คุยกับผู้ชายญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มหรือรุ่นลุงที่มีครอบครัวแล้ว ส่วนใหญ่จะมีเรื่องราวพูดคุยมากมายและถ้ามีความสนใจตรงกันจะยิ่งสนุกอย่างน่าประหลาดใจ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีอาจได้ยินเรื่องราวสนุกๆ ที่ไม่คาดคิด หากมีหัวข้อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องงานอดิเรกของโอตาคุ และงานอดิเรกศิลปะการต่อสู้ที่สนใจเหมือนกันจะยิ่งให้ความรู้สึกที่ดี แม้แต่การพูดคุยกับเพื่อน เพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายในวัยเดียวกัน ถ้าชอบการ์ตูนญี่ปุ่นสามารถพูดคุยเกี่ยวกับมังงะ ศิลปะการต่อสู้ หากสนใจเหมือนกันเขาอาจมีเรื่องราวน่าตื่นเต้นมาคุยมากมาย
คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่ญี่ปุ่น และเราคุยกันประมาณ 2 ชั่วโมง การสนทนานั้นสนุกมากครับ แต่เพราะเริ่มดึกทั้งคู่จึงเริ่มง่วงนอน ผมถามเพื่อนว่า "พรุ่งนี้นายจะทําอะไร" แต่เพื่อนบอกเรื่องอื่นว่า "เขาไปรับเงินและไปที่ร้านหนังสือมือ 2 เพื่อขายหนังสือเก่าและหนังสือภาพที่ลูกชายซื้อเมื่อตอนที่ลูกยังเด็ก" และเขาจบบทสนทนาแค่นั้น..
วันรุ่งขึ้นขณะที่ผมกำลังจะออกไปข้างนอก ผมได้รับโทรศัพท์อีกครั้ง แต่ผมยังไม่สะดวกรับสาย พอว่างผมก็อยากรู้จึงโทร.กลับหาเขา
ผม: เฮ้ เป็นอะไรไป เมื่อวานและวันนี้ (´・ω・`;) คงไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน หรือมีอุบัติเหตุอะไรใช่ไหม?
เพื่อน : ไม่ มันไม่ใช่แบบนั้น... ในที่สุดก็ขายหนังสือมือสองได้ประมาณ 600 บาท!
ผม: โอ้ว ยินดีด้วย ! d“(´∀`*)... อย่าบอกนะว่านั่นคือเรื่องที่จะเล่า!? และอย่าบอกนะว่านายคิดว่ากระผมว่างงาน? ( ・∀・;)
เพื่อน: เฮ้... คืองี้ มันมีบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น...
และเขาก็เริ่มเล่าอย่างตื่นเต้น...
วันนั้นร้านขอเวลาประมาณ 20 นาทีในการประเมินราคาหนังสือ เพื่อนจึงรอแถวๆ ร้านและไปกดดื่มน้ำผลไม้และเดินฆ่าเวลาแถวหน้าตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติในทางเดินแคบๆ ของทางเข้าร้าน อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนจากในร้านว่า "ช่วยด้วยๆ คนนี้ๆ ลวนลาม!" แล้วก็มีชายคนหนึ่งสวมหมวกคลุมศีรษะวิ่งหนีออกมาทางเพื่อนผมพร้อมกับเสียงของผู้หญิง เพื่อนผมจึงรีบคว้าฮู้ดหมวกคลุมศีรษะของชายคนนั้น...!
เพื่อนผมเล่าต่อว่า
...คิดว่ามีคนหลายคนที่เริ่มเรียนรู้หรือเริ่มต้นใหม่ๆ เพราะพวกเขามีเวลาที่ดีขึ้นหรือแย่ลงในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 เพื่อนผมบอกว่าเขากลับมาเล่นยูโดเหมือนที่เคยทํา และเพิ่งผ่านการสอบเลื่อนขั้นเป็นสายดํา จากนั้นผมจึงพูดว่า "แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น!? ((*゚∀ ゜*))" เพื่อนก็เล่าเรื่องต่อเนื่องด้วยความตึงเครียดเล็กๆ ...
△เพื่อนๆ ลองคิดไปด้วยกันครับว่า ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเพื่อนผม เพื่อนๆ จะตะครุบจับคนร้ายไหม หรือวิ่งหนี หรือทำอย่างไร .. เกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้? (แน่นอนว่าผมไม่ได้เห็นฉากนั้น) แต่ตามที่เพื่อนของผมเล่า คือ..
1.เท่าที่เห็น คนร้ายตัวเล็กกว่าเพื่อนผมและดูเหมือนจะไม่ค่อยแข็งแรงนัก
2.ไม่เห็นคนอื่นๆ ในที่เกิดเหตุ และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยเลย แต่เขาดูเหมือนชายอายุประมาณ 30 ปี และไม่ทราบภูมิหลัง ณ ตอนนั้นไม่แน่ใจด้วยว่าที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า! และมันเกิดเร็วมาก
3.มีบันไดสูงชันที่ทางเข้าและทางออกด้านนอก และมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสถ้าทั้งคู่ต่อสู้กัน
4.ไม่มีใครในร้านช่วยเพื่อนผมเลย รวมทั้งเสมียนพนักงานในร้านด้วย
5.ในที่สุดตํารวจก็มา แต่ใช้เวลามากกว่า 10 นาทีหลังจากเกิดเหตุการณ์
และนี่คือสถานการณ์ที่เพื่อนเล่าต่อ..
กว่าตำรวจจะมาใช้เวลานานมาก ตอนที่คนร้ายวิ่งมาทางเพื่อนนั้น... เพื่อนใช้มือคว้าฮู้ดหมวกคลุมศีรษะแล้วคนร้ายก็ใช้มือปัดและวิ่งหนีไปได้ เขารอจนตำรวจมาเพราะต้องเป็นพยานกับการสอบสวนร่วมกับผู้หญิงที่บอกว่าถูกลวนลามล่วงละเมิดทางเพศ กว่าจะเสร็จก็เสียเวลาไปกว่าครึ่งวัน ที่จริงเขามีความสุขที่หนังสือของเขาขายได้แต่เหนื่อยมากๆ แม้ว่าจะต้องการพักผ่อนในวันหยุดของตัวเองกลับต้องมาเจอเรื่องระทึก เมื่อกลับถึงบ้านลูกชายของเขาซึ่งกําลังอ่านหนังสือภาพไดโนเสาร์เล่มเก่า ล้อเลียนโดยพูดว่า "พ่อ เจ๋งมากไป ถ้าเป็นลูกนะจะวิ่งตามและจับมันให้ได้ (^^)!!"
เพื่อนผมทั้งตื่นเต้นและตะลึงในคราวเดียว เขารู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถจับคนร้ายได้ เราพูดกันว่าเราสองคนเป็นคนที่ดูไม่แข็งแรง แต่สาวมัธยมปลายที่ตะโกนด้วยความกล้าหาญนั้นยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยม (ร้านแบบนี้มีการขโมยของในร้านมาก โชคดีที่มีกล้องวงจรปิดหลายตัว และเมื่อเปิดกล้องดูก็เห็นภาพชัดเจนว่าคนร้ายลวนลามสาวจริงๆ) ถึงแม้ว่าในสถานการณ์นี้ไม่สามารถจับคนร้ายได้ ... (´・ω・)(・ω・`) ...
จากที่เพื่อนผมเล่ามา 5 ข้อด้านบน ข้อใดข้างต้นเป็นปัญหา มันน่าจะเป็นข้อ 5 ใช่เลย และข้อ 2 และ 4 ด้วย จุดประสงค์ของเพื่อนไม่ใช่เพื่อเอาชนะคนร้ายหรือเอาชนะใคร มันเป็นเพียงวิธีการชะลอ และสิ่งเดียวที่เพื่อนทําได้คือส่งเรื่องคนร้ายให้เป็นหน้าที่ตํารวจ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีความแตกต่างและความแข็งแกร่งทางร่างกายมากแค่ไหน ก็ดูจะเป็นเรื่องยากมากที่จะตามจับและเหนี่ยวรั้งชายคนร้ายไว้ได้นานเป็นสิบๆ นาทีจนกว่าตำรวจจะมา โดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพื่อนผมเล่าว่า
อย่างแรกเลยมันเป็นไปไม่ได้ที่จะยืนจับคนร้ายไว้ ถ้าจะจับต้องเอาเท้าขวางให้คนร้ายสะดุด (ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชายูโดที่ร่ำเรียนมาสักเท่าใดนัก ... (^-^;)) ถ้าจําเป็นต้องตะครุบกลิ้งลงบนพื้น แต่หากเข้าไปชนกระจกที่บริเวณทางเข้า เพื่อนผมก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย (ซึ่งต้องสูงกว่า 600 บาทแน่ๆ ...) เขาแนะนำเทคนิคการเคลื่อนไหวป้องกันตัวเล็กๆ น้อยๆ เช่น
นึกถึงท่าดั้งเดิมต่างๆ ของยูโด เช่น 払い腰 haraigoshi และ 体落としtaiotoshi เพื่อทําให้ตัวเอง คนร้าย และลูกค้ารอบตัวล้มลงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บในทางเดินแคบๆ หรืออาจเป็นการดีที่จะใช้ท่า 大外刈りoosotogari ท่าจับกดแล้วทุ่มเกี่ยวขาด้านนอก... → หากคนร้ายไม่สามารถรับ受け身 ukemi อาจจะทําอันตรายศีรษะและลำคอ และถ้าโชคร้ายอาจถึงตายได้เพราะพื้นแข็งมันไม่ใช่เสื่อทาทามิ!
แม้ว่าจะโชคดีพอที่จะไปได้ต่อโดยคิดว่าต้องไม่ทําร้ายกัน ไม่ปล่อยกันและต่อต้านศัตรู รออีก 10 นาทีกว่าตํารวจจะมา! ก็คงต้องพิจารณาเลือกท่า 上四方固 kamishihou gatame แต่...
เพื่อนผมพูดว่า ไม่ ไม่สิ ถ้าไอ้เจ้าคนร้ายถูกทําในสี่ท่าด้านบนแบบผู้ใหญ่ 18禁🔞 แบบนั้น! ..ลูกค้าคนอื่นๆ แทนที่จะช่วยกัน ..แต่ก็คงน่ากลัวเกินไปในอีกแง่หนึ่ง ดังนั้นคนร้ายอาจจะวิ่งหนีไปในทิศทางตรงกันข้ามในอีกแง่หนึ่ง! ผมหัวเราะมากๆ กับเพื่อนผม และก็มีความสุขที่ได้คุยกันจนความหงุดหงิดของเขาหายเป็นปกติ
→ เห็นได้ชัดว่ากําลังจับผู้กระทําผิดท่า袈裟固 kesa gatame มันไม่ใช่ทางเลือกเดียว → ถึงกระนั้นมันก็ต่อต้านอยู่ดี ในท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้เลย
ผม: คนที่ลวนลามแอบถ่ายกระโปรงของสาวมัธยมปลายในตอนกลางวันในวันธรรมดาก็คงว่างงานอยู่ไหม คงไม่มีอะไรจะเสีย ดังนั้นถ้าคนร้ายจนมุม อาจมีเทคนิคที่น่ากลัวที่สุดคือการใช้มีด🔪หรืออะไรทํานองนั้น Final Attack (゚д゚)
ถึงจะจับไม่ได้ก็ยังดีจริงๆ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ!
เพื่อน: ตามที่คาดไว้ เข้าใจมากๆ เกี่ยวกับความรู้สึกของการว่างงาน!
ผม: นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ว่างงาน! (^_^#)
ผมคิดว่าผมยังสามารถพูดคุยได้มากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่มันซับซ้อนเกินไป หากเป็นการแข่งขันยูโด หากกดคู่ต่อสู้เป็นเวลา 20 วินาทีด้วยเทคนิคการนอน มันคือหนึ่ง 一本!IPPON! มันเป็นชัยชนะ แต่กรณีนี้อีกตั้ง 10 นาทีกว่าตํารวจจะมา! ... ที่จริงตํารวจในจังหวัดมีเวลาว่างมาก ผมก็รู้สึกเสียใจกับสาวมัธยมปลายที่ถูกกระทำดังกล่าว และชื่นชมเพื่อนด้วย ผมภูมิใจในพฤติกรรมที่กล้าหาญของเพื่อน และดีใจจริงๆ ที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร...! วันนี้เล่าสู่กันฟัง พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ