xs
xsm
sm
md
lg

เอาไหมถ้าเทพเจ้าบันดาลโชคลาภ แต่ต้องเจอคนกลั่นแกล้ง! : Golden Gold!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว อาทิตย์ที่แล้วผมพูดถึงข่าวโยชิกิ X JAPAN กำลังจะตั้งวงดนตรีขึ้นมาใหม่ ซึ่งในวันแถลงข่าวมีสมาชิกวงคนหนึ่งพูดว่า ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้นำเรื่องอนิเมชั่น มังงะและเกม แต่สำหรับดนตรีนั้นคงจะอีกนานกว่าจะก้าวไปถึงระดับโลก แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาจะพยายามทำต่อไป ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าจะเป็นไปได้จริงไหม ยังไม่รู้เลยว่าวงจะดำเนินกิจกรรมทางดนตรีต่อไปอีกกี่เดือน จะทำตามที่พูดหรือเปล่า?! แต่ลึกๆ แล้วคนญี่ปุ่นก็เป็นกำลังใจและอยากให้วงดนตรีพยายามจริงๆ ครับ


ตอนนี้ผมมีงานรีวิวเรื่องย่อนิยายญี่ปุ่นอยู่ด้วย พอได้อ่านหนังสือที่เข้าข่ายจะได้รับเลือกมาแปลเป็นภาษาไทย ก็พลางคิดว่าที่จริงนอกจากนิยายต่างๆ ที่ได้รับการแปลไปแล้ว ยังมีวรรณกรรมญี่ปุ่นดีๆ ที่น่าสนใจอีกหลายเรื่องหลากหลายประเภท บางเรื่องมีต่างประเทศนำไปแปลบ้างแล้วแต่ยังไม่ได้มีการแปลที่ประเทศไทย บางเรื่องนำเสนอทางแอปพลิเคชันแต่สนุกและน่าสนใจมากๆ ครับ คิดแบบที่เขาบอกเช่นกันว่าวงการมังงะและอนิเมชั่นญี่ปุ่นยังโดดเด่นกว่าวงการดนตรีอยู่มาก


เมื่อไม่นานมานี้มีมังงะที่เผยแพร่ทางแอปพลิเคชันอยู่เรื่องหนึ่งชื่อว่า『ゴールデンゴールド』(Golden Gold) ตอนแรกผมอ่านผ่านๆ มีเนื้อหาประมาณว่าตัวเอกที่เป็นสาวน้อยมัธยมต้นชอบหนุ่มน้อยโอตากุวัยเดียวกัน และไม่อยากให้หนุ่มออกจากเกาะจึงขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภให้มีร้านการ์ตูนมังงะที่เกาะ และหลังจากนั้นก็เริ่มมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นบนเกาะแห่งนั้น ซึ่งถ้าดูจากโครงเรื่องคร่าวๆ เหมือนจะไม่น่าสนใจเท่าไหร่นัก ผมยังคิดว่าเราก็วัยผู้ใหญ่มากทำไมต้องไปอ่านวรรณกรรมความรักของเด็กน้อยอีกล่ะเนี่ย แต่ทว่าเมื่อเพจขึ้นโชว์ข้อความว่านักเขียนของเรื่องนี้เป็นนักเขียนคนเดียวกับคนที่เขียนเรื่อง Kokkoku!!! จากที่ไม่อยากอ่านๆ พอรู้ว่าเป็นงานของนักเขียน Kokkoku: Moment by Moment (刻刻, Kokkoku) เท่านั้นเอง あー!刻刻の人かー!(´・∀・` )รีบอ่านเลยครับ สาวกของนักเขียนและคนที่ชื่นชอบ Kokkoku อยู่แล้วรีบมาอ่านเรื่องนี้กันอย่างล้นหลาม แม้คนอ่านแทบจะจำไม่ได้ว่าคนเขียนเรื่อง Kokkoku คือใคร แต่คนอ่านรู้จักเรื่อง Kokkoku ดี จึงไม่ลังเลใจที่จะอ่านเรื่อง Golden Gold เลยครับ


ความคล้ายที่แตกต่างกันของทั้งสองเรื่องคือ นักเขียนเรื่องนี้เป็นผู้ชายแต่เขียนให้ตัวเอกทั้ง Golden Gold และ Kokkoku เป็นผู้หญิงทั้งสองเรื่องเลย Kokkoku เขียนเมื่อปี 2007 มีโครงเรื่องและเนื้อหาที่เรียลตรงกับสภาพสังคมญี่ปุ่นสมัยนั้นมาก เช่นเรื่องโครงสร้างครอบครัวที่ปู่ย่าตายายเกษียณออกมาอยู่บ้าน ส่วนพ่อและลูกก็ตกงาน และเมื่อน้องสาวพระเอกท้องแต่ไม่ได้บอกว่าท้องกับใคร จุดเริ่มต้นของเรื่องมาจากความรู้สึกว่าไร้ความหวัง! และมีเรื่องเหลือเชื่อเติมเข้ามาให้เป็นสีสันคือการหยุดเวลาและเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่หยุดเวลานั้นเอง ในทวิตเตอร์เขียนเกี่ยวกับ Kokkoku และ Golden Gold ไว้หลายกระทู้ “Kokkoku เป็นเรื่องที่สนุกมาก เมื่อ Kokkoku ใช้หินก้อนหนึ่งเพื่อหยุดเวลา เป็นผลงานชิ้นเอกที่แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ที่เหนือโลก ไม่เพียงแต่หยุดเวลาลงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกำหนดองค์ประกอบโดยละเอียดด้วย ดังนั้นทุกคนสามารถอ่านได้อย่างสนุกและเพลิดเพลินมาก”


ทั้งสองเรื่องมีโครงเรื่องและวางมิติตัวละครตามสภาพความเป็นจริงในสังคมญี่ปุ่นอย่างตรงประเด็น นี่คือจุดเด่นที่ทำให้เข้าถึงคนอ่านได้ดี ส่วนเหตุการณ์ในเรื่อง Golden Gold คือปี 2017 เป็นการวางรายละเอียดต่างๆ โดยอิงจากความเป็นจริงในสังคมปัจจุบันมากๆ เช่นกัน คือเป็นยุคที่ญี่ปุ่นมีประชากรสูงอายุจำนวนมาก มีประชากรวัยเด็กค่อนข้างน้อย ในเรื่องเซ็ทฉากที่ชนบทในเกาะห่างไกล ผู้คนไม่สามารถที่จะหนีออกไปอยู่ที่ไหนได้จึงจำต้องอยู่ใช้ชีวิตในเกาะต่อไป ตัวเอกซึ่งเป็นเด็กวัยมัธยมต้นชอบเพื่อนโอตากุที่มีอายุไล่เลี่ยกันเพราะว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีงาม! เป็นการวางตัวละครที่อิงจากเรื่องจริงในยุคสมัยนี้มาก ก่อนนี้วรรณกรรมอื่นๆ ของญี่ปุ่นมักจะวางให้นางเอกแอบชอบพระเอกที่เป็นกัปตันทีมกีฬา เช่น บาสเกตบอล หรือเป็นนักเลงหัวไม้ที่บ้านรวยแต่ทำตัวเป็นนักเลงอะไรประมาณนี้ ไม่มีทางเขียนให้ตัวเอกเป็นโอตากุใจดีแน่ๆ


เมื่อพระเอกเรียนจบชั้นมัธยมต้นก็อยากออกจากเกาะไปเรียนต่อที่โอซาก้าอยู่กับพ่อที่เป็นพ่อครัวอยู่ที่นั่น เหตุผลหลักที่พระเอกอยากไปก็คือ มีร้านหนังสือการ์ตูนมังงะตั้งอยู่ห่างจากร้านที่พ่อทำงานแค่ 5 นาทีเท่านั้น แต่นางเอกไม่อยากให้พระเอกไปจากเกาะนี้ บังเอิญมีลูกค้ามาพักที่เกสต์เฮาส์ของคุณย่าเธอ นับว่าเป็นลูกค้าคนแรกในรอบ 10 ปีเพราะเกาะชนบทและห่างไกลมากไม่เคยมีมาแขกมาพักเลยเป็นเวลานาน นางเอกจะไปเก็บหอยที่ทะเลมาให้ลูกค้าก็บังเอิญเจอตุ๊กตาที่เหมือนเทพเจ้ามีชื่อว่า "Fuku no Kami (เทพเจ้าแห่งโชคลาภ) เธอจึงเก็บมาไว้ที่ศาลเจ้า แล้วอธิษฐานขอพรให้ที่เกาะนี้มีร้านการ์ตูนมังงะ (เพราะไม่อยากให้แฟนไปอยู่ที่โอซาก้า) จากนั้นเป็นต้นมาธุรกิจเกสต์เฮาส์ของคุณย่าก็เริ่มคึกคัก อยู่ๆ ก็มีลูกค้าจองเข้ามาเยอะขึ้นๆ จนทำให้ย่าเริ่มมีฐานะดีขึ้นจนภายหลังเปิดร้านสะดวกซื้อและร้านหนังสือได้ แต่ทว่าก็เริ่มมีปัญหาแปลกๆ เกิดขึ้นในเกาะนี้


ร้านสะดวกซื้อที่คุณย่าเปิดนับว่าเป็นร้านสะดวกซื้อแรกในเกาะจึงมีลูกค้ามาใช้บริการเยอะมาก ที่จริงในเกาะมีซูปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ อยู่หนึ่งแห่งแล้ว แต่เมื่อเจ้าของซูปเปอร์มาร์เก็ตเห็นความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจคุณย่า จึงโกรธและอิจฉาหาทางกลั่นแกล้งธุรกิจคุณย่าอยู่เรื่อยๆ ด้วยอำนาจของเทพเจ้ายิ่งทำให้ย่าร่ำรวยไม่หยุด และเปิดซูปเปอร์มาร์เก็ตขึ้นมาอีกแห่ง ทำให้เจ้าของซูปเปอร์มาร์เก็ตเดิมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะแย่แล้ว จึงไปปรึกษาผู้มีอิทธิพลของเกาะ ให้กลั่นแกล้งโดยเอารถบรรทุกปลาและขยะมาทิ้งที่หน้าร้านของย่า ตั้งแต่ตอนนี้ไปเริ่มมีเหตุให้ผู้มีอิทธิพลตายปริศนา แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่แปลกๆ ขึ้นมากมายบนเกาะ แต่เรื่องดำเนินไปด้วยความเรียล เหมือนชีวิตจริงในสังคมญี่ปุ่นจริงๆ ผมเองก็เกิดและโตที่ต่างจังหวัดอ่านไปๆ เข้าใจได้ดีเลย ปกติแล้วเราจะรู้กันว่าเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นจะมีออฟฟิศของยากูซ่าที่ไหนสักแห่งในเมือง แต่ถ้าเป็นเกาะห่างไกลผู้คน หรือเมืองชนบทมากๆ แม้จะมีตำรวจ ไม่มีออฟฟิศของยากูซ่า แต่จะมีผู้มีอิทธิพลของเมืองซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างหรือเจ้าของร้านบาร์เบียร์ หรือโรงแรมเลิฟโฮเต็ล เป็นต้น


เรื่องนี้เริ่มสนุกตั้งแต่นางเอกขอพรจากเทพเจ้าแห่งโชคลาภ และค่อยๆ พีคขึ้นเรื่อยๆ จาก Golden Gold เกาะเล็กๆ ที่มีความชนบทมากๆ มีผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุขแม้จะไร้ความหวัง แต่จากการประทานพรของเทพเจ้าทำให้สิ่งต่างๆ ค่อยๆ เจริญอู้ฟู่ขึ้น แต่ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายมากมายตามมา สะท้อนให้เห็นความชั่วร้ายของกิเลสมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ ว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัว ตัวละครหลายๆ ตัว ทั้งคนดี คนร้าย มีมิติ ซับซ้อนน่าสนใจดี เนื้อเรื่องแปลกใหม่น่าสนใจดีมาก อ่านแล้วตื่นเต้นลุ้นดีครับ ถ้าใครสนใจลองไปหาอ่านดูครับเป็นเรื่องที่ Impact คนญี่ปุ่นมากๆ


คิดว่าเพื่อนๆ อาจจะเคยวางวรรณกรรมบางเรื่องไว้ เพราะรู้สึกว่าไม่อยากอ่าน แต่ด้วยเครดิตของผู้เขียนที่เคยอ่านผ่านตามาก่อนแล้วชอบสไตล์การเขียนของเขา ทำให้เรื่องอื่นๆ ของเขาดูน่าสนใจไปด้วยใช่ไหมครับ ผมได้ติดตามอ่านเรื่อง Golden Gold แล้วก็เจอมุมมองการเขียนที่พลิกแพลงชี้ให้เห็นถึงความน่ากลัวของมนุษย์ได้อย่างดี จึงมาแนะนำครับ นักเขียนคนนี้เขาเขียนในแอปพลิเคชันซึ่งไม่ค่อยมีข้อมูลออกสื่อมากเท่าไหร่ บางคนไม่ทราบชื่อคนเขียนเลยแต่จำงานได้ เมื่อมีงานเขียนออกมาจึงมีคนติดตามอ่านค่อนข้างเยอะ วันนี้เล่าสู่กันฟังครับ สวัสดีครับ





กำลังโหลดความคิดเห็น