xs
xsm
sm
md
lg

ผู้นำกลาโหมจีนเห็นต่าง​ กต.​เซนกากุไม่ใช่ทุกสิ่ง​ในสัมพันธ์​จีน-ญี่ปุ่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ความคิดเห็นของรัฐมนตรีกลาโหมจีน หลี่ ซางฟู่ (ซ้าย) ตัวแทนของมุมมองของคณะกรรมาธิการการทหารกลางที่นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (นิกเคอิ/เกียวโด)
นิกเคอิ​ เผย​ (8​ มิ.ย.)​ พล.อ.หลี่ ซ่างฟู่ กล่าวในคำปราศรัยเกี่ยวกับหมู่เกาะเซนกากุที่ญี่ปุ่นปกครอง ว่า “ปัญหาเตียวหยู​ (เซนกากุ)​ ไม่ใช่ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นทั้งหมด” “ทั้งสองฝ่ายควรพิจารณาประเด็นนี้จากมุมมองระยะยาวและรอบด้าน”

โดยทั่วไป เมื่อผู้นำทางทหารของจีนกล่าวสุนทรพจน์ในงานทางการทูต​ จะใช้ท่าทีแข็งกร้าว และจะไม่ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มใหม่ในนโยบายต่างประเทศของปักกิ่ง​ ทว่าเมื่อ พล.อ.หลี่ ซ่างฟู่ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกลาโหมของจีน พบ ยาสึคาซู ฮามาริ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นที่สิงคโปร์ (Shangri-La Dialogue)​ เขาได้แสดงความคิดเห็นการทูตทางทหาร ในบริบทของความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความสนใจมาก

พล.อ.หลี่ ซ่างฟู่ กล่าวในคำปราศรัยเกี่ยวกับหมู่เกาะเซนกากุที่ญี่ปุ่นปกครอง ว่า “ปัญหาเตียวหยู​ (เซนกากุ)​ ไม่ใช่ทุกสิ่งในความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายควรพิจารณาประเด็นนี้จากมุมมองระยะยาวและรอบด้าน”

ความเห็นของหลี่แตกต่างจากนโยบายล่าสุดอย่างชัดเจน​ สำหรับผู้ที่สังเกตความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งยิ่งเพิ่มความประหลาดใจเมื่อเป็นความเห็นต่อหน้าสื่อต่างประเทศ​ 

นายพลหลี่ ได้เกริ่นนำถึงไต้หวันเป็นอันดับแรก “ปัญหาไต้หวันเป็นปัญหาภายในของจีน” เขากล่าว โดยแสดงความหวังว่าญี่ปุ่นจะปฏิบัติตามแถลงการณ์ 4 ฉบับที่ผ่านมาระหว่างสองประเทศ และโตเกียวจะไม่ส่ง “สัญญาณผิด” ไปยังกองกำลังในไต้หวันที่เรียกร้องเอกราช

แต่ประเด็นหมู่เกาะเซนกากุ เขาระบุว่านี่ไม่ใช่ทุกสิ่งในความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น​ พร้อมหยิบยกข้อเสนอของเขาไปไกลกว่าที่นักการทูตจีนกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา​ ในการพิจารณาจากมุมมองระยะยาวสองชาติ

ไม่ว่ายุทธศาสตร์ของปักกิ่งจะเป็นเช่นไร เป็นเรื่องไม่ปกติอย่างยิ่งที่เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจะแสดงความคิดเห็นที่สำคัญเช่นนี้ โดยพิจารณาว่าการทูตกับญี่ปุ่นเป็นขอบเขตอำนาจพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศจีนมาโดยตลอด

แต่อะไรจะสำคัญเท่ากับ​ว่า​ หลี่เป็นหนึ่งในสมาชิกเจ็ดคนของคณะกรรมาธิการการทหารกลาง นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดสำหรับกิจการทางทหาร

หลี่กำลังพูดในนามของคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง​

หากเป็นกรณีนี้ แสดงว่าสัญญาณของหลี่มีความสำคัญมากกว่าข้อความต่อต้านญี่ปุ่นทั่วไปที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศจีน และสะท้อนถึงนโยบายที่แท้จริง ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า​ สี​ จิ้นผิง ให้ความสำคัญกับกองทัพและความมั่นคงของชาติเป็นอย่างมาก

เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ประเด็นเรื่องเกาะนี้​มีผลทางการทูตจีนกับญี่ปุ่นมาตลอด จริงๆ แล้วเป็นกระแสหลักในช่วงจนถึงเดือนกันยายน 2555

กลุ่มหัวรุนแรงที่ต่อต้านญี่ปุ่นเริ่มมีกระแสมาตั้งแต่ราวปี 2551 ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจจีน​ กลุ่มต่อต้านญี่ปุ่นยืนกรานว่าจีนควรเลิกใช้ "การทูตที่อ่อนแอ" ในการเจรจาภายนอก

การเดินขบวนต่อต้านญี่ปุ่นเกิดขึ้นทั่วประเทศจีนในเดือนกันยายน 2555 หลังจากที่ญี่ปุ่นให้เกาะเซนกากุเป็นทรัพย์สิน​ของ​สาธารณะ​

ในปีนั้น ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา เยือนโตเกียวและตกลงกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยาสุโอะ ฟุคุดะ เพื่อร่วมกันพัฒนาแหล่งก๊าซในทะเลจีนตะวันออก

แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับกิจการภายในของจีนเคยเล่าว่า "หากข้อตกลงได้รับการปฏิบัติ ความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นจะไม่ตึงเครียดอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้"

กลุ่มต่อต้านญี่ปุ่นที่แข็งกร้าวต่อต้านข้อตกลงดังกล่าว ​

หลังจากต่อต้านข้อตกลงเรื่องแก๊สแล้ว กลุ่มผู้แข็งกร้าวก็ตั้งเป้าหมายที่เกาะเซนกากุซึ่งเป็นประเด็นพิพาทหลักกับญี่ปุ่น

ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลง ในปี 2553 เมื่อเรือประมงจีนชนกับเรือยามฝั่งญี่ปุ่น 2 ลำใกล้เซนกากุ สองปีต่อมา การเดินขบวนต่อต้านญี่ปุ่นได้ก่อตัวขึ้นทั่วประเทศจีน​ ครั้งใหญ่สุดนับหลังจากยุครวมชาติ

เมื่อสี​ จิ้นผิง​ ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุด จีนก็แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้นต่อเกาะเซนกากุ

ในปี 2561 หน่วยยามฝั่งของจีน ได้รวมเข้ากับกองกำลังติดอาวุธ​ภายใต้การบังคับบัญชาของคณะกรรมาธิการทหารกลาง

ในปี 2564 กฎหมายหน่วยยามฝั่งของจีนได้อนุญาตให้เรือของรัฐบาลจีนใช้อาวุธได้หากจำเป็น

นับแต่นั้น เรือของรัฐบาลจีนได้รุกน่านน้ำญี่ปุ่นรอบเกาะเซนกาก​ุ เป็นประจำ เรือเหล่านี้ได้รับคำสั่งโดยคณะกรรมาธิการ​การทหารกลาง​ อย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่ ซ่างฟู่ (ซ้าย) จับมือกับยาสึคาซู ฮามาริ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน (ภาพเกียวโด)
บทวิเคราะห์​คัทสึจิ​ นากาซาวะ​ หัวหน้าสำนักข่าวจีนของนิกเคอิ​ หลังประจำอยู่ที่ประเทศจีนนาน 7 ปี​ ผู้รับรางวัล Vaughn-Ueda International Journalist ในปี 2014​​ กล่าวว่า เหตุที่ผู้นำฝ่ายกลาโหมของจีนกล่าวถึงปัญหานี้ก่อน​ น่าจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เลวร้ายรอบๆ ประเทศจีน ความโดดเดี่ยวของปักกิ่งปรากฏให้เห็นเต็มตาในสิงคโปร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีรัสเซีย

หลี่ปฏิเสธที่จะนั่งข้างรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน เนื่องจากสหรัฐฯ ยังคงคว่ำบาตรนายพลจีนรายนี้ และการมีปฏิสัมพันธ์​เพียงอย่างเดียวของ หลี่​ กับ ออสติน คือการจับมือกันก่อนอาหารค่ำ​ 

ในขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เดินหน้าให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครน การที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังกระชับความสัมพันธ์จับมือกันเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่ากังวลสำหรับจีน

หากหลี่ปฏิเสธที่จะพบญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย ความโดดเดี่ยวคงจะชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงได้แยกตัวไปเปิดสายคุยกับรัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่น และเกาหลีใต้​ ​

อย่างไรก็ตาม​ แม้ว่าหลี่และออสตินจะไม่ได้พบกันโดยตรง แต่คาดว่าทั้งสองประเทศจะติดต่อในระดับล่างในสิงคโปร์เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน​

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน มีการประชุมระดับสูงระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนในกรุงปักกิ่ง​ แดเนียล​ คริทเทนบริงค์​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ได้พบกับเจ้าหน้าที่จีน รวมถึง หม่า​ จ้าวซู่​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งการประชุมเป็นไปด้วยดี

ท้ายที่สุดแล้ว เศรษฐกิจเป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญที่สุดของความมั่นคงของจีน แม้ว่าจีนจะยอมโอนอ่อนผ่อนตามไต้หวันไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ที่ถดถอยยิ่งขึ้นกับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้อาจส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจจีน และญี่ปุ่นเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของสหรัฐฯ สำหรับปักกิ่ง

ญี่ปุ่นกำลังเฝ้าดูการทูตทางทหารนำของจีนนี้อย่างระมัดระวัง การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในภาษาทางการทูตอาจบอกเป็นนัยถึงความเปลี่ยนไป แต่โตเกียวก็ไม่อาจแน่ใจได้ และยังไม่น่าเป็นไปได้ที่เรือของจีนจะลดการกระทำอันเป็นการยั่วยุรอบๆ เกาะเซนกากุ

สำหรับตอนนี้ก็รอดูกันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น