สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว สุขสันต์วันสงกรานต์และสวัสดีปีใหม่ไทยครับ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง โชคดี และมีความสุขไปตลอดปี ตลอดไปนะครับ ช่วงนี้ผมมาอยู่จังหวัดทางใต้ที่มีทะเลสวย มีอาหารอร่อยๆ มากมาย มาพักอยู่ที่ห้องที่บริษัทจัดให้เป็นห้องแบบสตูดิโอโรงแรมเล็กๆ น่ารักก็สบายในระดับหนึ่ง แต่พออยู่ไปสักเดือนมีปัญหาเรื่องโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งที่ทำให้ผมปวดหลังมากๆ ที่จริงเขาคงจะออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับการมาพักวันสองวันซึ่งจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าต้องมาอยู่เป็นเดือนๆ แบบนี้ทำให้มีอาการปวดหลังได้เหมือนกัน ระดับความสูงของโต๊ะเก้าอี้มีผลอย่างมากกับความสูงของผู้ใช้ ถ้าไม่เหมาะจะรู้สึกว่าปวดหลังปวดคอ เป็นปัญหาเหมือนกันครับ
ตอนที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยมีอาจารย์ที่สอนวิชาจัดกระดูกพูดว่า โรคที่คนญี่ปุ่นเป็นกันมากที่สุดคือโรคปวดเอว ぎっくり腰 Gikkuri goshi คล้ายๆ โรคออฟฟิศซินโดรมเหมือนกันแต่มันสามารถเกิดได้แบบกะทันหันด้วย จะมีอาการปวดเอวจากกระดูกเคลื่อนอย่างกะทันหัน และทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง ทางการแพทย์เรียกว่า "อาการปวดหลังปวดเอวเฉียบพลัน" สาเหตุของปวดเอวจากกระดูกเคลื่อนเป็นปัญหาของกระดูกอ่อนรอบกล้ามเนื้อกระดูกสันหลังเคลื่อนหรืออักเสบจะเกิดขึ้นเมื่อยกของหนัก การยืน เดิน นอน นั่งผิดท่า หรือแม้แต่ไอจามแรงๆ สามารถเกิดขึ้นกับทุกคน และอาจเกิดปวดจนเรื้อรังขั้นสูง ผมคิดว่าคนญี่ปุ่นน่าจะเป็นโรคเอวเคลื่อนมากกว่าคนไทยเพราะว่าไม่ค่อยได้ยินเพื่อนคนไทยบ่นว่าปวดเอวกันนัก
อาจารย์ที่สอนวิชาจัดกระดูกสอนวิชา カイロプラクティック chiropractic ท่านก็จบมหาวิทยาลัยเดียวกับผม และเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องกระดูกมาก ที่จริงอาจารย์เปิดคลินิกด้วย และคลินิกประเภทนี้ไม่สามารถใช้ประกันสุขภาพใดๆ มาเป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายได้ ค่ารักษาจึงค่อนข้างสูง ถ้าไม่ได้เป็นนักเรียนในห้องเรียนนี้คงต้องเสียเงินประมาณครั้งละ 30,000 เยน แต่ในชั้นเรียนอาจารย์ทั้งสอนและจัดกระดูกให้ในห้องเลยถือว่าดีมากๆ ครับ
カイロプラクティック Chiropractic ศาสตร์แห่งการจัดกระดูก เป็นศาสตร์ที่มีมามานแล้ว และได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยเชื่อว่าธรรมชาติของร่างกายจะมีกลไกที่ช่วยทำให้ร่างกายหายจากการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดข้อ ปวดคอ ปวดหลัง ข้อเสื่อม เอ็นอักเสบ ภูมิแพ้ หอบหืด ระบบย่อยอาหาร เป็นต้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยา ศาสตร์นี้เน้นกลไกทางชีวะ biomechanics โครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกสันหลังที่มีผลต่อกล้ามเนื้อระบบประสาท หลายประเทศเชื่อว่าการรักษาโรค เช่น อาการปวดหลัง หรือปวดเอว ด้วยวิธี Chilopractic นั้นปลอดภัยและคุ้มค่าเงินที่สุดด้วยครับ
ตอนที่เรียนอาจารย์จะให้ทำแบบสอบถามก่อน คือการเขียนข้อมูลการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน คำถามของอาจารย์มีแต่คำถามที่นักเรียนจะงง และไม่เข้าใจว่าถามไปทำไม เช่น ใส่กางเกงด้วยขาไหนก่อน เป็นนักกีฬาหรือเปล่า เป็นต้น แต่ทุกคนควรตอบคำถามตามความเป็นจริง ซึ่งบางคนเป็นนักกีฬา อาจารย์จะมาจับหลังแล้วจับกระดูกดูก็รู้ว่าเล่นกีฬาชนิดไหน หรือบางคนที่ไม่ชอบกีฬาเลยและไม่เล่นกีฬาเลยก็ให้ตอบไปตามความเป็นจริงเพราะไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอายใดๆ ทั้งสิ้น
เริ่มแรกที่ผมเข้าไปในคลาสเรียน ตอนนั้นผมบอกอาจารย์ว่าก่อนหน้านี้ผมไม่เคยไอเรื้อรังเลย แต่หลังจากที่ไปปาร์ตี้กับรุ่นพี่แล้วก็นั่งเก้าอี้ผิดท่า และในห้องนั้นมีคนสูบบุหรี่ตลอดเวลาทำให้ผมไอมาจนถึงวันที่เรียนกับอาจารย์ อาจารย์จึงเรียกให้ผมมาเป็นเคสตัวอย่างคนแรกในชั้นเรียนครับ และให้ผมนอนคว่ำแล้วอาจารย์เอาทิชชู่มารองบริเวณหน้าและปาก ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจว่าเพื่ออะไร หลังจากนั้นอาจารย์เอามือมากดที่หลังผม แล้วเหมือนมีจังหวะหนึ่งที่กดลงไปแบบใช้พลังฝ่ามือแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ผมรู้สึกเหมือนสำลักอะไรออกมา และผมก็ไม่ไอเลยตั้งแต่ตอนนั้น พออาจารย์ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมบอกว่าหายแล้ว ทุกคนในชั้นเรียนแปลกใจและลุกขึ้นยืนปรบมือตามๆ กัน
ตอนนั้นอาจารย์อายุ 75 ปีแล้วนะครับ แต่ยังดูอ่อนกว่าไว ไม่อ้วนไม่ผอมและดูแข็งแรง มีสุขภาพดีมาก อาจารย์บอกว่าเดี๋ยวนี้คนเราไม่ค่อยเดิน ไม่ค่อยมีกิจกรรมกับร่างกาย ส่วนใหญ่จะติดนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสืออะไรก็ตาม และไม่รู้ตัวว่ากำลังนั่งผิดท่าหรือนั่งหลังค่อม นั่งหลังงออยู่ พวกนักศึกษา ม.วาเซดะส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน พักอยู่ไม่ไกลจากแถวนั้นเท่าไหร่ แต่อาจารย์บอกว่า พวกเธอเนี่ยไม่ยอมเดินมาเรียนแต่นั่งรถบัส 200 เยนมา เสียทั้งเงินและเสียสุขภาพด้วย คนเราต้องเดิน ปรับความสมดุลของร่างกายให้ถูกต้อง
นั่นคือเรื่องเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้วนะครับ ซึ่งแค่การทำหลังให้ตรง ให้สมดุลอย่างเดียวก็ยากแล้ว แต่ปัจจุบันนี้เราไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์อย่างเดียวเหมือนสมัยนั้น เรามีสมาร์ทโฟน และทุกคนติดมือถือกันมาก จึงมีปัญหาใหม่ขึ้นมานั่นคือพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความผิดปกติของกระดูกคอ หรือ Straight Neck ครับ นี่แหละที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาพูดในครั้งต่อไปนะครับ
เพราะการใช้ชีวิตประจำวันนั้นมีผลกับโครงสร้างของกระดูกทั้งสิ้น บางคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่า การที่เรานั่งไขว่ห้างจะทำให้เกิดโรคท้องเสียได้ นอกจากนั้น อาจารย์ยังสมมติตัวอย่างให้ฟังว่า แค่ท่วงท่าการเดิน หรือเราใส่กางเกงแบบเดิมทุกวันๆ ก็ส่งผลต่อกระดูกได้ เช่น คนที่ถนัดขวาก็จะยกขาขวาขึ้นก่อน คนที่ถนัดซ้ายก็จะยกขาซ้ายขึ้นก่อน ซึ่งทำอย่างนี้ไป 365 วันในหนึ่งปีมีผลต่อกระดูกครับ ถ้าเรายกขาขวาก่อนทุกวันๆ กระดูกจะเคลื่อนไปทางซ้ายมากกว่า ดังนั้นเราควรบริหารร่างกายโดยการยกแขนขาข้างตรงข้าม เบี่ยงตัวด้านตรงข้ามบ้างให้สลับกันไป เพื่อให้เกิดความสมดุลของโครงกระดูก ให้ร่างกายได้มีการจัดทรงอย่างสมดุล
และต้องระมัดระวังวิธีการเดินนั่งในวิถีชีวิตประจำวันด้วย ต้องทำให้ถูกวิธี คือยืดตัวให้ตรง ไม่เดินก้มหน้า เวลานั่งควรนั่งด้วยท่านั่งธรรมดา ขาปล่อยตรงตามสบายทั้งสองข้าง หลังติดเบาะเก้าอี้ ปรับความสูงต่ำของเก้าอี้ และโต๊ะทำงานให้เหมาะสม อย่านั่งท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ให้ลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ และอาจารย์ให้ทริกง่ายๆ เบื้องต้นเลยคือ เมื่อคนเราอายุมากขึ้นและทำกิจกรรมต่างๆ มานาน กระดูกเราจะโน้มไปด้านหน้าเรื่อยๆ ดังนั้น ให้เราออกกำลังกายโดยปรับเอนกระดูกสันหลังไปด้านตรงข้ามคือด้านหลัง ผมมักจะเหยียดมือกางไปด้านหลังเหมือนนกกางปีกครับให้ค่อยๆ ดัดให้กระดูกไปข้างหลังทุกวันๆ ซึ่งผมเองทำท่านี้วันละเล็กวันละน้อยทุกวันตั้งแต่นั้นมา วันนี้เล่าสู่กันฟังครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ