xs
xsm
sm
md
lg

Inside Tohoku – วงเล่าเม้าท์เรื่องวงในทริปโทโฮคุของรุจ ศุภรุจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ความสนุกของการเดินทางอยู่ที่ตรงไหนบ้าง? นอกจากช่วงเวลาที่ได้ใช้ในสถานที่จุดหมายปลายทางและพบปะผู้คนอยู่ตรงนั้นแล้ว ช่วงเวลาของการนั่งล้อมวงเล่าเรื่องที่พบเจอในการเดินทางคงเป็นอีกช่วงเวลาที่สนุกไม่แพ้กัน และยังเป็นช่วงเวลาที่ผู้เดินทางได้ส่งต่อความสนุกและเสน่ห์ของการเดินทางให้กับผู้อื่นที่อาจจะไปเดินทางตามรอยด้วย

บทความนี้เป็นหนึ่งในซีรี่ส์ Collaboration กับ คุณรุจ (ศุภรุจ เตชะตานนท์​) หรือ รุจ เดอะสตาร์ ซึ่งปัจจุบันรับอีกบทบาทเป็นแอดมินสุดเฟรนด์ลี่ที่คอยแบ่งปันมุมสวยๆ ของญี่ปุ่นในเพจ Outside The Room โดยซีรี่ส์นี้เป็นซีรี่ส์ที่เราจะขอชวนทุกคนก้าว Outside The Room ของตัวเองและเข้ามาเที่ยว Inside โทโฮคุพร้อมข้อมูลแน่นปั้กและเรื่องเล่าแบบ Insight จากคุณรุจ สำหรับบทความตอนที่ 2 นี้ เราขอชวนทุกคนดึงเก้าอี้ตัวโปรดมานั่งและฟังเรื่องเล่าจากการเดินทางของคุณรุจ หลังจากอ่านจบ เพื่อนๆ อาจจะอยากหยิบกล้องตัวโปรดขึ้นมาสะพายและเดินทางไปโทโฮคุเลยก็ได้

“ลำธารโออิราเสะ” จุดเริ่มต้นการเดินทางในมุมมองใหม่ของรุจ ศุภรุจ




Q : ในบรรดาสถานที่ที่เคยไปมาในโทโฮคุ ที่ไหนที่คุณรุจถือว่าเป็น The Best?

ถ้าพูดถึงที่เที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุที่ดังๆ ในกลุ่มคนไทยมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อนน่าจะเป็น “ลำธารโออิราเสะ” ในจังหวัดอาโอโมริ เป็นลำธารที่ไหลจากทะเลสาบโทวาดะ เวลาเที่ยวก็เดินริมลำธารไปเรื่อยๆ ซึ่งจะไหลขนาบถนนที่โค้งไปมา ที่สำคัญคือเดินทางสะดวกด้วยเพราะนั่งรถไฟชินกันเซ็นมาลงที่สถานี Shin-Aomori ในจังหวัดอาโอโมริแล้วนั่งรถบัสมาลงที่ลำธารได้เลย


ตอนเที่ยวจริงๆ จังๆ ในภูมิภาคโทโฮคุครั้งแรกก็มาเที่ยวที่นี่แหละ เคยมากับทัวร์ครั้งนึงเมื่อต้นพฤศจิกายนปี 2014 แต่ทำได้แค่ลงรถมาเดินวนๆ แล้วกลับขึ้นรถ แถมยังเป็นช่วงเลยจุดพีคใบไม้เปลี่ยนสีมาแล้ว แต่เรารู้ว่าถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้องสวยแน่ๆ ปีถัดมาก็เลยทำทริปมาเองแล้วก็เดินยาวๆ ตามธารน้ำจนถึงทะเลสาบโทวาดะ รวมเกือบ 14 กิโลเมตรซึ่งจะมีน้ำตกและใบไม้สีทองให้ได้ดูตลอดทาง ได้รูปสวยๆ มาเยอะมาก แต่ก็มีเรื่องติดขัดบ้าง เช่นตอนที่พยายามเอาขาตั้งกล้องเข้าไปตั้งตรงกลางธารน้ำแต่ก็ลื่น ฟิลเตอร์อันละแปดเก้าพันร่วงหายไปเลย (หัวเราะ)



พอเอารูปไปลงอินสตาแกรมคนก็ฮือฮากัน เพราะตอนนั้นทำผมสีเทา แล้วหนังเรื่อง Rise of the Guardians กำลังดังพอดี คนเห็นรูปก็เลยฮือฮา มีแซวๆ ว่าทำสีผมเหมือนแจ็คฟรอสต์เลย แล้วมีคนเอาไปเขียนข่าวว่าเราเปลี่ยนสายแล้วนะ เป็นสายท่องเที่ยว แบกกล้อง หัวเทา ก็เลยเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นการเที่ยวจริงๆ จังๆ ครั้งแรก

Q : ระหว่างมาเที่ยวกับทัวร์และมาเองต่างกันมากไหม?

ต่างกันมากๆ ตอนมากับทัวร์เราได้แค่ลงไปเดินดูรอบๆ แป๊บเดียวก็ต้องกลับขึ้นรถละ แต่ถ้ามาเองก็เดินชมธรรมชาติได้เรื่อยๆ ถือว่ายืดหยุ่นกว่ามากับทัวร์ แล้วเรารู้สึกว่ากับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบนี้ต้องให้เวลากับมัน ทางเดินก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากด้วย เดินเลียบลำธารไปเรื่อยๆ อากาศเย็นสบาย ต้นไม้ปกคลุมตลอดทาง เจออะไรสวยๆ ก็แวะถ่ายรูปได้เลย


Q : หลังมาเที่ยวลำธารโออิราเสะเป็นที่แรกในโทโฮคุ รู้สึกยังไงบ้าง?

หลังจากนั้นก็มาทุกปีเลยเพราะวิวธรรมชาติสวยมาก ติดใจ (หัวเราะ) อิมเมจของเราที่มีต่อใบไม้เปลี่ยนสีมันเปลี่ยนไปเลยหลังจากมาที่โทโฮคุ

เวลาพูดถึงใบไม้เปลี่ยนสีหรือใบไม้แดง คนไทยมักจะคิดถึงใบเมเปิ้ลสีแดงสดๆ แบบในเมืองเกียวโต ตอนเราเที่ยวญี่ปุ่นแรกๆ ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่พอได้มาที่โทโฮคุความคิดเราก็เปลี่ยนไป โทโฮคุจะมีพื้นที่ธรรมชาติเยอะกว่าภูมิภาคอื่น แล้วช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเนี่ยจะเปลี่ยนทั้งภูเขาเลย ไม่ใช่แค่สีแดง แต่จะมีทั้งสีส้มและเหลืองด้วย เวลาโดนแดดจะเปลี่ยนเป็นสีทองอลังการมาก เรารู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่ ดูว้าว เหมือนได้มาดูใบไม้เปลี่ยนสีจริงๆ แล้วด้วยความที่พื้นที่กว้าง คนไม่แออัด ต่างคนต่างอยู่ รู้สึกสงบ ได้อยู่กับตัวเอง กับธรรมชาติ โมเม้นท์การเสพใบไม้เปลี่ยนสีของเรามันเปลี่ยนไป

การมาเที่ยวโทโฮคุเหมือนได้เปิดโลกการชมใบไม้เปลี่ยนสีแบบใหม่ และเราชอบแบบนี้มากกว่า ชอบความที่ใบไม้เปลี่ยนสีทั้งเขา เรื่องธรรมชาติขอยกให้โทโฮคุเป็น The Best อันนี้กล้าพูดจากที่เคยไปมาทั้งหมดละ

ข้อมูลเกี่ยวกับ “ลำธารโออิราเสะ (おいらせ)”

ลำธารที่ในจังหวัดอาโอโมริ ไฮไลท์คือวิวแมกไม้ ลำธาร น้ำตก และสะพานไม้ให้ชมตลอดทาง ช่วงฤดูร้อนทั้งป่าจะเป็นสีเขียวเข้มสวยงาม ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะเปลี่ยนเป็นสีโทนส้มทอง เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสความงามของธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

ที่ตั้ง: 60 Okuse, Towada, Aomori 034-0301, Japan
การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงที่ JR Aomori Station หรือ JR Shin-aomori แล้วนั่งรถบัส JR Tohoku Bus ไปลงที่ป้าย Yakeyama
ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำ: ปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน
เว็บไซต์:towadako.or.jp/towadako-oirase
แผนที่



สัมผัสทุกความเป็นโทโฮคุผ่าน “นิวโตออนเซ็น”


Q : ถ้าให้เลือกภาพสถานที่หนึ่งมาเล่าเสน่ห์ของโทโฮคุ คุณรุจเลือกที่ไหน?

ถ้าพูดถึง “โทโฮคุ” ก็จะนึกถึง “ธรรมชาติ” ซึ่งเราอยากหยิบเอาออนเซ็นมาพูดถึงบ้างเพราะเรารู้สึกว่าในภูมิภาคโทโฮคุก็มีออนเซ็นเด็ดๆ เยอะเหมือนกัน และที่เรายกให้เลยก็คือ “นิวโตออนเซ็น”


นิวโตออนเซ็นเป็นออนเซ็นกลางหุบเขาลึกในอุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไตใกล้ๆ ทะเลสาบทาซาวะ เวลาแช่ก็จะเห็นภูเขาพร้อมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีเอกลักษณ์ของโทโฮคุ จุดเด่นอีกอย่างของนิวโตออนเซ็นคือสีน้ำที่เป็นสีน้ำนมตามชื่อ (乳頭温泉 nyuto-onsen, นิว 乳 แปลว่านม) โดยนิวโตออนเซ็นมีเรียวกังทั้งหมด 7 ที่ แต่ไม่จำเป็นต้องเข้าพักก็แช่ออนเซ็นได้ แค่ซื้อตั๋วใบเดียวที่ให้เราแช่ได้ทุกบ่อ


แต่ไหนๆ ก็มาแล้วเราแนะนำให้พักสักคืนเพื่อซึมซับบรรยากาศแบบสุดๆ โดยเฉพาะที่ซึรุโนะยุ (鶴の湯, Tsuru no Yu) เรียวกังญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดมากกว่า 400 ปี คลาสสิกมาก ได้แช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติและใบไม้แดงนะ ฟินมากๆ กับอาหารของที่นี่ก็จะมีซุปหม้อไฟมันภูเขา (山の芋鍋) อาหารท้องถิ่นภูมิภาคโทโฮคุด้วย เสิร์ฟเป็นหม้อห้อยอยู่ตรงกลางพร้อมปลาย่างปักอยู่รอบๆ อารมณ์บ้านญี่ปุ่นสมัยก่อนเลย

สรุปคือมาที่นี่แล้วได้ครบทุกอย่างของความเป็นโทโฮคุเลย ทั้งวิวใบไม้เปลี่ยนสี ธรรมชาติ อาหารการกิน ออนเซ็น ใครชอบความเป็นญี่ปุ่นควรมาสักครั้งในชีวิต

ข้อมูลเกี่ยวกับ “นิวโตออนเซ็น (乳頭温泉)”

แหล่งออนเซ็นธรรมชาติในอุทยานโทวาดะฮาจิมันไต โอบล้อมด้วยธรรมชาติรอบด้าน มีออนเซ็น 7 แห่งด้วยกัน จุดเด่นคือสีน้ำฟ้าขาวนวลๆ คล้ายน้ำนม ที่พักมีทั้งเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุคและแบบโมเดิร์นให้เลือก ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ “ซึรุโนยุ” เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นโบราณพร้อมแช่ออนเซ็นกลางธรรมชาติอันงดงาม

ที่ตั้ง: Tazawa, Tazawako, Semboku, Akita, Japan 〒014-1204
การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงที่ JR Tazawako แล้วต่อด้วยรถบัส Ugo kotsu มาลงป้าย Nyuto Ganiba Onsen
ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำ: ช่วงเดือนตุลาคม

แผนที่



วินาทีที่กดชัตเตอร์ สิ่งที่ได้คือภาพถ่ายและความทรงจำใน “ทาดามิ”




Q : ในบรรดาสถานที่ในโทโฮคุ ที่ไหนที่ต้องเตรียมตัวและวางแผนมากที่สุด?

คิดว่าเป็นรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิหมายเลข 1 ที่จังหวัดฟุกุชิม่านะ ไม่เชิงว่ายากแต่ถ้าอยากได้รูปสวยๆ ช็อตดีๆ แบบที่เราถูกใจต้องทำรีเสิร์ชประมาณนึง คือทาดามิเป็นสะพานในเส้นทางรถไฟจากสถานี JR Aizu-wakamatsu ในฟุกุชิม่าไปสถานี JR Koide ในนีงาตะ มุมดังๆ ที่เขาชอบไปถ่ายกันก็จะมีประมาณ 4-5 มุม เป็นมุมที่จะเห็นหุบเขาสองฝั่ง ตรงกลางเป็นรางรถไฟ จังหวะที่รถไฟออกมาพอดีนี่แหละที่เขาชอบถ่ายกัน


เท่าที่เคยไปมา 3-4 รอบ ก็ต้องหาข้อมูลล่วงหน้าเยอะมากๆ ว่าถ้าอยากถ่ายรถไฟกับวิวนี้จะมีมุมไหนบ้างที่ถ่ายแล้วสวย ยิ่งถ้าอยากได้วิวสภาพแวดล้อมในช่วงฤดูต่างๆ ควรจะต้องมาช่วงไหนถึงจะพีค บวกกับต้องเช็กเวลารถไฟด้วย แต่โชคดีที่รถไฟญี่ปุ่นเขาแม่นเรื่องเวลามากก็เลยไม่ยากเท่าไหร่ แล้วทางสถานที่เขาก็อำนวยความสะดวกให้พร้อม ไม่ได้ให้นักท่องเที่ยวไปอยู่ตามพงหญ้าแล้วก็ถ่าย (หัวเราะ)

Q : ทำการบ้านก็เยอะแล้ว ตอนหาจังหวะกดชัตเตอร์ให้ได้ช็อตดีๆ ยากไหม?

ไม่ค่อยยาก แต่ก็ต้องหามุมดีๆ รอเวลา แล้วจังหวะที่รถไฟออกจากหุบเขาต้องรัวชัตเตอร์นิดนึง เพราะรถไฟมาแป๊บเดียวแล้วก็ไป ถ้ารูปไม่ถูกใจก็ต้องไปหามุมใหม่ รถไฟไปปุ๊บต้องเก็บของทุกอย่างขึ้นรถแล้วไปอีกจุดเลย อีกอย่างคือส่วนมากเขาจะไม่ถ่ายช่วงบ่ายกันเพราะแสงไม่สวยเท่าตอนเช้า

จำได้เลยว่ารถไฟจะออกประมาณ 7.22 พอใกล้ถึงเวลาจะได้ยินเสียงรถไฟดังมาแต่ไกล ก้องสะท้อนทั้งภูเขา ตอนนั้นทุกคนที่มารอถ่ายรูปเงียบกันหมดเลยนะ ไม่มีใครพูดอะไรเลย แล้วจังหวะที่หัวรถไฟออกมาเสียงชัตเตอร์จะรัวมากจนรถไฟหายไป

Q : คุณรุจคิดว่ามีช็อตไหนที่อยากเก็บภาพให้ได้เป็นพิเศษไหม?

ก็คงเป็นทุกช็อต (หัวเราะ) เพราะกลัวว่าสักวันนึงรถไฟจะไม่อยู่แล้ว อย่างรถไฟทาดามิเมื่อก่อนไม่ใช่ขบวนนี้นะ เป็นรถจักรดีเซล (キハ40形, Kiha 40 Series) ซึ่งมันคลาสสิกเข้ากับบรรยากาศมาก ชอบมาก แต่ตอนนี้เป็นขบวนใหม่ เท่ากับว่าจะไม่ได้ถ่ายรูปรถไฟแบบเดิมที่เราชอบแล้ว ของบางอย่างก็ไม่รู้ว่าจะหายไปเมื่อไหร่ ภาพที่เราถ่ายก็เลยเป็นเหมือนคอลเลคชั่นเฉพาะของเราที่มีความทรงจำดีๆ และสตอรี่อยู่ในนั้น

คนญี่ปุ่นจะชอบรถไฟมากกว่ายานพาหนะอื่นๆ เพราะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันเขา ตั้งแต่เรียนจนทำงานก็นั่งรถไฟตลอด เขาก็เลยมีความรู้สึกพิเศษให้รถไฟ พอเราไปญี่ปุ่นบ่อยๆ เข้าเราก็ซึบซัมความรู้สึกตรงนี้ของเขามาด้วย เข้าใจเลยว่าทำไมเวลามีข่าวรถไฟปลดระวางถึงมีคนมายืนร้องไห้ส่ง เข้าใจว่าทำไมช่างภาพญี่ปุ่นชอบถ่ายรูปรถไฟ มีถ่ายทุกมุม ทุกเมือง ทำให้ทุกวันนี้ถ่ายรถไฟบ่อยเหมือนกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับ “สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิหมายเลข 1 (第一只見川橋)”

สะพานในทางรถไฟที่เชื่อมจังหวัดฟุกุชิม่าและจังหวัดนีงาตะ มีจุดเด่นคือมุมที่สะพานรางรถไฟถูกขนาบด้วยเขาสูงและมีแม่น้ำทาดามินิ่งสงบไหลผ่านเบื้อง

ที่ตั้ง: Kawai, Mishima, Onuma District, Fukushima Prefecture 969-7515
การเดินทางไปจุดชมวิว Tadami River First Bridge : นั่งรถไฟสาย JR Tadami ไปลงที่ JR Aizu-Miyashita แล้วต่อด้วยรถบัสไปลงที่ Oze-kaido Mishima Juku
ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แนะนำ: ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
เว็บไซต์: fukushima.travel

แผนที่



เสน่ห์การเดินทางด้วยรถไฟ JR EAST ที่ไม่ใช่แค่การนั่งชมวิว

Q : จากที่คุยกันมาจะมีสถานที่ที่ต้องนั่งรถไฟไปอยู่เยอะ เสน่ห์ของการนั่งรถไฟสำหรับคุณรุจคืออะไร?

รู้สึกประทับใจความสะดวก ประหยัด จัดทริปง่ายเพราะสถานีรถไฟหลายแห่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวเลย

ประเทศญี่ปุ่นเขาโดดเด่นเรื่องรถไฟอยู่แล้ว จะไปที่ไหนก็สะดวก ยิ่งมีตั๋วรถไฟพิเศษแบบ JR EAST PASS เข้ามาช่วยยิ่งทุ่นเวลาแล้วก็ประหยัดไปได้เยอะ ภูมิภาคโทโฮคุถึงจะมีแค่ 6 จังหวัด แต่ก็มีลักษณะเป็นแนวยาวจากเหนือลงใต้ แต่ละจังหวัดอยู่ห่างพอสมควร ให้เราขับรถจากโตเกียวไปอาโอโมริก็เหมือนเราขับจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ 7-8 ชั่วโมง มันไม่ไหวหรอก เพราะงั้นถ้าเราใช้ตั๋ว Pass ในการเดินทางเข้ามาช่วยมันสะดวก นั่งรถไฟจากโตเกียวไปอาโอโมริแค่สาม 3 ชั่วโมงเอง เร็วขึ้น เดินทางง่ายขึ้น แล้วเราใช้ตั๋วพิเศษอันนี้ไปลงสถานีใกล้ๆ สถานที่ดังๆ ได้เลย

ตอนแรกที่เริ่มเที่ยวก็นั่งรถไฟอย่างเดียว พอถ่ายภาพก็ใช้รถยนต์เข้ามาช่วยบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็จำเป็นต้องใช้รถไฟอยู่ดีเพื่อให้สะดวกสบายและใช้เวลาได้คุ้มค่าที่สุด แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลย คุ้มมาก นั่งไปได้ทั่วภูมิภาคโทโฮคุเลยแค่ 20,000 เยนเอง

ที่สำคัญที่สุดคือจะมีพวกรถไฟขบวนพิเศษ เช่น Joyful Train ที่ให้เราได้มากกว่าแค่การนั่งรถไฟเพื่อไปถึงที่หมายอย่างเดียว เป็นตั๋วที่ให้เราได้สนุกกับการนั่งรถไฟและพาเราไปสัมผัสความสนุกซึ่งรอเราอยู่ที่จุดหมายปลายทาง


มาถึงตรงนี้ ถ้าเพื่อนๆ อยากไปตามหาเสน่ห์ของโทโฮคุแบบคุณรุจบ้าง เราขอแนะนำตัวช่วยนั่นคือ JR EAST PASS (Tohoku Area) ตั๋ว Pass สุดคุ้มที่ขอแค่ถือพาสปอร์ตอื่นๆ ที่ไม่ใช่พาสปอร์ตญี่ปุ่นก็ซื้อได้ แน่นอนว่าคนไทยเราซื้อได้แน่นอน โดยเราสามารถใช้ตั๋วนี้นั่งรถไฟ รถไฟชินกันเซ็น และรถบัสบางส่วนในเครือ JR East ได้แบบไม่อั้นทั่วโทโฮคุในราคา 20,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่ และ 10,000 เยน ตลอดระยะเวลา 5 วันติดกัน ซึ่งลำพังราคาปกติของตั๋วรถไฟชินกันเซ็น (กรณีโดยสารรถไฟ Hayabusa โดยซื้อตั๋ว Reserved Seat ทั่วไปในซีซั่นปกติ) จากสถานี JR Tokyo ไป JR Sendai แบบไป-กลับก็ราคา 22,820 เยนแล้ว นับว่าเป็นราคาที่คุ้มมากๆ แถมผู้ซื้อตั๋วยังสามารถจองที่นั่งบนรถไฟชินกันเซ็นล่วงหน้าได้ฟรี และใช้ขึ้นรถไฟธีมพิเศษ​ Joyful Train เพื่อเพิ่มสีสันให้กับการเดินทางได้อีกด้วย จ่ายทีเดียวจบแถมนั่งคุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

ซื้อตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) ได้ที่: JR EAST Official Website

Special Thanks


คุณรุจ (ศุภรุจ เตชะตานนท์) หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ รุจ เดอะสตาร์ เป็นศิลปินผู้มีผลงานอัลบั้มและเพลงมากมาย นอกจากความสามารถด้านการร้องเพลงแล้ว คุณรุจยังถ่ายทอดความหลงใหลในประเทศญี่ปุ่นผ่านผลงานภาพถ่ายที่มีสไตล์เฉพาะตัวพร้อมข้อมูลละเอียดชนิดที่อ่านแล้วไปตามได้เลยในเพจ Outside The Room ด้วยประสบการณ์เดินทางถ่ายภาพในญี่ปุ่นร่วม 7 ปี คุณรุจปล่อยผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คและหนังสือรวมภาพหลายเล่ม เช่น JAPAN BEST DESTINATIONS สุดยอดจุดหมายที่คนรักญี่ปุ่นต้องไป, ไม่มีการเดินทางครั้งใดที่สูญเปล่า ฯลฯ

ติดตามคุณรุจ ศุภรุจได้ทาง
Facebook : Outside The Room
Instagram : @suparuj

ยังมีเรื่องราวสนุก ๆ และน่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นอีกมากมาย ติดตามได้ที่ ANNGLE 
กำลังโหลดความคิดเห็น