สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว ช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นฉลองปีใหม่เรียกว่ามัตสึโนะอุจิ 松の内 Matsu no uchi คือช่วงเวลาตั้งแต่ต้นเทศกาลปีใหม่จนกระทั่งสิ้นสุดซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปแต่ละภูมิภาค เช่น ภูมิภาคคันโต โทโฮคุ และคิวชูมักจะถึงวันที่ 7 มกราคม ภูมิภาคคันไซถึงวันที่ 15 มกราคม แต่ในสมองคนทำงานส่วนใหญ่ก็ยังสั่งการว่า 1-15 มกราคมยังอยู่ในระยะเริ่มต้นปีใหม่อยู่นะ แม้จะเปิดเรียนหรือเริ่มทำงานทำการกันแล้วแต่ก็ยังทำแบบผ่อนๆ กันอยู่ ส่วนตามร้านค้าต่างๆ ก็ยังวางคาโดมัทสึ* ที่หน้าร้านจนถึงวันที่ 15 ของเดือนมกราคมเช่นกัน
คาโดมัทสึ 門松kadomatsu คือกิ่งไม้มงคลประดับตั้งไว้หน้าประตูในช่วงปีใหม่ เป็นของมงคลตกแต่งปีใหม่แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมโดยประกอบด้วยไม้สนและไม้ไผ่และต้นพลัม มีจุดประสงค์เพื่อต้อนรับวิญญาณบรรพบุรุษหรือคามิแห่งการเก็บเกี่ยว คาโดมัทสึมักจะวางเป็นคู่หน้าบ้านหรืออาคารร้านค้าต่างๆ เชื่อกันว่าเทพเจ้าประทับอยู่บนยอดไม้ดังนั้นคาโดมัทสึจึงมีความหมายว่าโยริชิโระ เพื่อต้อนรับเทพเจ้าเข้ามาในบ้าน
ในช่วงเวลามัตสึโนะอุจิที่บางคนยังกินเลี้ยงและแจกของขวัญกันอยู่ดีๆ เมื่อวันที่ 14 มกราคมก็มีข่าวฆ่าตัวตายของครอบครัวหนึ่งน่าสลดใจมาก วันนี้ผมคิดว่าผมจะคุยเรื่องชินจู 心中 shinjū หรือใช้ในความหมายที่ว่าการชวนคนที่รักไปฆ่าตัวตายด้วยกันและเสียชีวิตสมใจทุกคน ถ้าคนใดคนหนึ่งยังไม่เสียชีวิตก็ไม่เรียกว่าชินจูนะครับ ซึ่งผมคิดว่าคงมีอีกหลายเรื่องที่คนไทยและคนต่างชาติไม่เข้าใจญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง บางเรื่องก็แปลกและเข้าใจยากจริงๆ ครับ เช่นเรื่องชินจู 心中 นี่แหละครับ
ข่าวเกิดขึ้นที่จังหวัดยามากาตะ เมื่อเวลา 8.00 น. ของวันที่ 14 มกราคม พบชายคนหนึ่งและเด็กชายก่อนวัยเรียนอีกสอง รวมทั้งหมด 3 คน หมดสติในห้องน้ำในบ้านพักส่วนตัว และภายหลังได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตทั้งหมดเพราะขาดอากาศหายใจ ตํารวจกําลังสืบสวนเพิ่มเติมเพราะมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะบังคับเด็กๆ ฆ่าตัวตายแบบชินจู โดยพบเตาอั้งโล่มีร่องรอยการติดไฟวางอยู่ในที่เกิดเหตุคือห้องอาบน้ำซึ่งเป็นสถานที่ปิด มีประเด็นที่คนใน SNS พูดกันคือ ลูกเล็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องถูกบังคับให้มาร่วมฆ่าตัวตายกับพ่อหรือไม่
วันนั้นตำรวจได้รับโทรศัพท์แจ้งจากญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่อาศัยในที่บ้านพักหลังใหญ่ที่เกิดเหตุ เมื่อหน่วยดับเพลิงและทีมกู้ภัยมาถึงก็ตรงไปที่ห้องอาบน้ําของบ้านหลังนี้ พบผู้ชายอายุประมาณ 30- 40 ปีที่คาดว่าเป็นพ่อของเด็กๆ และเด็กชายก่อนวัยเรียนอีกสองคน หมดสติล้มลงในห้องอาบน้ําของบ้าน แม้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตทั้งหมด ตามที่เพื่อนบ้านให้ข้อมูลบ้านนี้มีพ่อและลูกชายอีกสามคนอาศัยอยู่ด้วยกัน (ข่าวไม่ได้พูดถึงแม่ของเด็กเท่าไหร่นัก) ซึ่งภาพข่าวที่นำมาเสนอนั้นค่อนข้างเป็นบ้านใหม่หลังใหญ่ แต่มีข่าวการเสียชีวิตเกือบยกครัวแบบนี้ ทุกคนที่อ่านข่าวก็รู้สึกตกใจมาก บางคนบอกว่าพ่อคงรักลูกมากจึงชวนลูกที่รักไปเสียชีวิตด้วยกัน แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นความรักแล้วชวนกันไปตายแบบนี้นะ ส่วนลูกชายคนโตเป็นเด็กวัยประถมศึกษาเป็นคนที่พบพ่อและน้องชายนอนหมดสติอยู่ คงจะจิตตกและเศร้าใจมากแน่นอน ซึ่งน่าสงสารมาก ในกรณีแบบนี้ถ้าลูกสองคนเสียชีวิตแต่พ่อรอด พ่อจะต้องถูกดำเนินคดีและติดคุกในข้อหาฆ่าคนตายนะครับ แต่ว่าถ้าเสียชีวิตทั้งหมด คนญี่ปุ่นบางคนเห็นว่าพ่อได้ทำเรื่องที่ดี!! ซึ่งผมรู้สึกไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก
แม้กรณีที่ไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกัน อาจจะเป็นแฟนเป็นคู่รักกัน ชักชวนกันไปฆ่าตัวตายเสียชีวิตด้วยกันจะวิธีไหนก็ตาม ไม่ว่าจะโดนหลอกลวงมาฆ่าตัวตายด้วยกัน หรืออะไรก็ตาม ถ้าตายทั้งคู่บางคนยังเชื่อว่าคงเพราะรักกันจริงๆ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่น่าใช่นะครับ!!
ซึ่งประเด็นการฆ่าตัวตายในประเทศญี่ปุ่นก็อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า มีคนฆ่าตัวตายค่อนข้างเยอะสมัยก่อนเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ชายหนุ่มอายุประมาณช่วงวัย 30 ปีเป็นช่วงวัยที่ฆ่าตัวตายมาก แต่ว่าวัยอื่นๆ ก็มีรุ่น 50 กว่าปีอยู่มากเหมือนกันแต่คนจะไม่ค่อยรู้สึกสะเทือนใจอะไรมากนัก แต่หลังจากที่มีวิกฤตโรคโควิด 19 แพร่ระบาดในช่วงระยะเวลาสองสามปีที่ผ่านมานี้มีผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมากฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น ซึ่งคนญี่ปุ่นรู้สึกเห็นใจและสะเทือนใจกับข่าวที่มีผู้หญิงฆ่าตัวตายมากกว่าผู้ชาย
จากข่าวพ่อลูกรมควันฆ่าตัวเสียชีวิตนั้น ดูเหมือนเป็นครอบครัวที่มีอันจะกิน มีบ้านหลังใหญ่โต มีครอบครัวที่มีลูกพร้อมหน้าพร้อมตา ดูเหมือนจะมีความสุขแต่ก็จบชีวิตตัวเองด้วยเหตุน่าเศร้า ซึ่งบางทีเราก็ไม่รู้ว่าคนแต่ละคนมีปัญหาหรือมีภาวะความเครียดอะไรหรือไม่ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้คนญี่ปุ่นฆ่าตัวตาย ถ้าเป็นผู้ชายมักจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสุขภาพ และไม่ค่อยมีคนฆ่าตัวตายจากปัญหาความรักสักเท่าไรนัก
นอกจากนี้ยังมีคอมเมนท์ที่มาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น “ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเลือกความตายหยิบยื่นให้เด็กเล็กๆ แบบนี้ เขาคงไม่ได้ปรึกษากับญาติสนิทและเพื่อนบ้างเลยเหรอ? นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เจ็บปวดและน่าเศร้าจริงๆ โดยแลกกับชีวิตอันมีค่า แล้วลูกชายคนโตที่ถูกทอดทิ้งไว้จะอยู่อย่างไร!? อย่างไรก็ตามเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของแต่ละครอบครัว และอาจจะมีสิ่งยากๆ มากมาย เขามีความทุกข์อะไรที่ทำให้อยากปลิดชีวิตตัวเองและลูกๆ หรือแค่เพียงจบปัญหาหรืออยากบอกอะไรกับสังคม ”
คงเพราะมีความเคร่งเครียดกดดันมากเกินจะรับไหวทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงมาก คนที่ฆ่าตัวตายมักมีความทุกข์มากและหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ แต่บางเหตุผลก็อาจจะเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเลยก็ได้ มีผู้เชี่ยวชาญระบุว่าปัญหาการฆ่าตายมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน เช่นความโดดเดี่ยว ที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ปัญหาสุขภาพ ปัญหาการเงินและการใช้ชีวิต ปัญหาอื่นๆ เป็นต้น จากเดิมที่การฆ่าตัวตายเคยถูกมองว่าเป็นปัญหาส่วนตัว ปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นปัญหาสังคมไปแล้วครับ อย่างไรก็ตามเราหวังว่าทุกคนจะดำเนินชีวิตด้วยความเข้มแข็งและมีสติครับ วันนี้เล่าสู่กันฟัง สวัสดีครับ