เกียวโดนิวส์ (29 ก.ย.) ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้ากล่าวในวันพฤหัสบดีว่า การปล่อยน้ำกัมมันตภาพรังสีที่ผ่านการบำบัดชุดที่ 2 จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ จะเริ่มในวันที่ 5 ต.ค. มีแนวโน้มว่าจะก่อความขุ่นเคืองจากจีนอีก
โตเกียวอิเล็กทริกส์ พาวเวอร์ (Tokyo Electric Power Company Holdings Inc.) หรือ TEPCO วางแผนที่จะปล่อยน้ำกัมมันตรังสีที่ผ่านการบำบัดแล้วประมาณ 7,800 ตัน ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับการทยอยปล่อยครั้งแรกลงสู่ทะเลภายในระยะเวลาประมาณ 17 วัน
การเตรียมการจะเริ่มในวันอังคารหน้าเพื่อตรวจสอบระดับไอโซโทปเมื่อน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วเจือจางด้วยน้ำทะเลก่อนปล่อยออกมา
การปล่อยน้ำบำบัดชุดแรกเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ท่ามกลางความกังวลในหมู่ชาวประมงท้องถิ่น และการต่อต้านอย่างรุนแรงจากจีนได้แล้วเสร็จในวันที่ 11 กันยายน
แม้ว่าน้ำจะมีระดับความเข้มข้นของไอโซโทปต่ำกว่ามาตรฐานความปลอดภัยทั่วโลก แต่จีนได้ออกคำสั่งห้ามนำเข้าอาหารทะเลของญี่ปุ่นแบบครอบคลุม
รัฐบาลเรียกร้องให้ปักกิ่งยกเลิกการสั่งห้ามและมีส่วนร่วมในการอภิปรายตามหลักฐานเชิงประจักษ์ทางวิทยาศาสตร์กับผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองประเทศ ขณะเดียวกัน พยายามช่วยเหลืออุตสาหกรรมประมงในประเทศในการขยายจุดหมายปลายทางการส่งออกนอกเหนือจากจีน
จนถึงขณะนี้ยังตรวจไม่พบระดับไอโซโทปที่ผิดปกติในตัวอย่างน้ำทะเลหรือปลาที่เก็บมาจากบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
เทปโก และรัฐบาลยืนยันว่า การกำจัดน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วเป็นขั้นตอนสำคัญในการรื้อถอนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิในปี 2554
เนื่องจากปริมาณน้ำแปรรูปซึ่งเคยใช้ในการหล่อเย็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่หลอมละลายและผสมกับฝนและน้ำใต้ดิน เข้าใกล้ขีดจำกัดกำลังการเก็บกักของโรงไฟฟ้า จึงตัดสินใจเริ่มปล่อยน้ำประมาณ 31,200 ตันแบ่งใน 4 รอบระหว่างปีปัจจุบันจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า
ตามข้อมูลของเทปโก ไอโซโทปที่มีอยู่ในน้ำที่ปล่อยออกมานั้นคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 5 ล้านล้านเบคเคอเรล ซึ่งน้อยกว่าหนึ่งในสี่ของขีดจำกัดสูงสุดต่อปีที่ 22 ล้านล้านเบคเคอเรล