เกียวโดนิวส์รายงาน (25 เม.ย.) ชาวญี่ปุ่นทุกคนที่ประสงค์จะอพยพออกจากเมืองหลวงของซูดานที่มีความขัดแย้ง จะได้รับการอพยพออกมาทั้งหมด นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวเมื่อวันอังคาร ขณะที่การหยุดยิงรอบใหม่ 72 ชั่วโมง ระหว่างกองทัพซูดาน และกองกำลังกึ่งทหารมีผลบังคับเมื่อเที่ยงคืนวันจันทร์
ผู้อพยพ 45 คน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกครอบครัวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่เดินทางจากคาร์ทูมไปพอร์ตซูดานทางบก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อโดยสารเครื่องบินของกองกำลังป้องกันตนเองไปจิบูตี ยังมีอีก 8 คน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกครอบครัวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้เดินทางออกจากซูดานในวันอังคารจากฐานทัพทางตอนเหนือของคาร์ทูมโดยความร่วมมือกับรัฐบาลฝรั่งเศส
คิชิดะกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักงานของเขาว่า “รัฐบาลจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในซูดาน และรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาด้วยการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง” ผ่านสำนักงานที่ตั้งขึ้นในจิบูตี
ต่อมา เมื่อวันอังคาร ฮิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงข่าวว่า พลเมืองญี่ปุ่นรายหนึ่งที่ต้องการอพยพออกจากซูดานยังคงอยู่ในภาคใต้ของประเทศ ซึ่งสถานการณ์ค่อนข้างคงที่
ในขณะเดียวกัน โฆษกระดับสูงของรัฐบาลกล่าวว่า ชาวญี่ปุ่นหลายคนยังคงพำนักอยู่ในซูดาน เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องการออกจากประเทศด้วยเหตุผลหลายประการ พร้อมเสริมว่ารัฐบาลยังคงติดต่อกับพวกเขาอยู่ และพวกเขาไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ
กระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ได้ปิดสถานทูตญี่ปุ่นในซูดานเป็นการชั่วคราวหลังจากเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางออกจากประเทศ
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ก่อนหน้านั้น ชาวญี่ปุ่นอีก 4 คน และสมาชิกครอบครัวที่ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น 1 คนได้เดินทางมาถึงจิบูตี และเอธิโอเปียด้วยความร่วมมือของฝรั่งเศสและสภากาชาดสากล
มัตสึโนะ กล่าวว่า ผู้ที่มาถึงจิบูตีไม่มีปัญหาสุขภาพร้ายแรง แม้ว่าพวกเขาจะดูเหนื่อยล้า เขาเสริมว่าชาวอเมริกัน แคนาดา และซูดานเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่อพยพพร้อมกับพลเมืองญี่ปุ่น โดยไม่ได้ระบุจำนวนที่ชัดเจนเป็นรายประเทศ
ในขณะที่การสู้รบยังคงทวีความรุนแรงขึ้นในซูดาน หลายประเทศพยายามอพยพพลเมืองชาติของตน
อิตาลีกำลังอพยพผู้คนหลายร้อยคน รวมถึงชาวต่างชาติอื่นๆ ขณะที่เยอรมนีเริ่มนำพลเมืองของตนมากกว่า 300 คน เดินทางออกมา ตามรายงานของสื่อ