สวัสดีครับผม Mr.Leon มาแล้ว ในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี ที่เรียกกันว่าวัน April Fool's Day หรือวันโกหก ผู้คนในหลายประเทศจะเล่นมุกตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน และตามสำนักพิมพ์หรือสื่อต่างๆ อาจจะมีรายงานเรื่องหลอกลวงในวันนั้นและออกมาเฉลยในวันต่อมา สำหรับประเทศญี่ปุ่นก็มีเล่นหยอกและพูดเขียนหลอกๆ กันใน SNS เหมือนกันนะครับ รวมทั้งในหนังสือพิมพ์บางฉบับก็เล่นด้วย มีเรื่องน่าสนใจอ่านแล้วรู้สึกตลกดี คือเรื่องที่มีคนไปถามคำถามแชตบอต ChatGPT
คิดว่าเพื่อนๆ คงจะเคยได้ยินแชตบอตจีพีที (ChatGPT) เป็นแชตบอตที่ว่ากันว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการสนทนาตอบโต้อย่างชาญฉลาด เป็น AI สุดอัจฉริยะที่เป็นโมเดลภาษาที่ได้รับการพัฒนาอย่างละเอียด ทั้งการควบคุมและเทคนิคการเรียนรู้ที่สามารถช่วยหาคำตอบได้มากกว่าการเสิร์ชค้นหาข้อมูลทั่วไป แต่ยังสามารถวิเคราะห์ สรุป รวบรวมข้อมูลได้อย่างแม่นยำและครอบคลุม ที่สำคัญสามารถโต้ตอบกับผู้ค้นหาได้อีกด้วย และที่เป็นกระแสไวรัลเพราะมีผู้คนเข้าไปถามตอบข้อมูลจำนวนมาก
แล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา มีคนญี่ปุ่นถามแชตบอตไปว่า “วันนี้วันที่ 1 เมษายนเป็นวัน April Fool's Day ไหนลองพูดเรื่องที่เป็นเรื่องโกหกมาหน่อยสิ?”
แชตบอต ChatGPT ตอบว่า “AI มีจรรยาบรรณในโปรแกรมไม่สามารถโกหกได้! กรุณาสอบถามเรื่องอื่นๆ “
ชาว SNS เลยหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่ เพราะจำได้ว่าบางทีถ้าถามคำถามยากๆ AI ก็ตอบมาแบบแปลกๆ เพี้ยนๆ เหมือนกัน! ดังนั้นเมื่อ AI ตอบออกมาในลักษณะที่ว่าตัวเองมีจรรยาบรรณในโปรแกรมไม่สามารถโกหกได้ คนที่ถามเลยบอกว่าอ้าวจริงหรอ!?(*´꒳`*)
นอกจากวันที่ 1 เมษายนจะเป็นวัน April Fool's Day แล้ว ที่ประเทศญี่ปุ่นถือว่าในวันที่ 1 เมษายนเป็นวันแห่งการเริ่มต้นการศึกษาใหม่วันแรก และเป็นวันเริ่มเข้างานวันแรกสำหรับพนักงานใหม่ในบริษัทต่างๆ จึงมีคนตั้งประเด็นพูดคุยเปรียบเทียบกับ AI เช่น
● ถ้ามีคนเอา AI เข้าไปห้องสอบด้วย เพื่อไว้ถามคำถามต่างๆ คงจะดี?! แต่สถานศึกษาตอบว่ายังไม่อนุญาตเพราะว่า AI หัวดีเกินไป
● แล้วถ้าจะเอา AI เข้ามาใช้งานในอุตสาหกรรมบริษัทต่างๆ นั้นจะเป็นอย่างไร? เรื่องนี้มีแนวโน้มมาก ไม่แน่ว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าทุกอย่างอาจจะกลายเป็นโลกของ AI ไปแล้วก็ได้ ซึ่งอาจทำให้คนตกงานอีกเป็นจำนวนมาก
● เรื่องของการโยกย้ายตำแหน่งงาน อยากจะถามความคิดเห็น AI จะตอบได้ไหม? เรื่องเกี่ยวกับความคิดเห็นเช่นนี้คนยังยอมรับคำปรึกษาและแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ จากการแชร์และปรึกษาหารือกันในเว็บไซต์ที่น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าข้อมูลจาก AI เช่น ก่อนหน้านี้คนญี่ปุ่นอายุประมาณ 40 ปีจะตกงานกันเป็นจำนวนมาก บางคนทำงานในร้านสะดวกซื้อ แต่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยให้คนอายุ 40 ปีมารับราชการ จึงมีบุคคลภายนอกจำนวนมากที่ยังไม่เคยรับราชการมาก่อนให้ความสนใจ แต่คนที่เคยรับราชการอยู่แล้ว เขาจะรู้ว่าระบบภายในเป็นอย่างไร การทำงานเป็นอย่างไร สังคมเป็นอย่างไร ก็จะเอาข้อมูลมาแชร์มาบอกเล่ากัน ทำให้คนทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อมูลที่ถูกต้องมากกว่าการวิเคราะห์จาก AI
● หรือเรื่องระบบการทำงานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ที่มักจะรักษาภาพลักษณ์ของลูกค้ามาก ใครๆ ก็อยากเข้าไปทำงานด้วย แต่ความเป็นจริงแล้วอาจจะมีมุมมืดหรือมุมมองบางอย่าง ทั้งเรื่องระบบการทำงานที่เรียกว่า แบล็ก! ซ่อนอยู่ หรือนำมาพูดออกสื่อในสังคมไม่ได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้ AI จะไม่ทราบข้อเท็จจริง คนที่มีประสบการณ์และคนที่อยู่ภายในเท่านั้นที่จะรู้เพราะมีประสบการณ์มากกว่า
● หรือมีข่าวว่ามีคนอยากเป็นแอร์โฮสเตสกันมาก แต่คนนอกอาจจะไม่รู้ว่างานมีความยากลำบากหรือความกดดันต่างๆ มากแค่ไหน การทำงานบนเครื่องบินที่ต้องปรับเปลี่ยนนาฬิกาชีวิตบ่อยๆ อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติของระบบต่างๆ ในร่างกายก็ได้ ซึ่งคนทั่วไปก็ไม่รู้ คนในเท่านั้นที่จะมาแชร์ข้อมูลได้ถูกต้องกว่า AI
● ก่อนหน้านี้มีข่าวดัง ประเด็นการทำงานที่ร้านเครื่องดนตรีชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีสาขาอยู่ในห้างใหญ่หลายแห่ง มีคนมาแชร์ระบบการทำงานด้วยความยากลำบากหลายๆ อย่าง เช่น ทำงานจนดึกดื่กหรือหลักการประเมินพนักงานคือ ต้องขายสินค้าให้ได้ยอดแค่นั้นเอง และเรื่องการแย่งลูกค้ากันเองเพื่อที่จะทำยอดขายทำให้เกิดการเขม่นกันภายในของพนักงาน แม้ว่าจะเข้ามาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ก็จะต้องมียอดขายขั้นต่ำต่อเดือนเท่าไหร่ๆ ต้องขายให้ได้เท่าไหร่ๆ เป็นต้น มีความกดดันและยากลำบากมาก คนในเท่านั้นถึงจะรู้
มีคนกล่าวว่า การที่ AI ที่มีสมองอัจฉริยะเข้ามาในวิถีชีวิตมนุษย์ มันมีส่วนทำให้ระบบต่างๆ ของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปด้วย และกลายเป็นเรื่องแบล็กๆ ในที่สุด เช่น สมัยก่อนที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์หรือไม่มีการแชร์ข้อมูลในโลกออนไลน์กัน ก็ไม่มีใครรู้ว่าราคาของเปียโนแต่ละรุ่นราคาเท่าไหร่ ลูกค้าไปหน้าร้านพนักงานก็ขายไปตามราคากลาง แต่หลังจากที่ลูกค้ารู้ราคาของที่นั่นที่นี่แล้ว จึงทำให้เกิดการแข่งขันการขายกันในรูปแบบต่างๆ มากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ชีวิตคนเราหรือการทำงานใดๆ เป็นการทำหน้าที่ตามบทบาทต่างๆ ย่อมต้องเจอสิ่งที่ยากลำบากอยู่เป็นปกติ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ในบริษัทที่เขาว่าดีมาก มีสวัสดิการดีมาก หรือเป็นบริษัทที่สภาพแวดล้อมดีมากก็ตาม แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อาจจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากบ้าง บางบริษัทก็ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับแต่ปัจจุบันมีระบบโครงสร้างบางอย่างเริ่มผิดเพี้ยนไปแล้ว และยังมีการแชร์ข้อมูลข่าวสารกันในโลก AI โลกของ SNS กันมาก แต่อย่างไรก็ตาม คนญี่ปุ่นยังชอบฟังความคิดเห็นและคำแนะนำประสบการณ์จากคนที่มีประสบการณ์หรือรุ่นพี่อยู่ วันนี้เล่าสู่กันฟังนะครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
